หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] JBL Endurance JUMP หูฟัง Bluetooth ดีไซน์สปอร์ตสำหรับกีฬาสายกระโดด ด้วยฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติ ยึดแน่นไม่ร่วงหล่นด้วยเทคโนโลยี TwistLock พร้อมคุณสมบัติกันน้ำ IPX7 เคาะราคาที่ 2,990 บาท

หลังจากที่ทีมงานได้ทำการรีวิว JBL Endurance SPRINT ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายสำหรับการวิ่งกันไปแล้ว คราวนี้มาดูอีกรุ่นที่อยู่ในซีรี่ส์เดียวกัน นั่นก็คือ JBL Endurance JUMP โดยรุ่นนี้เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบสำหรับการออกกำลังกายที่เน้นการกระโดด, เต้น หรือมีการขยับร่างกายไปมาโดยเฉพาะ

สำหรับดีไซน์ของหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP นั้น จะคล้ายกับรุ่น SPRINT แต่รุ่นนี้มีความโดดเด่นกว่ากับดีไซน์ที่เรียกว่า PowerHook ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการเปิด-ปิดตัวเครื่องอัตโนมัติ โดยจะเปิดตัวเครื่องเองเมื่อสวมใส่ และปิดเครื่องเมื่อถอดออก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี TwistLock และ FlexSoft ที่ช่วยทำให้การสวมใส่กระชับมากขึ้น, ไม่เจ็บหู และคล้องพอดีกับใบหู ไม่ว่าจะกระโดด หรือขยับในท่าทางแบบไหน ก็ไม่ร่วงหล่นจากหูระหว่างใช้งาน

เนื่องจากรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการกระโดด ทำให้สายหูฟัง มีความหนากว่าและสั้นกว่ารุ่น SPRINT เมื่อสวมใส่แล้วจะพอดีกับท้ายทอย ไม่ห้อยยาวเกะกะหรือให้ความรู้สึกรำคาญขณะใช้งาน อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

มาดูกันดีกว่าว่า หูฟังรุ่นนี้จะน่าใช้งานและตอบโจทย์กีฬาสายกระโดดแค่ไหน กับ รีวิวหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP โดยทีมงาน techmoblog

 

สเปกและคุณสมบัติเบื้องต้นของ JBL Endurance JUMP

  • ขนาดไดร์ฟเวอร์ : 10mm (Dynamic Driver)
  • Impedance : 16.0 ohms
  • Dynamic Frequency Response Range : 20Hz - 20kHz
  • แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 120 mAh, 3.7V
  • รองรับระบบชาร์จเร็ว การชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้นาน 1 ชั่วโมง
  • รองรับการใช้งานด้านการฟังเพลงนานสูงสุด 8 ชั่วโมง
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
  • Bluetooth Transmitter Frequency Range : 2.402GHz-2.48GHz
  • กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7

 

หูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP จะมีดีไซน์คล้ายกับ JBL Endurance SPRINT ซึ่งเป็นหูฟังแบบ In-Ear คล้องใบหู ต่างกันตรงที่ตัวสายจะมีความหนากว่าและสั้นกว่า พอดีกับท้ายทอย อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี TwistLock และ SoftFlex ที่ทำให้สวมใส่ได้กระชับมากขึ้น ยึดตัวหูฟังไม่ให้ร่วงหล่นขณะใช้งาน 

จุดเด่นของหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP อีกอย่างก็คือ ก้านหูฟังสำหรับคล้องใบหูนั้น มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า PowerHook ซึ่งเป็นแม่เหล็กเหมือนกับหูฟังรุ่น SPRINT แต่เพิ่มในส่วนของฟังก์ชันการเปิด-ปิดอัตโนมัติ โดยตัวหูฟังจะเปิดใช้งานเมื่อผู้ใช้ทำการสวมใส่ และปิดเครื่องเองเมื่อถอดออก เรียกได้ว่า สะดวกต่อการใช้งานมากเลยทีเดียว

หูฟังด้านขวา จะเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ด้วยระบบสัมผัส ซึ่งจะมีไฟ LED บ่งบอกสถานะของตัวเครื่อง ถ้าหากเป็นไฟสีแดงนิ่ง หมายถึงตัวเครื่องกำลังเปิด, ไฟสีน้ำเงินกระพริบ หมายถึง กำลังค้นหาสัญญาณ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และไฟสีน้ำเงินนิ่ง หมายถึง ทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แล้ว

โดยการสัมผัสในแต่ละรูปแบบจะควบคุมการทำงานแตกต่างกัน ดังนี้

  • ด้านการฟังเพลง
    • แตะ 1 ครั้ง : หยุด-เล่นเพลง
    • แตะ 2 ครั้ง : เล่นเพลงถัดไป
    • แตะ 3 ครั้ง : เล่นเพลงก่อนหน้า
    • เลื่อนขึ้น-ลง : ปรับระดับเสียง (เพิ่ม-ลด)
  • การใช้งานโทรศัพท์
    • แตะ 1 ครั้ง : รับสาย-วางสาย
    • แตะ 2 ครั้ง : ปฏิเสธรับสาย

แบตเตอรี่บนหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP มีขนาดความจุอยู่ที่ 120 mAh รองรับการใช้งานด้านการฟังเพลงนานสูงสุด 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งการชาร์จจาก 0% จนเต็ม 100% จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 1 ชั่วโมง โดยพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่จะอยู่ส่วนท้ายของหูฟังด้านขวา

ในกล่องผลิตภัณฑ์นั้น จะประกอบไปด้วย สาย USB และจุกยางให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ S, M และ L ที่ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนได้

นอกจากนี้ ยังมีซองสำหรับเก็บหูฟังมาให้ด้วยเช่นกัน โดยเป็นซิลิโคนเนื้อนิ่ม ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก

สำหรับการจับคู่หูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP กับสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก หลังจากเปิดเครื่องแล้ว ให้รอประมาณ 5 วินาที จะมีไฟสีน้ำเงินกระพริบปรากฏ จากนั้นให้ไปที่สมาร์ทโฟน เลือก Settings > Bluetooth > JBL Endurance JUMP ถ้าหากการเชื่อมต่อสมบูรณ์ ไฟแสดงสถานะจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินนิ่ง

ด้านคุณภาพเสียงบนหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP นั้น ถือว่า ไม่แตกต่างจากรุ่น SPRINT เท่าใดนัก โดยเสียงร้องมีความคมชัด ใส เสียงเบสมีความกระชับ อิมแพคกำลังดี ไม่ล้นจนเกินไป เสียงแหลมมีย่านเสียงที่ชัดใส ไม่บาดหู และเก็บรายละเอียดของเสียงได้เป็นอย่างดี ส่วนเวทีเสียงมีความกว้าง มีมิติ แยกเสียงร้องกับเสียงเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน ด้านการตัดเสียงรบกวนรอบข้างถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง

 

บทสรุปการใช้งาน

โดยรวมแล้ว JBL Endurance JUMP เป็นหูฟังไร้สายที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และถูกออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายที่เน้นการกระโดดโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเต้นแอโรบิก, การกระโดดเชือก หรือจะเป็นสายคาร์ดิโอ ก็ถือว่าตอบโจทย์เช่นกัน โดยมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง ดังนี้

  • ดีไซน์ PowerHook ก้านคล้องหูแบบแม่เหล็ก พร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดเองอัตโนมัติ
  • เทคโนโลยี TwistLock ที่ช่วยทำให้หูฟังไม่ร่วงหล่นขณะใช้งาน
  • เทคโนโลยี FlexSoft ช่วยทำให้สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหู
  • คุณสมบัติในการกันน้ำ-กันเหงื่อ ตามมาตรฐาน IPX7 และสามารถอยู่ในน้ำลึก 1.30 เมตรได้นาน 30 นาที
  • ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส
  • รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย สามารถใช้รับสายโทรศัพท์หรือฟังเพลงได้ด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง
  • รองรับการใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งการชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 1 ชั่วโมง
  • สะดวกต่อการพกพา ด้วยซองเก็บหูฟังที่ให้มาในชุดวางจำหน่าย

หูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีแดง, สีเหลือง และสีฟ้า วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 2,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com

 

 

--------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 19/04/2019

JBL Endurance JUMP





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy