5 เรื่องราวเบื้องหลังเกม Super Mario Run ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

เปิดให้ดาวน์โหลดกันไปแล้วใน App Store กับเกม Super Mario Run ซึ่งกระแสตอบรับก็ค่อนข้างดีทีเดียวในตอนนี้ โดยเกมนี้นับเป็นเกมมือถือเกมแรกที่พัฒนาโดย Nintendo เต็มรูปแบบ (Pokemon Go พัฒนาโดย Niantic) สามารถดาวน์โหลดและลองเล่น 3 ด่านแรกได้ฟรี หากถูกใจก็สามารถจ่ายเงินประมาณ 350 บาทเพื่อปลดล็อคเกมตัวเต็มได้โดยทาง Nintendo ยืนยันว่าจะไม่มีการขายไอเทมจิปาถะใดๆ ในเกมอีก เรียกว่าจ่ายครั้งเดียวจบไม่ดูดเงินเราเรื่อยๆ แน่นอน

บางครั้งการได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตัวเกมก็ทำให้ความสนุกเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน ในโอกาสนี้เราจึงได้นำ 5 เรื่องน่าสนใจเบื้องหลังเกม Super Mario Run ที่ถูกเปิดเผยโดยคุณชิเงรุ มิยาโมโตะ ผู้ให้กำเนิดเกมมาริโอ้และอีกหลายเกมในตำนานของ Nintendo มาให้อ่านกันเล่นๆ ครับ

1. จริงๆ แล้ว Nintendo และมิยาโมโตะไม่อยากให้เกม Super Mario Bros. มาโผล่บนสมาร์ทโฟนเลย

อาจจะฟังดูย้อนแย้งแต่มิยาโมโตะไม่ค่อยอยากให้เราเล่นเกมของเขาบนสมาร์ทโฟนเท่าไหร่ เพราะเขามองว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นคุณค่าของเกมมือถือและมีทัศนะคติว่าเกมมือถือจะต้องเป็นของฟรี

“ผมไม่อยากทำอะไรน่าเบื่อ ถ้าเราจับเกม Super Mario Bros. ลง iPhone ทุกคนก็จะบอกว่า โอ้โห สุดยอดไปเลย แต่คิดว่าฉันจะยอมจ่ายเงินเหรอ ของแบบนี้มันต้องฟรีสิ” มิยาโมโตะกล่าว “เราพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าในตัวซึ่งผู้คนยินยอมพร้อมใจที่จะจ่ายเงินซื้อ” และนี่เองคือเหตุผลที่เขาไม่อยากให้เกมในตำนานของเขามาอยู่บนสมาร์ทโฟน แต่ก็อย่างที่เห็น ในที่สุด Super Mario Bros. ก็มาอยู่ใน iPhone และ iPad จนได้

2. Super Mario Run ได้แรงบันดาลใจมาจากคลิปวิดีโอการเล่นเกมมาริโอ้แบบ Speedrun

สมัยก่อนหลายคนคงเคยแข่งกับเพื่อนว่าใครจะเคลียร์เกมมาริโอ้ได้เร็วกว่ากัน ซึ่งในสมัยที่เกมยังไม่มีระบบเซฟการจะเล่นมาริโอ้ให้เคลียร์แบบม้วนเดียวจบเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนมากจริงๆ สำหรับคนทั่วไปการแข่งเคลียร์เกมอาจจะเป็นเรื่องเล่นขำๆ ในวัยเด็ก แต่สำหรับเกมเมอร์มันเป็นอะไรที่จริงจังกว่านั้นเพราะมันคือการแข่งกับเกม ตัวเอง และผู้เล่นคนอื่นไปด้วยในเวลาเดียวกัน จึงเกิดสไตล์การเล่นอย่างหนึ่งขึ้นมาคือ Speedrun ที่มีเป้าหมายคือการเคลียร์เกมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกมมาริโอ้ภาคแรกก็เป็นหนึ่งในเกมที่มักจะถูกนำมาแข่งขัน Speedrun และสถิติล่าสุดที่มีคนทำไว้ได้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านก็คือ 4 นาที 56 วินาที ตามคลิปด้านบน

การเล่นแบบวิ่งหน้าตั้งนี้เองที่ไปจุดประกายไอเดียเกม Super Mario Run ขึ้นมา โดยตั้งใจให้เป็นเกมแนว casual ที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่ก็มีอารมณ์ของ “ความเร็ว” ที่เกมเมอร์ระดับโปรชื่นชอบผสมอยู่ด้วยเช่นกัน

3. ลุงมาริโอ้เคยวิ่งทะลุโลกแบบนี้มาแล้วใน Wii

เกมมาริโอ้แนววิ่งไม่หยุดเคยมีมาก่อนแล้วบนเครื่องเล่น Wii โดยเป็นส่วนหนึ่งของภาค New Super Mario Bros. นอกจากมาริโอ้แล้วยังมีเกมแนววิ่งไปเรื่อยๆ อีกหลายเกมบน Wii เช่นกันก่อนที่เกมแนวนี้จะได้รับความนิยมบนสมาร์ทโฟนในยุคหลัง

4. Super Mario Run เป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ไม่ใช่เล่น

คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าการพัฒนาเกมบนสมาร์ทโฟนไม่จำเป็นต้องใช้คนและทรัพยากรมากเท่ากับการพัฒนาเกมลง PC หรือเครื่องคอนโซล แต่ไม่ใช่สำหรับ Super Mario Run แน่ๆ เพราะเกมนี้เป้นโปรเจ็คท์ใหญ่ทีเดียว โดยแบ่งเป็นทีมพัฒนา 3 ทีมแยกกันพัฒนาเกมในแต่ละโหมด ได้แก่โหมดเล่นคนเดียว โหมด toad rally และโหมดสร้างเมือง Kingdom Builder

5. มิยาโมโตะเกษียณตัวเองไปแล้วตั้งแต่ปี 2007 แต่กลับมาดูแลโปรเจ็คท์เกม Super Mario Run โดยเฉพาะ

เกมในซีรี่ส์ Super Mario Bros. ล่าสุดที่มิยาโมโตะมีส่วนร่วมคือภาค Super Mario Galaxy ซึ่งเป็นแนวแอ็คชันผจญภัย 3D บนเครื่อง Wii เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ก่อนจะเกษียณตัวเองจาก Nintendo การที่เขาอุตส่าห์กลับมาดูแล Super Mario Run ในครั้งนี้ เพราะเขามองว่านี่คือ “ก้าวใหม่” ของ Super mario Bros. และเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องกลับมาประคับประคองมันไปให้ได้

“เวลาเราจะเริ่มก้าวใหม่เช่นนี้ -- อย่างเช่นใน Super Nario Galaxy ก็เป็นก้าวใหม่เหมือนกัน และในครั้งนี้ก็เป็นก้าวแรกของเราบนแพลตฟอร์มมือถือ นี่ก็เป็นก้าวใหม่ด้วยเหมือนกัน -- ซึ่งผมก็จะเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น โดยมีส่วนร่วมตั้งต้นจนจบเลยทีเดียว” มิยาโมโตะกล่าว

ใครที่เป็นแฟนคลับลุงมาริโอ้หรืออยากจะหาเกมสนุกเล่นสบายๆ ในช่วงหยุดยาวสิ้นปีนี้ก็ลองดาวน์โหลดเกม Super Mario Run มาเล่นกันดูได้ สำหรับชาว Android ก็อย่าเพิ่งเสียใจเพราะในอนาคตอันใกล้นี้อาจจะมีการพอร์ตเกม Super Mario Run ไปลงใน Play Store ด้วยเช่นกันครับ

---------------------------------------
ที่มา : Phone Arena
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 16/12/2016

Super Mario Run