หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] Samsung Galaxy Mega 5.8 สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ พร้อมรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ในราคาหมื่นต้นๆ

หลังจากที่ทางทีมงาน techmoblog ได้ รีวิว Samsung Galaxy Mega 6.3 สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ขนาด 6.3 นิ้ว ที่มาพร้อมฟีเจอร์แบบเดียวกับที่ใช้บน Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy Note 2 แล้ว คราวนี้ มาถึง สมาร์ทโฟนคู่แฝด ที่เปิดตัวพร้อมกันบ้าง ซึ่ง สมาร์ทโฟน ที่จะนำมา รีวิว ในวันนี้ก็คือ Samsung Galaxy Mega 5.8 นั่นเอง

โดย Samsung Galaxy Mega 5.8 ถือว่า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy Mega 6.3 แต่ความแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy Mega 5.8 และ Samsung Galaxy Mega 6.3 ไม่ได้อยู่ที่ขนาดหน้าจอเพียงอย่างเดียว แต่ Samsung Galaxy Mega 5.8 สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดได้ด้วย เรียกได้ว่า ได้ทั้งหน้าจอใหญ่ และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ในเครื่องเดียวนั่นเอง นับว่า เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นคุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งครับ

ก่อนจะพบกับ รีวิว Samsung Galaxy Mega 5.8 เรามาดู สเปค กันก่อนครับ

สเปค Samsung Galaxy Mega 5.8

- จอแสดงผลกว้าง 5.8 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 960x540 พิกเซล (190 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Cortex-A15 processor (ชิปเซ็ท Exynos 5250) ความเร็ว 1.4 GHz
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- รันระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
- รองรับ 3G ได้ทุกเครือข่าย (HSDPA 850/900/1900/2100 MHz)
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัส และไฟแฟลชแบบ LED
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ MicroSIM
- แบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh
- ราคา 12,500 บาท

อ่านสเปค Samsung Galaxy Mega 5.8 แบบละเอียด คลิ๊กที่นี่

Samsung Galaxy Mega 5.8 : ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับการออกแบบ Samsung Galaxy Mega 5.8 นั้น จะคล้ายกับ Samsung Galaxy Mega 6.3 ทั้งรูปทรง และวัสดุ ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบ ขนาด ของทั้ง 2 รุ่น จะพบว่า แตกต่างกันไม่มาก ซึ่ง Samsung Galaxy Mega 5.8 จะเรียกว่า เป็น Samsung Galaxy Grand ขยายขนาด ก็คงไม่ผิดนัก

ส่วนการวางตำแหน่งของ ไฟแฟลชแบบ LED และ ช่องลำโพง ระหว่าง Samsung Galaxy Mega 5.8 และ Samsung Galaxy Mega 6.3 จะแตกต่างกัน โดย Samsung Galaxy Mega 5.8 นั้น ไฟแฟลช และ ช่องลำโพง จะอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวกล้อง ในขณะที่ Samsung Galaxy Mega 6.3 นั้น ไฟแฟลช จะอยู่ด้านล่างกล้อง ส่วนช่องลำโพง จะอยู่ท้ายตัวเครื่อง

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ช่องหูฟังสำหรับสนทนา, Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา, Ambient Light Sensor ปรับความสว่างของหน้าจอแสดงผลให้เหมาะสมกับสภาพแสงขณะใช้งาน, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล ส่วนตัวอักษร DUOS เป็นการบ่งบอกว่า Samsung Galaxy Mega 5.8 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดนั่นเอง

ส่วนด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบด้วย เมนูควบคุมการทำงาน 3 ปุ่มด้วยกัน โดย 2 ปุ่มซ้ายขวานั้น เป็นปุ่ม Menu และปุ่ม Back ซึ่งเป็นปุ่มแบบ Capacitive button ส่วนตรงกลาง เป็นปุ่ม Home แบบ Physical button ซึ่งปุ่ม Menu และปุ่ม Back นั้น จะเรืองแสงก็ต่อเมื่อ มีการสัมผัสเท่านั้น หรือจะตั้งให้ไฟติดตลอดเวลาได้จากหน้าการตั้งค่า

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับเสียง ส่วนด้านขวาของตัวเครื่อง จะมีช่องสำหรับแกะฝาด้านหลัง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด หรือล็อคตัวเครื่อง

ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วยพอร์ต microUSB และไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา

พลิกมาด้านหลัง จะพบกับ กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และช่องลำโพง ซึ่งตัวกล้องนั้น รองรับการโฟกัสภาพอัตโนมัติ หรือ Autofocus ด้วย

เมื่อแกะฝาหลัง จะพบกับ ช่องใส่ซิมการ์ดทั้งหมด 2 ช่องด้วยกัน โดยรองรับซิมการ์ดแบบ MicroSIM

ส่วนช่องสำหรับ microSD card นั้น จะอยู่ด้านข้าง ซึ่งรองรับได้สูงสุด 64 GB

และแบตเตอรี่แบบ Li-ion ความจุ 2600 mAh รองรับการใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมงครับ (อ้างอิงข้อมูลจาก : Samsung)

Samsung Galaxy Mega 5.8 (ซ้าย) กับ Samsung Galaxy Mega 6.3 (ขวา)

Samsung Galaxy Mega 5.8 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

Samsung Galaxy Mega 5.8 รันระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy Mega 6.3 ทำให้อินเทอร์เฟสการใช้งานด้านต่างๆ คล้ายกับ Samsung Galaxy Mega 6.3 นั่นเอง ซึ่งในหน้า Lockscreen นั้น เราสามารถเลือก Widget มาแสดงหลายตัวได้ ด้วยการเปิดฟังก์ชันการใช้งานในส่วนนี้ก่อนที่ หน้าการตั้งค่า > อุปกรณ์ส่วนตัว > ล็อคหน้าจอ โดยในแถบ Widget หลายตัว ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ

ส่วนวิธีการใช้งานคือ สัมผัสไปที่ส่วนบน (แนวๆ นาฬิกา) แล้วปัดไปด้านซ้าย หรือขวา ก็จะพบกับ Widget ให้เลือกใช้งานมากมาย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องปลดล็อคก่อน

สำหรับ shortcut ด้านล่างนั้น จะไม่ถูกกำหนดค่าแบบ default ผู้ใช้จะต้องไปตั้งค่าเปิดใช้งานเอง ในหน้า การตั้งค่า > อุปกรณ์ส่วนตัว > ล็อคหน้าจอ และให้เปิดใช้งานในแถบ ทางลัด ซึ่งจะปรากฏไอคอนทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน ซึ่งได้แก่ โทรศัพท์, อีเมล, Google, เบราว์เซอร์ และกล้องถ่ายรูป

สำหรับส่วนของการแจ้งเตือน หรือ Notification area นั้น จะมีฟังก์ชันให้เลือกตั้งค่ากว่า 20 แบบ (คลิ๊กที่ปุ่มด้านบนขวาเพื่อขยาย) และถ้าคลิ๊กต่อที่รูปดินสอ จะพบกับ แผงการแจ้งเตือน ซึ่งสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชัน การปรับความสว่างของหน้าจอ หรือเรียงลำดับ การแจ้งเตือน ได้ตามใจชอบ (ทำได้ด้วยการ จิ้มไอคอนค้างไว้ แล้วย้ายตำแหน่ง)

สำหรับหน้า Homescreen นั้น จะคล้ายกับ สมาร์ทโฟนซัมซุง รุ่นทั่วไป สามารถเลือก Widget ได้ตามใจชอบ และสามารถเพิ่มหน้า Homescreen ได้สูงสุด 7 หน้าด้วยกัน

นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน Homescreen ในแนวนอนอีกด้วย คล้ายกับการใช้งานบน แท็บเล็ต เลยนั่นเอง

ในหน้า App drawer ประกอบด้วยเมนูทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ แอพพลิเคชั่นรวม, Widget และ แอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดจาก Play Store ซึ่งในหน้า Widget นั้น สามารถกดค้าง เพื่อสร้าง Widget ในหน้า Homescreen ได้ทันที

การกดปุ่ม Home ค้างไว้ จะเข้าสู่หน้า App switcher ซึ่งในส่วนนี้ สามารถเปิด แอพพลิเคชั่น ที่เคยเปิดมาแล้วก่อนหน้านั้นได้ หรือปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการ ด้วยการปัดไปด้านซ้าย เพื่อเป็นการเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่อง

และฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ สำหรับ สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ก็คือ Multi-window ซึ่งบน Samsung Galaxy Mega 5.8 รองรับฟีเจอร์นี้เช่นกัน โดยสามารถเปิดใช้งาน Multi-window ได้ที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์ส่วนตัว > จอภาพ และเลือก Multi-window ซึ่งการเปิดเมนู Multi-window ก็คือ การกดปุ่ม Back ค้างไว้ ก็จะพบกับ แถบเมนูด้านข้าง ที่สามารถย้ายไปด้านซ้ายขวา, บน หรือล่างได้

นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานในแนวนอนด้วยเช่นกัน

ในส่วนของเมนู การตั้งค่า (Settings) มีการเปลี่ยนอินเทอร์เฟสใหม่ ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งแบ่งเป็น 4 หมวดย่อยด้วยกัน ได้แก่ การเชื่อมต่อ, อุปกรณ์ส่วนตัว, แอคเคาท์ และเพิ่มเติม

Samsung Galaxy Mega 5.8 เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ซิมการ์ดที่ต้องการ ได้จากส่วนของ Notification area ได้โดยตรง หรือจะเข้าไปจัดการ การใช้งานซิมการ์ดแต่ละซิมได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์ส่วนตัว > ตัวจัดการ SIM การ์ด ซึ่งสามารถกำหนดได้ว่า ถ้าหากจะเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต จะใช้ data จากซิมการ์ดไหน หรือเปิดใช้ฟีเจอร์ซิมคู่ สามารถรับสายได้จากทั้ง 2 ซิมการ์ดแม้อยู่ในระหว่างการโทร เป็นต้น

โดยจุดเด่นของการใช้งาน 2 ซิมการ์ดก็คือ

- ถ้าหากใช้ SIM 1 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 2 รับสายได้ หรือ ถ้าหากใช้ SIM 2 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 1 รับสายได้เช่นกัน
- ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 1 สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 2 ได้ หรือ ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 2 ก็สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 1 ได้เช่นกัน

สำหรับฟีเจอร์หลักๆ ที่ใช้บน Samsung Galaxy Mega 6.3 นั้น ถูกตัดออกค่อนข้างเยอะ เมื่อมาอยู่บน Samsung Galaxy Mega 5.8 ซึ่งฟีเจอร์ที่รองรับบน Samsung Galaxy Mega 5.8 ก็คือ Smart Stay ตัวช่วยทำให้หน้าจอไม่ดับเอง เมื่อผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่ โดยสามารถเข้าไปเปิดใช้งาน Smart Stay ได้ที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์ส่วนตัว ซึ่งตรง "หน้าจออัจฉริยะ (Smart Stay)" ให้ติ๊กเครื่องหมายถูก เพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว แถบบนสุดของหน้าจอ จะปรากฏรูปดวงตาออกมาครับ เป็นการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Smart Stay นั่นเอง

ส่วนอีกฟีเจอร์ก็คือ Motion gestures หรือการเคลื่อนไหวและท่าทาง ซึ่งสามารถกำหนดค่าเองได้ หรือปิดการใช้งานก็ได้

S Voice ฟีเจอร์การสั่งการด้วยเสียง จะมีลักษณะการใช้งานคล้ายกับ Siri บน iPhone นั่นเองครับ โดยสามารถสั่งให้เปิดเพลง, รับสายเรียกเข้า, เปิดแอพพลิเคชั่น, เพิ่ม memo, สร้างตารางนัดหมาย และอื่นๆ อีกมากมาย

S Translator โปรแกรมแปลภาษาสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งการพิมพ์ และการพูด โดยในตอนนี้ รองรับได้เฉพาะบางภาษาเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษาสเปน, ภาษาโปรตุเกส, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาเยอรมัน, ภาษาอิตาลี, ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลี ซึ่งก่อนจะเปิดใช้งาน S Translator จำเป็นต้องล็อคอิน Samsung account เสียก่อน

Group Play ฟีเจอร์แชร์เพลง เล่นเกม หรือแชร์ภาพไปยังเครื่องอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Music Sharing ที่สามารถทำให้อุปกรณ์ที่อยู่รอบข้าง เป็นลำโพงซ้ายและขวา และเล่นเพลงเดียวกัน

คลังภาพ หรือ Gallery บน Samsung Galaxy Mega 5.8 สามารถเรียงลำดับได้ตาม อัลบั้ม, เวลา, ตำแหน่ง, บุคคล และอื่นๆ ซึ่งเมื่อเข้าไปในแต่ละอัลบั้ม ปกติแล้วจะเรียงเป็น 3 คอลัมน์ แต่เราสามารถขยายรูปให้ใหญ่ขึ้นเหลือ 2 คอลัมน์ได้ด้วยการ pinch to zoom ครับ

ทดสอบเบราว์เซอร์บน Samsung Galaxy Mega 5.8 กันบ้างครับ ซึ่งจากการทดสอบใช้งานนั้น ถือว่า ตอบสนองได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก Samsung Galaxy Mega 5.8 ใช้หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor และหน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB ซึ่งการ pinch to zoom นั้น รวดเร็ว ไม่มีปัญหาการหน่วง หรือกระตุก นอกจากนี้ เบราว์เซอร์บน Samsung Galaxy Mega 5.8 ยังรองรับการใช้งาน Bookmark และแชร์หน้าเว็บเพจได้ด้วยเช่นกัน

Google Maps แผนที่นำทางที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ใช้ Android ที่มาพร้อมกับระบบนำทางด้วยเสียง รองรับ GPS และ A-GPS เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงผลเพิ่มเติม ทั้งในหมวดการจราจร, ขนส่งสาธารณะ หรือจะเปิดแผนที่แบบดาวเทียม กับ Google Earth ก็ได้

Paper Artist แอพพลิเคชั่นแต่งภาพแบบอาร์ตๆ ที่มีฟิลเตอร์ให้เลือกหลายแบบ ซึ่งสามารถ import ภาพจาก Dropbox, Samsung Link, คลังภาพ หรือจะถ่ายภาพใหม่ แล้วนำมาปรับสี แต่งภาพตามใจชอบ

ทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกม กับเกมแข่งรถ Fast Racing กันบ้างครับ ซึ่งการใช้งานโดยรวม ถือว่า ลื่นไหล ไม่กระตุก ตอบสนองได้เป็นอย่างดี

มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 3925 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 9886 คะแนน ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 5 จุด ซึ่งโดยรวมถือว่า ได้คะแนนน้อยกว่า Samsung Galaxy Mega 6.3 เล็กน้อย

Samsung Galaxy Mega 5.8 : ทดสอบกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

สำหรับอินเทอร์เฟสในโหมดการถ่ายภาพ จะคล้ายกับบน Samsung Galaxy Mega 6.3 ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่าย, มีโหมดการถ่ายภาพให้ 8 โหมด, ตั้งเวลาถ่ายภาพได้, ปรับขนาดภาพ, ISO และอื่นๆ ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องบน Samsung Galaxy Mega 5.8 กันครับ (คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่ แบบไม่ปรับแต่งด้วยโปรแกรมใดๆ)

เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy Mega 6.3 และ Samsung Galaxy Mega 5.8

อย่างที่เกริ่นไปแล้วในตอนต้นว่า Samsung Galaxy Mega นั้น มีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอด้วยกัน ซึ่งได้แก่ Samsung Galaxy Mega 6.3 หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว และ Samsung Galaxy Mega 5.8 หน้าจอขนาด 5.8 น้ิว โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีความแตกต่างในเรื่องของ สเปค ในส่วนใดบ้าง ดูกันที่ ตารางเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy Mega 6.3 และ Samsung Galaxy Mega 5.8 กันครับ

รุ่น
Samsung Galaxy Mega 5.8
Samsung Galaxy Mega 6.3
เครือข่าย 2G
850/900/1800/1900 MHz
850/900/1800/1900 MHz
เครือข่าย 3G
850/900/1900/2100 MHz
850/900/1900/2100 MHz
เครือข่าย 4G
ไม่รองรับ
ไม่รองรับ

หน้าจอแสดงผล

จอแสดงผลกว้าง 5.8 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 960x540 พิกเซล (190 ppi)
จอแสดงผลกว้าง 6.3 นิ้ว แบบ Super Clear LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล (233 ppi)
ขนาด
162.6 x 82.4 x 9 มิลลิเมตร
167.6 x 88 x 8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
182 กรัม
199 กรัม
หน่วยประมวลผล
Dual-core Cortex-A15 processor (ชิปเซ็ท Exynos 5250) ความเร็ว 1.4 GHz
Dual-core Krait processor (ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 400) ความเร็ว 1.7 GHz
กล้องด้านหน้า
ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
กล้องด้านหลัง
ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
พร้อม LED Flash
ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
พร้อม LED Flash
หน่วยความจำภายใน
8 GB
16 GB
microSD card
รองรับสูงสุด 64 GB
รองรับสูงสุด 64 GB
แบตเตอรี่
Li-Ion 2600 mAh
Li-Ion 3200 mAh
Wi-Fi
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
GPS
GPS, A-GPS, GLONASS
GPS, A-GPS, GLONASS
Bluetooth
Bluetooth 4.0
Bluetooth 4.0
ระบบปฏิบัติการ
Android 4.2.2 (Jelly Bean)
Android 4.2.2 (Jelly Bean)
ฟีเจอร์ และ ฟังก์ชัน
Multi window, Group Play, S-Link, Smart Stay, S-Translator, S-Travel, Story Album
Multi window, Group Play, S-Link, Smart Stay, S- Translator, S-Travel, Story Album, S Beam, WatchON, Air View
ใช้งาน 2 ซิมการ์ด
รองรับ
ไม่รองรับ
ราคา
12,500 บาท
14,900 บาท

Samsung Galaxy Mega 5.8 : สรุปการใช้งาน

สำหรับ Samsung Galaxy Mega 5.8 นั้น ถือว่า เป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหา สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ ในระดับราคาที่ไม่แพงจนเกินไป แต่รองรับการใช้งานได้ทุกฟังก์ชัน โดยเฉพาะการรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดในเครื่องเดียว ทำให้ไม่จำเป็นต้องพกพา สมาร์ทโฟน หลายเครื่องนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ทีมงาน techmoblog ได้ทดสอบใช้งาน Samsung Galaxy Mega 5.8 ก็ได้พบกับจุดเด่น และจุดด้อย จึงขอสรุปตามความเห็นส่วนตัว ดังนี้

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Mega 5.8

• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว ไม่จำเป็นต้องพกพาโทรศัพท์หลายๆ เครื่อง
• รันระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
• รองรับ 3G ได้ทุกเครือข่าย ทั้ง AIS, Dtac และ TrueMove H
• มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 5.8 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 960x540 พิกเซล (190 ppi)
• หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Cortex-A15 processor (ชิปเซ็ท Exynos 5250) ความเร็ว 1.4 GHz และ หน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB ประมวลผลการทำงานได้รวดเร็ว ทันใจ
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
• รองรับฟีเจอร์เด่นๆ แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy Note 2 ไม่ว่าจะเป็น S Translator, Multi-window, Smart Stay, S-Link, S-Travel, Story Album และ Group Play
• แบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
• รองรับการใช้งานวิทยุ FM
• มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• รองรับ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และ GLONASS รองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย 

จุดด้อยของ Samsung Galaxy Mega 5.8

• จอแสดงผลมีขนาดใหญ่กว่า สมาร์ทโฟน ทั่วๆ ไป ทำให้การพกพาลำบาก และใส่ในกระเป๋ากางเกงไม่ได้
• ความละเอียดของหน้าจอ ไม่ใช่ระดับ Full HD
• ไม่รองรับเทคโนโลยี NFC 

ถ้าหากถามว่า ระหว่าง Samsung Galaxy Mega 5.8 กับ Samsung Galaxy Mega 6.3 นั้น รุ่นใดคุ้มค่ามากกว่ากัน ต้องตอบว่า จริงๆ แล้ว Samsung Galaxy Mega 6.3 มีภาษีที่ดีกว่าครับ เพราะนอกจากจะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าแล้ว ความละเอียดของหน้าจอยังมากกว่า รองรับฟีเจอร์ได้มากกว่า แต่ว่า ก็ต้องแลกมาด้วย ราคาที่แพงกว่าด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Grand กับ Samsung Galaxy Mega 5.8 เรียกได้ว่า รุ่นนี้ คือรุ่นอัพเกรดสเปคของ Samsung Galaxy Grand ครับ ฉะนั้น คุณสมบัติในการใช้งาน ดีกว่าอย่างแน่นอน

Samsung Galaxy Mega 5.8 เปิดตัวที่ราคา 12,500 บาท มีให้เลือกสีเดียวคือ สีขาว วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ตามตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ

และสำหรับท่านที่ซื้อ Samsung Galaxy Mega ทั้งรุ่น Mega 5.8 และ Mega 6.3 ฟรี! เกมสุดฮิตระดับ HD มูลค่ากว่า 1,000 บาท ไม่ว่าจะเป็น Asphalt 7, Iron Man 3, Real Football 2013, Modern Combat 4 และ Special Forces ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี Samsung Galaxy Showtime เต็มอิ่มกับภาพยนตร์ระดับ HD กว่า 600 เรื่อง, ซีรี่ย์สุดฮิตจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 200 เรื่อง และ Live TV แบบสดๆ กับช่อง 3, 5, 7 ,9 และเคเบิลกว่า 100 ช่อง ดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2556 ครับ

ข้อควรทราบ: “เครื่อง Samsung Galaxy Mega 5.8 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ซัมซุง เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย: techmoblog.com

 

Update : 01/08/2013





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy