เปิดตัว Vivo NEX S และ Vivo NEX A มาพร้อมกล้องหน้าแบบ Pop-Up 8MP, RAM 8 GB และกล้องคู่ AI บนดีไซน์จอไร้กรอบขอบบางเฉียบที่สุดในโลก

ตกเป็นข่าวลือมานานพอสมควร สำหรับมือถือรุ่นปริศนาจากแบรนด์ Vivo ที่มีชื่อว่า Vivo NEX (หรือ Vivo APEX) ที่มีจุดเด่นกับกล้องหน้าแบบ Pop Up ล่าสุด ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ Vivo NEX-Series ที่มีให้เลือกกันถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Vivo NEX S และ Vivo NEX A

สำหรับ Vivo NEX S และ Vivo NEX A มาพร้อมกับดีไซน์จอไร้ขอบแบบ Ultra FullView "Zero Screen" ที่มีพื้นที่อัตราส่วนหน้าจอมากถึง 91.24% ที่ถือว่า มากที่สุดในโลก ณ ชั่วโมงนี้ไปแล้ว อีกทั้งยังไม่ใช่จอบาก ทำให้ขอบจอทั้ง 4 ด้านของ Vivo NEX-Series นั้นมีความบางเฉียบจนไม่สามารถจัดวางตำแหน่งของกล้องด้านหน้า และลำโพงสำหรับสนทนาได้ ทำให้กล้องด้านหน้าต้องย้ายตำแหน่งไปอยู่ขอบตัวเครื่องด้านบน และเปิดใช้งานแบบ Pop Up เลื่อนขึ้นลง จึงกลายเป็นจุดเด่นของ Vivo NEX ทั้ง 2 รุ่นนี้นั่นเอง

เมื่อตัวเครื่องมีความบางเฉียบในระดับนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วลำโพงสนทนากับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ นั้นย้ายไปอยู่ที่ไหน โดยตัวเซ็นเซอร์ต่าง ๆ นั้นถูกซ่อนใต้กระจกหน้าจอชิดขอบด้านบน ส่วนลำโพงสำหรับสนทนานั้น ใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Screen SoundCasting Technology ด้วยการใช้การสั่นสะเทือนของเสียงผ่านกระจกหน้าจอด้านบน คล้ายกับที่ใช้บน Mi Mix รุ่นแรก ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ทาง Vivo ได้พัฒนาขึ้นมาเอง

โดย Vivo NEX ทั้ง 2 รุ่นนั้น มีขนาดหน้าจอเท่ากันที่ 6.59 นิ้ว แตกต่างกันตรงที่ชิปเซ็ต, หน่วยความจำ RAM และหน่วยความจำ ROM ซึ่งสเปกของทั้ง 2 รุ่น มีรายละเอียดดังนี้

สเปก Vivo NEX S

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6.59 นิ้ว แบบ Super AMOLED และเทคโนโลยี Ultra FullView (Zero Screen) Display ความละเอียด 2316 x 1080 พิกเซล, อัตราส่วน 19.3:9
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 630 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB หรือ 256 GB
• กล้องด้านหน้าแบบ Pop Up ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.0
• กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/1.8) และ 5 ล้านพิกเซล (F/2.4) พร้อมระบบกันสั่น 4 แกน, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel Autofocus
• แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) และ Funtouch OS 4.0
• ระบบการสแกนลายนิ้วมือใต้จอ (In-Display Fingerprint Scanning) เจเนอเรชันที่ 3
• รองรับการเชื่อมต่อ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) 2×2 MIMO และ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 LE
• รองรับ GPS, A-GPS และ GLONASS
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C

สเปก Vivo NEX A

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6.59 นิ้ว แบบ Super AMOLED และเทคโนโลยี Ultra FullView (Zero Screen) Display ความละเอียด 2316 x 1080 พิกเซล, อัตราส่วน 19.3:9
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 710
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 616 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB
• กล้องด้านหน้าแบบ Pop Up ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.0
• กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/1.8) และ 5 ล้านพิกเซล (F/2.4) พร้อมระบบกันสั่น 4 แกน, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel Autofocus
• แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) และ Funtouch OS 4.0
• ระบบการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• รองรับการเชื่อมต่อ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) 2×2 MIMO และ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 LE
• รองรับ GPS, A-GPS และ GLONASS
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C

นอกจากนี้ ทั้ง Vivo NEX S และ Vivo NEX A ยังมาพร้อมกับ Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การอ่านแผนที่, เรียกใช้งานสารานุกรม, ช็อปปิ้งออนไลน์, การแปล และอื่น ๆ ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยการกดที่ปุ่มด้านข้างตัวเครื่อง (เหมือนปุ่ม Bixby บน Galaxy S9)

โดย Vivo NEX ทั้ง 2 รุ่น มีให้เลือกทั้งหมด 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Diamond Black และ Ruby Red เปิดพรีออเดอร์เฉพาะที่ประเทศจีนก่อน ส่วนราคามีรายละเอียดดังนี้

• Vivo NEX S (RAM 8 GB l ROM 256 GB) ราคา 4,998 หยวน หรือราว ๆ 24,900 บาท
• Vivo NEX S (RAM 8 GB l ROM 128 GB) ราคา 4,498 หยวน หรือราว ๆ 22,500 บาท
• Vivo NEX A (RAM 6 GB l ROM 128 GB) ราคา 3,898 หยวน หรือราว ๆ 19,500 บาท

--------------------------------------
ที่มา : gsmarena.com (1) , (2) , gizmochina.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 13/06/2018

Vivo NEX Vivo NEX S Vivo NEX A