หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่น รุ่นแนะนำ กับ Samsung Galaxy Core ด้วยราคายั่วใจเพียง 7,900 บาท แต่เร็วแรงระดับ Dual Core พร้อมรองรับ Dual SIM

มีงบประมาณไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท ควรจะซื้อ สมาร์ทโฟน รุ่นใดดี? เชื่อได้เลยครับว่า คงมีหลายๆ ท่านที่ตั้งคำถามในลักษณะนี้ก่อนที่จะเลือกซื้อ สมาร์ทโฟน สักรุ่นกันอย่างแน่นอน เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน มีหลากหลายรุ่นให้เลือก ในระดับราคาที่ต่างกันไปตามคุณสมบัติของแต่ละรุ่น แต่สมาร์ทโฟนรุ่นใด จะตอบโจทย์กับผู้ใช้งานมากที่สุด คงขึ้นอยู่ที่ผู้ใช้งานแต่ละท่าน ต้องการสมาร์ทโฟน ที่ตอบสนองต่อการใช้งานในด้านใด

สำหรับสมาร์ทโฟนที่จะมาแนะนำในวันนี้ ก็คือ Samsung Galaxy Core ซึ่งเปิดตัวในไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยจุดเด่นของ Samsung Galaxy Core นั้น นอกจากจะมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้วแล้ว ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียวอีกด้วย

มาดูคุณสมบัติเด่นๆ ของ Samsung Galaxy Core กันครับ

ประมวลผลการทำงาน ด้วยซีพียูแบบ Dual-Core Processor

จริงอยู่ที่ หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor อาจจะไม่แรง เร็วทันใจ เท่าหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor แต่ก็มีหลายท่านที่ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงมา แต่ใช้งานได้ไม่เท่ากับคุณสมบัติที่ตัวเครื่องนั้นๆ มี เพราะส่วนใหญ่ มักจะใช้งานแค่ รับสาย โทรออก เล่น Facebook หรือใช้งานแชทผ่านโปรแกรม LINE เท่านั้น

โดย Samsung Galaxy Core นั้น มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz ที่ถือว่า เป็นหน่วยประมวลผลที่อยู่ในระดับปานกลาง แต่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานทุกรูปแบบได้ไม่แพ้กัน จะเปิดเว็บไซต์ เล่นเกม แชทกับเพื่อน หรือถ่ายรูป แค่ซีพียูแบบ Dual-Core Processor บน Samsung Galaxy Core ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ

รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว

เรียกได้ว่า เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกข้อหนึ่งของ Samsung Galaxy Core นั่นก็คือ สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดได้ภายในเครื่องเดียวนั่นเอง ปกติแล้ว โทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด จะเป็นแบบที่ต้องสลับซิมการ์ดเอง แต่ข้อดีของการใช้งาน 2 ซิมการ์ดบน Samsung Galaxy Core ก็คือ

- ถ้าหากใช้ SIM 1 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 2 รับสายได้ หรือ ถ้าหากใช้ SIM 2 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 1 รับสายได้เช่นกัน
- ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 1 สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 2 ได้ หรือ ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 3 ก็สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 1 ได้เช่นกัน

รองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean ตั้งแต่แกะกล่อง

ไม่ต้องรออัพเดทระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean อีกต่อไป เพราะ Samsung Galaxy Core รองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean ตั้งแต่แกะกล่องเลยทีเดียว ซึ่งจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean ก็คือ มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Project Butter มาช่วยทำให้การประมวลผลบนสมาร์ทโฟน เร็วขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้า ด้วยการขยายเฟรมเรต ที่จะช่วยทำให้การทำงานต่อเนื่องกันทั้งระบบนั่นเอง นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มฟีเจอร์การใช้งานที่น่าสนใจอีกมากมายเลยทีเดียว

จอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้ว และหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB

Samsung Galaxy Core มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล (217 ppi) ซึ่งถือว่า เป็นขนาดที่กำลังพอเหมาะต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 8 GB พร้อมกับความสามารถในการเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด ด้วยหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card สูงสุดถึง 64 GB ครับ

เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่าย รองรับทั้ง 3G และ Wi-Fi

Samsung Galaxy Core รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทั้ง เครือข่าย 3G โดยเป็นการแยกจำหน่ายโมเดล นั่นก็คือ 850/2100 MHz (สำหรับ Dtac, Truemove H) และ 900/2100 MHz (สำหรับ AIS) ต้องเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ส่วน Wi-Fi เป็นแบบ Wi-Fi 802.11 b/g/n

ไปไหนไม่หลงทาง ด้วยระบบ GPS ในตัว

ขึ้นชื่อว่า เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นคุ้มค่า ฉะนั้น ฟังก์ชันพื้นฐานอย่างระบบนำทาง คงต้องมีอยู่ในตัวเครื่องอย่างแน่นอน โดย Samsung Galaxy Core ใช้ระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า Google Maps ซึ่งรองรับทั้ง GPS และ A-GPS ในตัว อีกทั้งยังสามารถค้นหาเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องกลัวหลงทางอีกต่อไป

ถ่ายภาพได้คมชัด ด้วยกล้องความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล

ในด้านการถ่ายภาพ Samsung Galaxy Core มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ทั้งแบบชอทเดียว, ต่อเนื่อง, พาโนราม่า, แชร์ภาพ, แชร์ภาพกับคู่หู และ สไมล์ชอท โดยความละเอียดสูงสุดของภาพถ่ายอยู่ที่ 2592 x 1944 พิกเซล

สำหรับโหมดการถ่ายภาพวิดีโอ รองรับสูงสุดที่ขนาด 640 x 480 พิกเซล พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ เช่น การตั้งเวลาถ่าย, ค่าชดเชยแสง หรือสมดุลสีขาว เป็นต้น

ความบันเทิงรอบตัว ทั้งการดูหนัง และฟังเพลง

Samsung Galaxy Core รองรับการใช้งานด้านความบันเทิง ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง โดยมีแอพพลิเคชั่นเครื่องเล่นเพลง และเครื่องเล่นวิดีโอในตัว หรือแม้แต่การเล่นเกม ก็รองรับการใช้งานอย่างครบถ้วน และสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังรองรับวิทยุการฟัง FM อีกด้วย

กำหนดการวางจำหน่าย พร้อมสีสันที่เลือกได้ 2 สีสัน

ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของ Samsung Galaxy Core ในข้างต้น แต่สามารถเป็นเจ้าของกันได้ ในราคาเพียง 7,900 บาท โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฏาคม ที่ผ่านมา มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก ได้แก่ สีขาว และสีน้ำเงิน ท่านที่กำลังมองหา สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ทุกด้าน และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป Samsung Galaxy Core ถือว่า เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจ หรือจะเป็นอีก 2 รุ่นให้เลือก ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน นั่นก็คือ Samsung Galaxy S Duos กับ Samsung Galaxy Ace 2 ชื่นชอบรุ่นนี้ สามารถทดลองใช้งานกันได้ ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ

อ่านเพิ่มเติม : สเปค Samsung Galaxy Core

 

Update : 09/07/2013

Samsung Galaxy Core





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy