หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

จากฮีโร่กลายเป็นผู้ร้าย! หลังผู้หยุดการระบาดของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry ถูกจับ ในข้อหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ Kronos ขโมยบัญชีธนาคาร

หากใครยังจำกันได้ เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีข่าวการระบาดของ Ransomware หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ในชื่อ WannaCry ที่สร้างความเสียหายให้กับองค์กรใหญ่ ๆ ในหลาย ๆ ประเทศ และในช่วงนั้น Marcus Hutchins นักวิจัยด้านมัลแวร์ เจ้าของเว็บไซต์ MalwareTech พบวิธีปิดการทำงานของ WannaCry ได้สำเร็จ แต่ล่าสุด ฮีโร่ผู้หยุดการระบาดของ WannaCry กลับกลายเป็นผู้ร้ายเสียแล้ว เมื่อเจ้าตัวถูกทาง FBI จับกุม ในข้อหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง Kronos ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ขโมยบัญชีธนาคาร ที่ระบาดเมื่อปี 2014

โดยแหล่งข่าวเผยว่า Marcus Hutchins ได้ถูกทาง FBI จับกุมที่สนามบิน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจากงานประชุม Def Con Hacking ที่ลาสเวกัส และเจ้าตัวกำลังเดินทางกลับบ้านในลอนดอน ด้วยข้อหาเป็นหนึ่งในผู้สร้างมัลแวร์ Kronos ขโมยข้อมูลบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตในเดือนกรกฎาคม ปี 2014 โดยเชื่อว่า นอกจาก Hutchins แล้ว ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกคนที่ไม่เปิดเผยชื่อ พร้อมกับมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอแสดงการทำงานของมัลแวร์ดังกล่าว และหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ทางผู้ร่วมขบวนการ ได้นำมัลแวร์ Kronos ออกขายด้วยราคาที่สูงถึง $3,000 หรือราว ๆ 105,000 บาท และในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ทาง Hutchins ก็ยังได้ทำการอัปเดตมัลแวร์ Kronos อีกด้วย

เบื้องต้นนั้น ทางศาลได้ยินยอมให้ Hutchins ได้รับการประกันตัวด้วยวงเงินประกัน $30,000 หรือราว ๆ 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ได้รับการประกันตัวแล้ว เจ้าตัวจะต้องอาศัยอยู่ที่ Halfway House หรือบ้านกึ่งวิถี (ที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ที่ได้ลดโทษ) โดยแหล่งข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า ทาง Hutchins ได้ยอมรับว่าเป็นผู้พัฒนามัลแวร์ Kronos และนำออกไปขายจริง ส่วนทางโจทก์ หรือ FBI ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดและหลักฐานว่า Hutchins เป็นผู้อยู่เบื้องหลังมัลแวร์นี้แต่อย่างใด

 

 

---------------------------------------
ที่มา : arstechnica.com (1) , (2)

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 07/08/2017

Malware Ransomware Wannacry Marcus Hutchins kronos





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy