หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] Samsung Galaxy Core สมาร์ทโฟนรุ่นคุ้มค่า มาพร้อมหน้าจอ 4.3 นิ้ว และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด

เรียกได้ว่าในปีนี้ ซัมซุง (Samsung) ยังคงเปิดตัว มือถือและสมาร์ทโฟน ครอบคลุมตลาดทั้งระดับไฮเอนด์ ไปจนถึงระดับล่าง เหมือนเช่นทุกๆ ปี เพื่อให้ผู้ใช้งาน มีทางเลือกในการซื้อมากขึ้นตามระดับราคาที่แตกต่างกัน โดยสมาร์ทโฟนที่ทางทีมงาน techmoblog นำมารีวิวในวันนี้นั้นก็คือ Samsung Galaxy Core โมเดล GT-I8262 ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของ การรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และที่สำคัญ ราคายังไม่แพงจนเกินไปอีกด้วยครับ

โดย Samsung Galaxy Core นั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับข่าวอัพเดทล่าสุด ที่เผยว่า Samsung Galaxy Core นั้น จะวางจำหน่ายในไทย ในวันที่ 6 กรกฏาคมนี้ ราคาเพียง 7,900 บาทเท่านั้น ก่อนจะพบกับ บทความ รีวิว Samsung Galaxy Core เรามาดูสเปค Samsung Galaxy Core กันก่อนครับ

สเปคเบื้องต้น Samsung Galaxy Core

- หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล (217 ppi)
- ซีพียูแบบ Dual-core processor ความเร็ว 1.2 GHz
- RAM 1 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียดระดับ VGA
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- รองรับการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
- รองรับเครือข่าย 3G โดยเป็นการแยกจำหน่ายโมเดล นั่นก็คือ 850/2100 MHz (สำหรับ Dtac, Truemove H) และ 900/2100 MHz (สำหรับ AIS) ต้องเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง
- แบตเตอรี่ขนาด 1800 mAh

อ่านสเปค Samsung Galaxy Core แบบละเอียด คลิ๊กที่นี่

Samsung Galaxy Core : ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับการออกแบบ Samsung Galaxy Core นั้น แน่นอนครับว่า ยังคงมีดีไซน์คล้ายกับ มือถือซัมซุง รุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านั้น โดยยังคงคอนเซปท์ ตัวเครื่องพลาสติก แต่ยังคงเป็นพลาสติกคุณภาพดี ที่มีกระบวนการผลิตชิ้นงานที่ละเอียด ซึ่งจุดเด่นของตัวเครื่องแบบพลาสติกนี้ก็คือ ทำให้มีน้ำหนักที่เบาลง

ด้านบนของจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียดระดับ VGA, เซ็นเซอร์ 2 จุด และลำโพงสำหรับสนทนาครับ ส่วนมุมขวานั้น มีการระบุคำว่า DUOS เพื่อเป็นการระบุว่า Samsung Galaxy Core รุ่นนี้ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดนั่นเอง

ด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบด้วย เมนูควบคุมการทำงาน ทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกัน โดย 2 ปุ่มซ้ายขวาก็คือ ปุ่มเมนู และปุ่ม Back ซึ่งเป็นปุ่มแบบสัมผัส ส่วนตรงกลาง เป็นปุ่ม Home ซึ่งเป็นปุ่มแบบ Physical button

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับเสียง ส่วนด้านขวานั้น เป็นช่องสำหรับแกะฝาหลัง และปุ่ม Power เปิด-ปิดเครื่องครับ

ด้านบนของตัวเครื่อง เป็นช่องสำหรับหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นพอร์ต microUSB และไมโครโฟนสำหรับการสนทนา

พลิกมาด้านหลังตัวเครื่อง จะเป็นกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบ Auto focus ส่วนด้านซ้ายนั้น เป็นถาดลำโพง ให้เสียงที่ดัง คมชัดครับ ซึ่งฝาหลังตัวเครื่องนั้น เป็นพื้นผิวเรียบลื่น และมีลวดลายเล็กน้อย

ฝาหลังตัวเครื่อง สามารถแกะออกได้ง่าย ภายในประกอบด้วย แบตเตอรี่แบบ Li-ion ขนาด 1800 mAh และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ micro-SIM card ทั้งหมด 2 ช่อง ส่วนช่องใส่ microSD card จะอยู่ใกล้กับช่องใส่ซิมการ์ดที่ 1 ซึ่งรองรับได้สูงสุด 64 GB

Samsung Galaxy Core : อินเทอร์เฟส และการใช้งานขั้นพื้นฐาน

Samsung Galaxy Core ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean พร้อมกับอินเทอร์เฟสแบบ TouchWiz ซึ่งหน้าตาโดยรวมแล้ว คล้ายกับ Samsung Galaxy S4 (S IV) อยู่บ้าง และการใช้งานส่วนใหญ่ เหมือนกับ สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ จากซัมซุงด้วยเช่นกัน มาดูหน้าตาของ อินเทอร์เฟส บน Samsung Galaxy Core ครับ

เริ่มกันที่หน้า Lockscreen บน Samsung Galaxy Core ครับ จะเห็นได้ว่า ฟังก์ชันการใช้งาน คล้ายกับ Samsung Galaxy S4 ตั้งแต่ภาพแบ็คกราวน์ ไปจนถึง เอฟเฟกซ์การปลดล็อค ส่วนแอพพลิเคชั่นแบบ shortcut 3 แอพฯ ด้านล่าง สามารถคลิ๊กแล้วเลื่อนเพื่อเปิดใช้งานได้ทันที

เมื่อปลดล็อคหน้าจอแล้ว ถัดมาจะเป็นหน้า Homescreen ครับ สำหรับอินเทอร์เฟสแบบ TouchWiz บน Samsung Galaxy Core จะมีการใช้งานเหมือนกับ มือถือซัมซุง รุ่นอื่นๆ รองรับหน้า Homescreen ได้ทั้งหมด 7 หน้าด้วยกัน และเนื่องจาก Samsung Galaxy Core มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว ทำให้สามารถเรียงไอคอนด้านล่างได้ 5 ไอคอนด้วยกัน

ในส่วนของ Notification จะมีความแตกต่างจาก มือถือซัมซุง รุ่นอื่น เล็กน้อยครับ เนื่องจาก Samsung Galaxy Core รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ทำให้การใช้งานในส่วนนี้ สามารถสลับการใช้งานซิมการ์ดได้นั่นเอง ซึ่งถือว่า สะดวก และรวดเร็ว ไม่ต้องเข้าหน้า Settings เพื่อทำการตั้งค่าใดๆ ครับ ในขณะที่การใช้งานส่วนอื่นๆ ก็จะคล้ายๆ กัน

หน้าแอพพลิเคชั่นรวม จะมีเมนูย่อยให้ใช้งานกัน 3 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ หน้าแอพส์ เป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกติดตั้งมาแล้วในตัวเครื่อง, วิดเจ็ด คลิ๊กเพื่อเลือกวางในหน้า Homescreen และสุดท้าย หน้าแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดผ่านทาง Play Store

App switcher เป็นหน้าสำหรับการสลับไปใช้แอพพลิเคชั่นอื่นที่เคยเปิดใช้งานแล้วก่อนหน้านั้น หรือ ปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่อง

ในส่วนของการใช้งานโทรศัพท์ มีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แป้นกดเบอร์แบบสัมผัส มีขนาดใหญ่ มีระบบ Smart Dial รองรับการค้นหาชื่อและเบอร์โทรศัพท์ ส่วน Logs หรือบันทึกล่าสุด จะเป็นการแสดงประวัติการใช้งานโทรศัพท์ ทั้งสายเรียกเข้า เบอร์โทรออก รวมถึงเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย

นอกจากนี้ Samsung Galaxy Core ยังรองรับเซ็นเซอร์ Proximity sensor ฉะนั้น ทุกๆ ครั้งที่กำลังใช้งานโทรศัพท์ หน้าจอจะดับเองอัตโนมัติครับ

ส่วนแกลอรี่ หรือคลังภาพ สามารถเลือกเรียงภาพได้ทั้ง อัลบั้ม, ตำแหน่ง และวันเวลาที่ถ่ายภาพได้ ส่วนการเลื่อนดูภาพ จะเป็นเลื่อนจากซ้ายไปขวา ซึ่งภาพแต่ละภาพ รองรับการแชร์ผ่าน ChatON, Gmail, Google+, Picasa และอื่นๆ

เครื่องเล่นเพลง รองรับไฟล์นามสกุล FLAC, MP3, AAC, AAC+, eAAC+, AC3 สามารถเลือก SoundAlive ได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบปกติ, Pop, Rock, Jazz ส่วนอินเทอร์เฟสการใช้งาน เครื่องเล่นเพลง มีอินเทอร์ที่เรียบง่าย และไม่ซับซ้อน

เครื่องเล่นวิดีโอ มีมุมมองทั้งหมด 3 แบบด้วยกันครับ ได้แก่ ภาพย่อ, รายการ และโฟลเดอร์ นอกจากนี้ ตัวคลิปวิดีโอ ยังสามารถขยายขนาดให้แสดงผลแบบเต็มหน้าจอได้อีกด้วย

Samsung Galaxy Core รองรับวิทยุ FM ครับ ซึ่งฟีเจอร์นี้ จำเป็นต้องใช้หูฟัง เพื่อช่วยในการค้นหาคลื่น สามารถบันทึกคลื่นโปรดได้ทั้งหมด 9 คลื่น และสามารถบันทึกเสียงคลื่นเพลงที่ชื่นชอบได้อีกด้วย

เนื่องจาก Samsung Galaxy Core เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด เราสามารถจัดการ การใช้งานซิมการ์ดแต่ละซิมได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > ตัวจัดการ SIM การ์ด ซึ่งสามารถกำหนดได้ว่า ถ้าหากจะเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต จะใช้ data จากซิมการ์ดไหน หรือเปิดใช้ฟีเจอร์ซิมคู่ สามารถรับสายได้จากทั้ง 2 ซิมการ์ดแม้อยู่ในระหว่างการโทร เป็นต้น

โดยจุดเด่นของการใช้งาน 2 ซิมการ์ดก็คือ

- ถ้าหากใช้ SIM 1 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 2 รับสายได้ หรือ ถ้าหากใช้ SIM 2 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 1 รับสายได้เช่นกัน
- ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 1 สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 2 ได้ หรือ ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 2 ก็สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 1 ได้เช่นกัน

มากันที่เบราเซอร์กันบ้างครับ โดยการตอบสนองต่อการใช้งานบน Samsung Galaxy Core สามารถตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี รองรับการ pinch to zoom และ double tap สามารถเพิ่ม bookmarks หรือบันทึกเว็บไซต์โปรด เพื่ออ่านแบบออฟไลน์ในภายหลัง

ทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Core กันบ้างครับ โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 3080 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 4852 คะแนน

ส่วนระบบมัลติทัชบน Samsung Galaxy Core รองรับทั้งหมด 5 จุดครับ

Samsung Galaxy Core : แอพพลิเคชั่นที่มีในตัวเครื่อง

เริ่มกันที่ S Planner หรือปฏิทิน ซึ่งสามารถซิงค์ข้อมูลปฏิทินเชื่อมกับ Facebook, Samsung account หรือ Google ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น วันเกิด หรืออีเวนท์ต่างๆ แต่ถ้าหากรู้สึกว่า ซิงค์มาแล้วทำให้การแสดงผลรกเกินไป ก็สามารถปิดการซิงค์ได้เช่นกัน

โดย S Planner นี้ ไม่ใช่แค่ปฏิทินธรรมดา ที่มีไว้ดูวันที่เพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถใช้เครื่องมือที่ให้มา จัดการกับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของเราได้อีกด้วย เพราะสำหรับท่านที่มีธุระ หรือนัดประชุมบ่อย ในแต่ละสัปดาห์ S Planner ช่วยได้มากครับ

S Voice คืออะไร S Voice ก็เปรียบเสมือนผู้ช่วยบนมือถือของเรานั่นเอง คล้ายกับ Siri บน iPhone ครับ โดยเป็นการสั่งการด้วยเสียง ไม่ว่าจะเป็น สั่งให้เปิดแอพพลิเคชั่น, เล่นเพลง, เปิดกล้อง และอื่นๆ อีกมากมาย

Samsung App แหล่งรวมแอพพลิเคชั่นเด่นๆ ที่ทางซัมซุง จัดหามาให้สำหรับผู้ใช้งาน ซัมซุง โดยเฉพาะนั่นเอง นึกไม่ออกว่า จะดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นอะไรมาใช้งานดี ลองเข้า Samsung App ดูครับ

Google Maps แผนที่ที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ ซึ่งบน Samsung Galaxy Core นั้น รองรับทั้ง GPS และ A-GPS ในตัว ฉะนั้น ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ไม่ต้องกลัวหลงทางอีกต่อไป แค่เปิด Google Maps ระบบก็นำทางเราไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ

ChatON แอพพลิเคชั่นสำหรับขาเมาส์ มีฟังก์ชันการใช้งานง่าย รองรับการแชทแบบกลุ่ม ส่งสติ๊กเกอร์ได้ ส่งภาพ ข้อความเสียง หรือส่งข้อความแบบ animation ได้อีกด้วย เบื่อเล่น LINE แล้ว ลองดาวน์โหลด ChatON มาเล่นกันดูนะครับสำหรับสาวกซัมซุง

นอกจากเบราเซอร์บน Samsung Galaxy Core จะมี Android browser แล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่น Chrome ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งบน Chrome มีฟังก์ชันซิงก์ระหว่างอุปกรณ์ เพียงแค่ลงชื่อเข้าใช้ Chrome ก็สามารถเปิดลิงค์ดังกล่าวได้บนอุปกรณ์อื่นเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่พกพาอุปกรณ์แอนดรอยด์หลายเครื่อง

Play Store แหล่งรวมแอพพลิเคชั่นจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับชาวแอนดรอยด์ มีทั้งแอพพลิเคชั่นฟรี และเสียเงิน แบ่งตามหมวดหมู่

ทดสอบการใช้งานด้านการเล่นเกมกันบ้าง โดยเกมที่นำมาทดสอบนี้ก็คือ Subway Surf สามารถเล่นได้ไหลรื่นดี ประกอบกับหน้าจอขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มมุมมอง และสัมผัสบนหน้าจอได้ถนัดขึ้น

Samsung Galaxy Core : รองรับฟังก์ชัน Smart Stay

ปกติแล้ว ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วไป มักจะมีการกำหนด Screen timeout หรือการที่หน้าจอดับลงเมื่อไม่ได้ใช้งาน โดยสามารถกำหนดช่วงระยะเวลาได้ เช่น 15 วินาที หรือ 30 วินาที ซึ่งในส่วนนี้ จะช่วยทำให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้พอสมควร แต่ในบางครั้งเมื่อเรากำลังใช้งานอะไรบางอย่างค้างอยู่ เช่น อ่านบทความ หรืออ่านนิยายออนไลน์ ซึ่งปกติจะไม่ได้สัมผัสหน้าจออยู่แล้ว หน้าจอมักจะดับลงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ แก้ได้ด้วยฟังก์ชันที่เรียกว่า Smart Stay ครับ โดย Samsung Galaxy Core ก็รองรับการใช้งานฟังก์ชันนี้เช่นกัน

Smart Stay จะเป็นตัวช่วยทำให้หน้าจอไม่ดับเอง เมื่อผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่ โดยสามารถเข้าไปเปิดใช้งาน Smart Stay ได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอ ซึ่งตรง "การพักหน้าจออัจฉริยะ (Smart Stay)" ให้ติ๊กเครื่องหมายถูก เพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว แถบบนสุดของหน้าจอ จะปรากฏรูปดวงตาออกมาครับ เป็นการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Smart Stay นั่นเอง

โดยจากการทดสอบ พบว่า ช่วยแก้ปัญหาหน้าจอดับได้จริง สะดวกต่อการใช้งานมากทีเดียวครับ

Samsung Galaxy Core : ทดสอบกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

อินเทอร์เฟสการใช้งานกล้องบน Samsung Galaxy Core นั้น คล้ายกับมือถือซัมซุงรุ่นอื่นๆ ครับ โดยด้านขวา จะเป็นปุ่มปรับโหมดการถ่ายภาพ เลื่อนไปด้านบน เป็นการถ่ายภาพนิ่ง เลื่อนมาด้านล่าง เป็นการถ่ายคลิปวิดีโอ ตรงกลางเป็นปุ่มชัตเตอร์ ส่วนล่างสุด เป็นการเข้าสู่แกลลอรี่

ส่วนด้านซ้ายสุด จะเป็นเมนูที่ถูกใช้งานบ่อยที่สุด ซึ่งมีให้เลือกถึง 13 ฟังก์ชันด้วยกัน สามารถเปลี่ยนไอคอนได้ด้วยการ แตะที่ไอคอนค้างไว้ แล้วลากไปไว้ทางด้านซ้าย เลือกได้สูงสุด 4 ฟังก์ชันครับ

โหมดการถ่ายภาพ มีให้เลือกทั้งแบบ ชอทเดียว, ต่อเนื่อง, พาโนราม่า, แชร์ภาพ, แชร์ภาพกับคู่หู และ สไมล์ชอท

ส่วนโหมดการถ่ายภาพวิดีโอ มีการใช้งานที่ไม่ต่างจาก โหมดถ่ายภาพนิ่ง สามารถตั้งเวลาถ่ายภาพได้ ปรับสมดุลสีขาว ความละเอียด และอื่นๆ

ลองมาดูตัวอย่างภาพที่ได้ จากกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy Core ครับ (คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น)

Samsung Galaxy Core : สรุปการใช้งาน

สำหรับ Samsung Galaxy Core นั้น ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคอยู่ในระดับกลางๆ เพิ่มความโดดเด่นตรงที่ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และเพิ่มพื้นที่การใช้งานด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว อีกทั้งยังมีระดับราคาที่ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Core

• ถ้าหากเปรียบเทียบกับ สมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ถือว่า Samsung Galaxy Core มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่พอสมควร โดยมีขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งาน
• รันระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean ตั้งแต่แกะกล่อง
• ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูง ผิวเรียบลื่น และชิ้นงานมีความปราณีต
• มีระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card สูงสุด 64 GB
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว ไม่จำเป็นต้องพกพาโทรศัพท์หลายๆ เครื่อง
• ประมวลผลการทำงานด้วยซีพียูแบบ Dual-core processor ความเร็ว 1.2 GHz
• กล้องด้านหลังตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบออโต้โฟกัส
• รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทั้ง Wi-Fi และเครือข่าย 3G
• ทดสอบการใช้งานโดยรวม ถือว่า ประมวลผลได้เร็วพอสมควร
• ราคาเพียง 7,900 บาท ซึ่งถือว่า เป็นระดับราคาที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับฟังก์ชันการใช้งานที่ได้รับ

จุดด้อยของ Samsung Galaxy Core

• สำหรับรองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ต้องเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ระหว่าง 850/2100 MHz หรือ 900/2100 MHz
• กล้องด้านหน้า ความละเอียดแค่ 0.3 ล้านพิกเซล ทำให้การใช้งานจริง ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

สำหรับราคาของ Samsung Galaxy Core อยู่ที่ 7,900 บาท เปิดจำหน่ายในวันที่ 6 กรกฏาคมนี้ ท่านที่กำลังมองหา มือถือ 2 ซิมการ์ด ราคาไม่แพง Samsung Galaxy Core ถือว่า เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจครับ

ข้อควรทราบ: “เครื่อง Samsung Galaxy Core ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ซัมซุง เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย: techmoblog.com

 

Update : 21/07/2013

Samsung Galaxy Core รีวิว Samsung Galaxy Core





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy