สำหรับใครที่อยากจะจับจองเป็นเจ้าของ iPhone X (ไอโฟน เท็น) และกำลังมองหาโปรโมชั่น iPhone X จาก 3 ค่ายอยู่ในตอนนี้ ล่าสุด ทาง dtac, AIS และ TrueMove H ก็ออกโปรโมชั่น iPhone X ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการซื้อพร้อมแพ็กเกจที่ในตอนนี้ iPhone X ราคาถูกที่สุดเริ่มต้นที่ 29,500 บาทเท่านั้น (ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 41,000 บาท) ซึ่งจะมีเงื่อนไขอะไรบ้างนั้น ทีมงาน techmoblog ได้รวบรวมข้อมูล พร้อมสรุปราคาและโปรโมชั่น iPhone X จาก 3 ค่ายมาไว้ที่นี่แล้ว มีรายละเอียดดังนี้
เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น iPhone X เทียบ 3 ค่าย dtac vs AIS vs TrueMove H
iPhone X จาก dtac
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.dtac.co.th
iPhone X จาก AIS
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.ais.co.th
iPhone X จาก TrueMove H
รายละเอียดเพิ่มเติม : truemoveh.truecorp.co.th
สรุปสเปก, คุณสมบัติ และวันวางจำหน่าย iPhone X
เปิดตัวอย่างเป็นทางการตามคาดแล้ว สำหรับ iPhone รุ่นประจำปี 2017 ที่ในปีนี้ เปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่นตามคาด ซึ่งได้แก่ iPhone 8, iPhone 8 Plus และรุ่นพิเศษอย่าง iPhone X (ไอโฟนเท็น)
Steve Jobs Theater
สำหรับงานเปิดตัว iPhone 8 และ iPhone X ในปีนี้ จัดขึ้นที่ Steve Jobs Theater ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่บน Apple Park ที่เพิ่งสร้างเสร็จแบบสด ๆ ร้อน ๆ พร้อมเปิดใช้งานสำหรับงานเปิดตัว iPhone ครั้งนี้โดยเฉพาะ มาดูกันดีกว่า iPhone X รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีนี้ จะมาพร้อมกับสเปกและคุณสมบัติล้ำ ๆ อะไรกันบ้าง กับบทสรุปฟีเจอร์เด่นบน iPhone X โดยทีมงาน techmoblog ครับ
iPhone X มาพร้อมกับดีไซน์แบบกระจก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
สำหรับดีไซน์ของ iPhone X นั้น เรียกได้ว่า แทบไม่แตกต่างจากข่าวลือที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับกระจกสุดแกร่ง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่อง และขอบตัวเครื่องแบบ Stainless Steel เกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม โดยตัวเครื่องด้านหน้า มาพร้อมกับดีไซน์แบบจอชิดขอบ ตัดปุ่ม Home ออก ทำให้สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มหน้าจอ
iPhone X มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว แบบ Super Retina และเป็น iPhone รุ่นแรกที่ใช้หน้าจอแบบ OLED
ในส่วนของจอภาพนั้น iPhone X มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว แบบ Super Retina Display และเทคโนโลยีหน้าจอแบบ OLED ที่นอกจากจะมีสีสันสวยงามและให้สีสันที่แม่นยำแล้ว ยังแสดงสีดำได้ดำสนิท มีความสว่างสูง มีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ 1,000,000 ต่อ 1 และรองรับขอบเขตสีแบบกว้างพร้อมด้วยการจัดการสีสันทั้งระบบที่ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ จอภาพ HDR ยังรองรับ Dolby Vision และ HDR10 พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone ที่เพิ่มเข้ามายังช่วยปรับไวท์บาลานซ์บนหน้าจอให้ตรงกับแสงรอบๆ อยู่ตลอดเวลา
Face ID ระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ ปลอดภัยมากขึ้น
เนื่องจากปุ่ม Home แบบ Physical เดิมถูกตัดออกไป ทำให้ iPhone X ไม่รองรับระบบ Touch ID หรือการสแกนลายนิ้วมือแล้ว แต่ได้เพิ่มฟีเจอร์การยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่ปลอดภัยมากกว่าเดิม นั่นก็คือ Face ID หรือระบบการสแกนใบหน้า ด้วยระบบกล้องแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า TrueDepth ซึ่งประกอบด้วย ตัวฉายจุดแสง, กล้องอินฟราเรด และอิลลูมิเนเตอร์มุมกว้าง สำหรับสร้างโครงสร้างของใบหน้า และจดจำใบหน้าได้อย่างแม่นยำ
โดย Face ID จะฉายจุดแสง IR ที่ตาเปล่ามองไม่เห็นกว่า 30,000 จุด จากนั้นภาพ IR และรูปแบบจุดจะถูกส่งต่อไปยังเครือข่ายนิวรอลเพื่อสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของใบหน้า และส่งข้อมูลนั้นไปยัง Secure Enclave เพื่อยืนยันใบหน้าที่ตรงกัน อีกทั้งยังใช้การเรียนรู้ของระบบ (Machine Learning) เพื่อปรับการทำงานให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาอีกด้วย
นอกจากนี้ ข้อมูลใบหน้าทั้งหมดที่บันทึกไว้ยังได้รับการจัดเก็บไว้ใน Secure Enclave ที่มีความปลอดภัยสูง และการประมวลผลทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ ไม่ใช่ในระบบคลาวด์ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
โดย Face ID จะทำการปลดล็อก iPhone X ก็ต่อเมื่อเจ้าของเครื่องมองไปที่ตัวเครื่องเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัยสูง ไม่สามารถหลอกด้วยการใช้รูปถ่ายหรือหน้ากากได้
iPhone X มาพร้อมกับกล้องหน้าแบบ TrueDepth หัวใจสำคัญของ Face ID และโหมด Portrait
สำหรับกล้องหน้าบน iPhone X มาพร้อมกับความละเอียด 7 ล้านพิกเซล แต่ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า TrueDepth ซึ่งถือว่า เป็นหัวใจสำคัญของ Face ID โดยมีคุณสมบัติในการบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้าง, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ และการควบคุมค่าแสงที่แม่นยำ นอกจากนี้ iPhone X ยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพแบบ Portrait ที่กล้องด้านหน้าแล้ว สามารถถ่ายภาพแบบระยะชัดลึกได้ (ปกติโหมด Portrait บน iPhone 7 Plus ใช้ได้เฉพาะกล้องด้านหลัง)
นอกเหนือจากโหมด Portrait แล้ว ยังมาพร้อมกับโหมด Portrait Lighting หรือโหมดจัดแสงภาพถ่ายบุคคล โดยสามารถเลือกเอฟเฟกต์ในการจัดแสงได้แตกต่างกันถึง 5 แบบ ซึ่งโหมดนี้ยังเป็นแบบ beta สำหรับทดลองใช้งานอยู่
Animoji อิโมจิเคลื่อนไหวได้ ใช้งานผ่านแอปฯ iMessage บน iPhone X
สำหรับกล้องหน้า TrueDepth บน iPhone X นั้น นอกจากจะใช้งานร่วมกับ Face ID แล้ว ยังเพิ่มสีสันให้กับอิโมจิด้วย Animoji ด้วยการทำงานร่วมกับชิปเซ็ต Apple A11 Bionic เพื่อบันทึกและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่แตกต่างกันกว่า 50 รูปแบบ แล้วจำลองการแสดงออกทางใบหน้าเหล่านั้นบน Animoji ที่เคลื่อนไหวได้ 12 แบบ เช่น แพนด้า, ยูนิคอร์น และหุ่นยนต์ โดยสามารถบันทึกและส่งข้อความ Animoji ผ่านทางแอปฯ iMessage ที่ติดตั้งมาให้แล้วบน iPhone X โดยใช้เสียงของตนเอง และยังสามารถยิ้ม, ขมวดคิ้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย
iPhone X มาพร้อมกล้องคู่ด้านหลังแนวตั้ง 12MP และระบบ Dual OIS
นอกเหนือจากการอัปเกรดกล้องด้านหน้าแล้ว iPhone X ยังมาพร้อมกับกล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบเดียวกับ iPhone 8 Plus แต่ดีไซน์แตกต่างด้วยกล้องคู่แบบแนวตั้ง พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่ (Dual Optical Image Stabillization) โดยกล้องมุมกว้างมีรูรับแสงขนาด F/1.8 ส่วนกล้องเทเลโฟโต้มีรูรับแสงกว้างขึ้นเป็น F/2.4
นอกจากนี้ กล้องคู่ด้านหลังบน iPhone X ยังมาพร้อมกับฟิลเตอร์สีแบบใหม่, พิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น และโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพที่ดีกว่าเดิม ซึ่ง Apple ออกแบบขึ้เอง ทำให้สามารถบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้า และออโต้โฟกัสในสภาพแสงน้อยได้เร็วขึ้น รวมไปถึงถ่ายภาพแบบ HDR ได้สวยขึ้นด้กว่าเดิมอีกด้วย
ด้านไฟแฟลช เป็นแบบ Quad-LED True Tone ทั้งหมด 4 ดวง พร้อมคุณสมบัติ Slow Sync ทำให้ภาพมีความสว่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้นทั้งในฉากหลังและฉากหน้า นอกจากนี้ ยังปรับแต่งให้รองรับเทคโนโลยี AR ซึ่งมีเซ็นเซอร์ Gyroscope และอุปกรณ์สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว อีกทั้งยังรองรับการบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K สูงสุด 60fps และวีดีโอแบบ Slow Motion แบบ 1080p สูงสุด 240fps
นอกจากนี้ ยังมีโหมด Portrait Lighting หรือโหมดจัดแสงภาพถ่ายบุคคล โดยสามารถเลือกเอฟเฟกต์ในการจัดแสงได้แตกต่างกันถึง 5 แบบเช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า
iPhone X ไม่มีปุ่ม Home แล้วใช้งานอย่างไร ?
ปกติแล้ว การย้อนกลับมายังหน้า Home บน iPhone จะทำได้ด้วยการกดปุ่ม Home 1 ครั้ง แต่เนื่องจาก iPhone X ตัดปุ่ม Home ออกไป ทำให้การใช้งานแบบเดิม ๆ เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ดังนี้
ปัดขึ้นครั้งเดียวจากด้านล่าง เพื่อกลับไปยังหน้า Home
Multitask ให้ปัดขึ้น (เหมือนการกลับไปหน้า Home) แต่หยุดไว้สักครู่จะกว่าจะขึ้นหน้า Multitask มา
Control Center ปัดลงจากมุมบนขวา
Siri กดปุ่ม Power ค้างไว้
Apple Pay ให้ Double Click ที่ปุ่ม Power เพื่อเปิดใช้งาน
iPhone X มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core เร็วกว่า A10 Fusion ถึง 70%
ในด้านการประมวลผลนั้น iPhone X มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A11 Bionic ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวเดียวกับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus โดยเป็นแบบ 6-Core Processor ซึ่งประกอบด้วย 2-Core สำหรับการประมวลผลขั้นสูง ที่เร็วขึ้น 25% และ 4-Core สำหรับการประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งเร็วกว่าชิปเซ็ต Apple A10 Fusion บน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ถึง 70%
นอกเหนือจากการประมวลผลที่รวดเร็วแล้ว ชิป Apple A11 Bionic ยังประหยัดพลังงาน และสามารถทำงานทั้ง 6-Core ไปได้พร้อม ๆ กัน ทำให้สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ อีกทั้งแบตเตอรี่ยังใช้งานได้นานกว่า iPhone 7 ถึง 2 ชั่วโมง ด้าน GPU ออกแบบโดย Apple ซึ่งเป็นแบบ 3-Core ประมวลผลได้เร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
นอกจากนี้ ชิปเซ็ต Apple A11 Bionic ยังมาพร้อมกับ Neural Engine หรือระบบคิดแบบนิวรอล ซึ่งเป็นแบบ Dual-Core สามารถประมวลผลได้เร็วสุดยอดถึง 6 แสนล้านรายการต่อวินาที เหมาะสำหรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอัลกอริทึมของ Machine Learning ทำให้สามารถใช้งาน Face ID รวมถึง Animoji และคุณสมบัติอื่น ๆ ได้
iPhone X รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และระบบชาร์จเร็วแล้ว
ด้วยดีไซน์ด้านหลังแบบกระจก ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ iPhone X รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ โดยสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของ Qi ซึ่งรวมถึงแผ่นรองชาร์จไร้สายแบบใหม่สองรุ่นจาก Belkin และ mophie
เผยโฉม AirPower อุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จแบบไร้สาย รองรับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 3 ชิ้น
AirPower คืออุปกรณ์เสริมด้านการชาร์จแบบไร้สายสำหรับ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นก็คือ รองรับการชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 3 ชิ้น นอกเหนือจาก iPhone ทั้ง 3 รุ่นแล้ว ยังรวมถึง Apple Watch Series 3 และกล่องชาร์จ AirPods แบบไร้สายใหม่ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2018
iPhone X เคาะราคาเริ่มต้นในไทยที่ 40,500 บาท จำหน่าย 24 พ.ย.นี้
iPhone X วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 โดยราคา iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ในไทย เป็นดังนี้ (อัปเดต 23 ม.ค.61)
---------------------------------------
เรียบเรียงโดย : techmoblog.com
Update : 23/01/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |