หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

Web3 อนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต กับการโกยเงินระดมเงินทุนครั้งใหญ่ของบริษัทสตาร์ทอัพ

Web3 และ Decentralized Web หรือเว็บที่ไม่มีศูนย์กลาง/ไม่มีเซิฟเวอร์ เป็นคำที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในแวดวงของธุรกิจสตาร์ทอัพ ทำให้นักลงทุนที่สนใจต่างคิดว่า หรือนี่จะเป็นยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ต

เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Polygon Technology กับ Alchemy ได้ออกมาช่วยนักพัฒนาในการสร้าง DApps (Decentralized Application) หรือ แอปพลิเคชันที่ไม่มีตัวกลางที่สร้างอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน ด้วยการประกาศการระดมเงินทุนครั้งใหญ่

โดยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง Polygon สามารถระดมเงินทุนได้กว่า 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมี Sequoia Capital India เป็นผู้นำการระดมทุนในรอบนี้ ร่วมกับนักลงทุนรายอื่น ๆ ที่เข้าร่วมมากกว่า 40 ราย

และวันถัดมา Alchemy สตาร์ทอัพจากซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเครื่องมือบนบล็อกเชนและ Web3 สามารถระดมเงินทุนระดับ Series C-1 ได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมี Lightspeed และ Silver Lake มาร่วมนำทีมในครั้งนี้ ส่งผลทำให้มูลค่าขององค์กรอยู่ที่ 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระยะเวลาแค่ 4 เดือนหลังจากปิดระดมเงินทุนระดับ Series C ที่มูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Shailesh Lakhani กรรมการผู้จัดการของ Sequoia Capital India และผู้นำการระดมเงินทุนของ Polygon ถึงกับเผยว่า เป็นมูลค่าที่สูงมาก เพราะเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Web 2.0 ยังไม่เคยมีธุรกรรมที่มีมูลค่าขนาดนี้มาก่อน

 

และด้วยมูลค่าที่สูงขนาดนี้ ทำให้นักลงทุนเกิดความรู้สึกอุ่นใจกับการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งข้อมูลจาก Crunchbase เผยว่า ในปี 2021 มีการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนถึง 1,312 ดีล รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 17.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2020 รวมถึงปี 2018

ส่วนในปีนี้ แม้ว่าจะผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน แต่บรรดานักลงทุนก็ทุ่มเงินทุนไปมากกว่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว และมีแนวโน้มว่า จะมีมูลค่าการลงทุนที่สูงกว่าปีที่แล้วด้วยซ้ำ

แม้ว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน จะไม่ใช่ทุกที่ที่บอกตัวเองเป็นสตาร์ทอัพ Web3 แต่ข้อมูลจาก Crunchbase ได้เผยให้เห็นว่า การลงทุนในบริษัทที่ใช้ Web3 และ Decentralized Web มีแนวโน้มในการลงทุนแบบก้าวกระโดด ซึ่งในปี 2021 นั้น มีข้อเสนอจำนวน 380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 93 ดีล มอบให้กับบริษัทที่ระบุว่าเป็นสตาร์ทอัพ Web3 เพิ่มจาก 20.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน 30 ดีล เมื่อเทียบกับปี 2020

และปีนี้เองก็เช่นกัน บรรดานักลงทุนได้ทุ่มเงินกว่า 173 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับสตาร์ทอัพ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

 

Web3 คืออะไร ?

Web3 หรือ Web 3.0 แนวคิดแบบกระจายศูนย์ที่อยู่บนบล็อกเชน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะไม่ได้อยู่ในกำมือของบริษัทยักษ์ใหญ่อีกต่อไป แต่ผู้ใช้จะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลทั้งหมดของตนเอง

แม้ว่าผู้สนับสนุนหลายราย ต่างคิดเหมือนกันว่า Web3 จะเป็นการเพิ่มความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ ทำให้อินเทอร์เน็ตเปิดรับเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้น แต่ Jack Dorsey อดีตซีอีโอของ Twitter กลับเห็นต่าง เพราะเจ้าตัวเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า Web3 ไม่ใช่แนวคิดแบบกระจายศูนย์ (Decentralization) แต่เป็นแนวคิดแบบรวมศูนย์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้คำว่า กระจายศูนย์ เพราะสุดท้ายแล้ว กลุ่มนักลงทุน (Venture Capital : VC) ควบคุมอยู่เบื้องหลังอีกที

 

การสร้างแพลตฟอร์มใหม่

Ali Yahya หุ้นส่วนทั่วไปของ Andreesen Horowitz ซึ่งเป็นผู้นำด้านการลงทุนของบริษัท Alchemy ได้เปรียบเทียบโครงสร้างพื้นฐานใหม่ กับวิธีที่ Microsoft และ AWS สร้างแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต โดย Alchemy กำลังทำบางอย่างที่คล้าย ๆ กันนี้สำหรับให้นักพัฒนาสร้างผลิตภัณฑ์บนบล็อกเชน ซึ่งชนิดของแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการสร้าง Web3 ทำให้ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง

Nikil Viswanathan ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Alchemy กล่าวว่า บริษัทของเขาได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา Alchemy มีอัตราการเติบโตของการสร้างแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น 3 เท่า และมีการทำธุรกรรมมากกว่า 105 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่ง Viswanathan ยังเสริมอีกด้วยว่า บริษัทมีผลกำไรมหาศาล และไม่ได้แตะต้องเงินสดจากการระดมเงินทุนรอบล่าสุดเลย

Viswanathan เผยว่า การเติบโตของ Web3 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนา แม้แต่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ก็ยังเพิ่มความสามารถของ Web3 ให้กับผลิตภัณฑ์หลักเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น แผนก Cloud ของ Google ที่เมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งจัดตั้งกลุ่มเพื่อสร้างธุรกิจด้วยการใช้แอปพลิเคชันจากบล็อกเชน, Coinbase บริษัทคริปโต ก็ทำงานที่เกี่ยวกับ Coinbase Cloud หรือแม้แต่ Blockdaemon สตาร์ทอัพบนโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชน ก็ประกาศ Series C มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปเมื่อเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Web3 ที่เป็นที่สนใจต่อบรรดานักลงทุน อย่างเช่น โปรโตคอล Layer 2 ปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดบน Ethereum เช่นเดียวกับ Zero-knowledge Proof (ZKP) และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวบนบล็อกเชน

ด้าน Lakhani ซึ่งเป็นผู้ที่ติดตามการเคลื่อนไหวของโลก Web3 มานานกว่า 5 ปี เผยว่า การปรับขนาดบน Ethereum เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดบนโลกคริปโต แต่ยังดีที่มีบล็อกเชนอย่าง Polygon ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ ซึ่ง Lakhani เชื่อว่า ปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

 

-------------------------------------
ที่มา : Crunchbase
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com

Update : 25/03/2022

blockchain Business Crypto Web3





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy