เปิดตัว Samsung Galaxy Note 10 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ พร้อม Note 10+ และ Note 10+ 5G แรงด้วยชิป Exynos 9825, RAM 12 GB, กล้องหลัง 4 ตัว และปากกา S Pen อัปเกรดใหม่ แบตอึดชาร์จไวขึ้น 45W บนดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ เริ่มต้นที่ 32,900.-

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 10 มือถือเรือธงเพื่อการขีดเขียนรุ่นใหม่ประจำปี 2019 ในงาน UNPACKED เมื่อเวลา 03.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่พิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Note-Series เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นปีแรกที่ Samsung Galaxy Note-Series มีการเปิดตัวมากกว่า 1 รุ่น ซึ่งนอกจากจะมี Samsung Galaxy Note 10 แล้ว ยังได้เปิดตัวอีก 2 รุ่น นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note 10+ และ Samsung Galaxy Note 10+ 5G

ปกติแล้ว ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Note จะมีการปรับโฉมใหม่ทุก ๆ 2 ปี ทำให้ในปีนี้ Samsung Galaxy Note 10 มีดีไซน์ที่แตกต่างจาก Samsung Galaxy Note 9 อย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่เรียกว่า Cinematic Infinity-O Display หรือหน้าจอแบบเจาะรูสำหรับฝังกล้องด้านหน้า พร้อมขอบจอบางเฉียบ, อัปเกรดปากกา S Pen อาวุธคู่ใจมือถือตระกูล Note-Series ที่มาพร้อมกับความสามารถใหม่อย่าง Air Action, กล้องด้านหลัง อัปเกรดเป็นกล้อง 4 ตัว (สำหรับรุ่น Galaxy Note 10+) ด้วยการเพิ่มเลนส์ DepthVision Camera เข้ามา และอื่น ๆ อีกมากมาย

ก่อนจะไปเจาะลึกคุณสมบัติต่าง ๆ บน Samsung Galaxy Note 10 มาดูสเปกของ Samsung Galaxy Note 10, Samsung Galaxy Note 10+ และ Samsung Galaxy Note 10+ 5G กันก่อนว่าอัปเกรดจากรุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน

สเปก Samsung Galaxy Note 10

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED Infinity-O Display ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล (FHD+), 401 ppi
• รองรับ HDR10+
• ชิปเซ็ต Exynos 9825 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 256 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1 TB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (F/2.2)
• กล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera)
  • เลนส์หลัก (Wide-Angle) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F1.5/F2.4, ระบบกันสั่น OIS
  • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.1, ระบบกันสั่น OIS
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, มุมมองกว้าง 123 องศา, รูรับแสง F/2.2
• แบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 25W
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• รองรับระบบการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Sensor)
• รองรับระบบการจดจำใบหน้า
• รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO,1024QAM
• รองรับ Bluetooth 5.0 และ NFC
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• ปากกา S Pen ในตัว
• ระบบเสียงสเตอริโอจาก AKG
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และ One UI
• ขนาดตัวเครื่อง 71.8 x 151.0 x 7.9 มม.
• น้ำหนัก 168 กรัม

สเปก Samsung Galaxy Note 10+

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6.8 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED Infinity-O Display ความละเอียด 3040 x 1440 พิกเซล (QHD+), 498 ppi
• รองรับ HDR10+
• ชิปเซ็ต Exynos 9825 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 12 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 256 GB หรือ 512 GB (รุ่น 5G) รองรับ microSD Card สูงสุด 1 TB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (F/2.2)
• กล้องด้านหลัง 4 ตัว (Quad-Camera)
  • เลนส์หลัก (Wide-Angle) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F1.5/F2.4, ระบบกันสั่น OIS
  • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.1, ระบบกันสั่น OIS
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, มุมมองกว้าง 123 องศา, รูรับแสง F/2.2
  • เลนส์ DepthVision Camera
• แบตเตอรี่ขนาด 4,300 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 45W
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• รองรับระบบการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (Ultrasonic Fingerprint Sensor)
• รองรับระบบการจดจำใบหน้า
• รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO,1024QAM
• รองรับ Bluetooth 5.0 และ NFC
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• ปากกา S Pen ในตัว
• ระบบเสียงสเตอริโอจาก AKG
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และ One UI
• ขนาดตัวเครื่อง 77.2 x 162.3 x 7.9 มม.
• น้ำหนัก 196 กรัม

ดีไซน์จอไร้ขอบ และหน้าจอแบบ Cinematic Infinity Display

Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Cinematic Infinity Display แบบไร้ขอบ ขนาด 6.3 นิ้ว (Note 10) และ 6.8 นิ้ว (Note 10+) ซึ่งถือว่า มีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดในตระกูล Galaxy Note โดยหน้าจอแสดงผลแบบนี้ทำให้ได้ภาพที่คมชัด สมจริง อีกทั้งยังรองรับ HDR10+ และ Dynamic Tone Mapping ปรับโทนภาพอัตโนมัติ รวมถึงเทคโนโลยีถนอมสายตา ช่วยลดแสงสีฟ้าแต่ไม่ลดคุณภาพของสีภาพ

ปากกา S Pen อัปเกรดใหม่

ปากกา S Pen ถือว่าเป็นจุดขายหลัก ๆ ของ Samsung Galaxy Note 10 เลยก็ว่าได้ ซึ่งในรุ่นนี้ได้มีการอัปเกรดใหม่และเพิ่มฟีเจอร์น่าใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

• เปลี่ยนลายมือให้เป็นข้อความแบบตัวอักษรได้ทันที สามารถปรับขนาดและเปลี่ยนสีตัวอักษรได้ อีกทั้งยังสามารถแปลงไฟล์ได้หลายรูปแบบ ทั้ง Microsoft Word และ PDF
• รองรับเทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับบน Galaxy Note 9 แต่ได้รับการอัปเกรดด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Air Actions สามารถควบคุมการใช้งานต่าง ๆ ได้ผ่านทางปากกา S Pen และปรับแต่งปุ่มควบคุมได้ตามพฤติกรรมการใช้งาน

กล้องด้านหลัง 4 ตัว พร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

Samsung Galaxy Note 10+ มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง 4 ตัว (Quad-Camera) ด้วยการเพิ่มเลนส์ DepthVision Camera เข้ามา นอกจากนี้ กล้องบน Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ ยังได้เพิ่มฟีเจอร์การใช้งานใหม่ ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น

• ฟีเจอร์ Live Focus สามารถปรับความเบลอของฉากหลังในขณะที่ถ่ายวิดีโอได้
• ฟีเจอร์ Zoom-In Mic เน้นเสียงในเฟรมที่ต้องการให้ชัดขึ้น และลดเสียงของฉากหลังออก
• ฟีเจอร์ Super Steady ป้องกันการสั่นไหวของวิดีโอ
• Video Editor ตัดต่อและปรับแต่งวิดีโอ รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen
• Adobe Rush ชุดตัดต่อวิดีโอระดับมือโปร (ดาวน์โหลดเพิ่ม)
• Screen Recorder บันทึกวิดีโอบนหน้าจอ
• AR Doodle สร้างสรรค์รูปภาพ, วาดเอฟเฟกต์ หรือภาพเคลื่อนไหวลงบนภาพถ่ายได้ด้วยการใช้ปากกา S Pen
• 3D Scanner สามารถสแกนวัตถุและเปลี่ยนให้เป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ 3D (เฉพาะบน Galaxy Note 10+)
• รองรับ Night Mode โหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน

Super Fast Charging รองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 45W

สำหรับแบตเตอรี่บน Samsung Galaxy Note 10+ นั้น นอกจากจะมีขนาดความจุเพิ่มขึ้นเป็น 4,300 mAh แล้ว ยังรองรับระบบชาร์จเร็วแบบ Super Fast Charging สูงสุดถึง 45W ซึ่งการชาร์จเพียง 30 นาที รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ส่วนบน Samsung Galaxy Note 10 มีขนาดความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 3,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วที่ 25W

นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นยังรองรับฟีเจอร์ Wireless PowerShare สามารถนำอุปกรณ์ที่รองรับระบบ Qi มาชาร์จแบบไร้สายกับ Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ ได้ด้วยเช่นกัน

Vapor Chamber Cooling System เทคโนโลยีระบายความร้อนสำหรับคอเกม

ด้วยชิปเซ็ต Exynos 9825 และหน่วยความจำ RAM สูงสุด 12 GB ทำให้ Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ ตอบโจทย์กับการเล่นเกมอย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber Cooling System รวมถึงนวัตกรรมด้าน AI ใน Game Booster ทำให้สามารถเพิ่มหรือลดการใช้พลังงานในแต่ละเกมได้

รองรับ Samsung DeX และเชื่อมต่อกับ Windows 10 ได้

Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ รองรับฟีเจอร์ Samsung DeX ทำให้สามารถใช้งานร่วมกันกับ PC หรือ macOS ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัวผ่าน Samsung Knox นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Windows 10 ผ่าน Quick Panel ได้โดยตรงแค่คลิก ทำให้สามารถเห็นการแจ้งเตือน, ส่งและรับข้อความ รวมถึงดูรูปภาพได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องแตะสมาร์ทโฟน

ราคาและวันวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

ล่าสุด ทาง Samsung ประเทศไทย ได้ประกาศเปิดพรีออเดอร์ Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ พร้อมกับประกาศราคาของทั้ง 2 รุ่นแล้ว เริ่มต้นที่ 32,900 บาท รายละเอียดดังนี้

• Samsung Galaxy Note 10 (RAM 8 GB + ROM 256 GB) ราคา 32,900 บาท
• Samsung Galaxy Note 10+ (RAM 12 GB + ROM 256 GB) ราคา 37,900 บาท
• Samsung Galaxy Note 10+ (RAM 12 GB + ROM 512 GB) ราคา 40,900 บาท

โดย Samsung Galaxy Note 10 จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura Black และ Aura Pink ส่วน Samsung Galaxy Note 10+ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ได้แก่ Aura Glow, Aura White และ Aura Black เปิดให้ผู้ที่สนใจได้จับจองกันแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

-------------------------------------
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com

Update : 08/08/2019

Samsung Galaxy Note 10 Samsung Galaxy Note 10+