หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

AI กำลังไล่จี้มนุษย์: OpenAI เผย GDPval แสดงศักยภาพงานออฟฟิศที่อาจเปลี่ยนอนาคต!

วันนี้มีเรื่องมาอัพเดทครับ วงการ AI กำลังร้อนฉ่าเมื่อ OpenAI เปิดตัว GDPval-v0 เครื่องมือวัดประสิทธิภาพ AI ที่ทดสอบงาน “ของจริง” ในโลกธุรกิจ ตั้งแต่ร่างเอกสารกฎหมาย แผนผังวิศวกรรม ไปจนถึงแผนดูแลผู้ป่วย! ผลลัพธ์ชวนตะลึง: AI รุ่นล่าสุดอย่าง Claude Opus 4.1 และ GPT-5 เริ่มทำงานได้ทัดเทียมหรือเหนือกว่ามนุษย์ในบางงาน โดย Claude Opus 4.1 ได้รับคะแนนนิยมถึง 48% จากผู้ประเมินเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญ ส่วน GPT-5 ตามมาไม่ห่างที่ 39% ที่สำคัญ AI ทำงานได้เร็วกว่ามนุษย์ถึงร้อยเท่าและต้นทุนถูกกว่ามาก! การค้นพบนี้ไม่เพียงสะท้อนความก้าวหน้าของ AI แต่ยังจุดคำถามใหญ่: มนุษย์จะปรับตัวอย่างไรเมื่อ AI เริ่มครองงานที่เคยเป็นของเรา?

งานวิจัยนี้ไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบ AI กับมนุษย์ แต่ยังชี้ให้เห็นว่า AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงาน” ที่ทรงพลัง ผลการทดสอบจาก 1,300 งานใน 44 อาชีพ แสดงให้เห็นว่า AI รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Claude, Gemini และ Grok กำลังพัฒนาแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะ GPT-5 ที่ประสิทธิภาพพุ่งแซง GPT-4o ถึงสองเท่าภายในเวลาไม่ถึงปี! แต่ OpenAI ก็เตือนว่า ถึง AI จะเก่งแค่ไหน มันยังขาด “สัญชาตญาณมนุษย์” ที่สำคัญในงานจริง เรื่องนี้ชวนให้เราคิด: AI จะเป็นเครื่องมือเสริมพลังมนุษย์ หรือจะกลายเป็นคู่แข่งที่ทำให้งานบางส่วนหายไป? มาดูกันว่าแต่ละประเด็นในงานวิจัยนี้บอกอะไรเราบ้าง

ประเด็นสำคัญจากงานวิจัย GDPval-v0

  1. GDPval-v0 คืออะไร? GDPval-v0 คือเครื่องมือที่ OpenAI พัฒนาขึ้นเพื่อวัดผลงานของ AI เทียบกับมนุษย์ในงานที่สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ โดยอิงจาก Gross Domestic Product (GDP) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของเศรษฐกิจ งานที่ทดสอบครอบคลุม 9 ภาคธุรกิจที่สร้าง GDP มากกว่า 5% ของสหรัฐฯ เช่น การเงิน สุขภาพ และเทคโนโลยี โดยเลือกงานจาก 44 อาชีพ รวม 1,300 งาน เช่น การเขียนเอกสารกฎหมาย หรือออกแบบพิมพ์เขียววิศวกรรม ผู้ประเมินที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะให้คะแนนผลงานของ AI และมนุษย์โดยใช้เกณฑ์ที่เข้มงวด ผลคือ Claude Opus 4.1 จาก Anthropic ทำผลงานได้ดีที่สุด ชนะมนุษย์ใน 47.6% ของงาน ส่วน GPT-5 จาก OpenAI ตามมาติด ๆ ที่ 39% เกร็ดน่ารู้: คำว่า “GDPval” ย่อมาจาก “GDP Validation” ซึ่งสะท้อนแนวคิดที่ว่า AI จะถูกวัดจากความสามารถในการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่ทำข้อสอบวิชาการได้ดี!
  2. AI เร็วกว่าและถูกกว่า แต่ขาดอะไร? งานวิจัยพบว่า AI สามารถทำงานได้เร็วกว่ามนุษย์ถึง 100 เท่าและมีต้นทุนถูกกว่ามากเมื่อเทียบจากค่า API และเวลาในการประมวลผล ตัวอย่างเช่น การร่างเอกสารที่มนุษย์อาจใช้เวลาเป็นวัน AI ทำเสร็จในไม่กี่นาที! แต่ OpenAI เตือนว่า ตัวเลขนี้ยังไม่รวม “ต้นทุนที่ซ่อนอยู่” เช่น การตรวจสอบผลงานโดยมนุษย์ หรือการตัดสินใจที่ต้องใช้บริบทและสัญชาตญาณ ซึ่ง AI ยังทำได้ไม่สมบูรณ์ งานบางอย่าง เช่น การวางแผนดูแลผู้ป่วย อาจต้องการความเข้าใจอารมณ์หรือประสบการณ์ส่วนตัวที่ AI ยังเลียนแบบได้ไม่ถึง มุมมองเพิ่มเติม: มีบทความใน MIT Technology Review (2024) ที่ชี้ว่า AI มักล้มเหลวในงานที่ต้องใช้บริบททางวัฒนธรรมหรือการตัดสินใจที่ซับซ้อน ซึ่งสอดคล้องกับข้อจำกัดที่ OpenAI ระบุ
  3. การพัฒนาแบบก้าวกระโดดของ AI หนึ่งในผลลัพธ์ที่ชวนตื่นเต้นคือประสิทธิภาพของ AI ที่เพิ่มขึ้นแบบ “super-linear” หรือเร็วกว่าที่คาดการณ์ จาก GPT-4o (ฤดูใบไม้ผลิ 2024) ไปสู่ GPT-5 (ฤดูร้อน 2025) ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในเวลาไม่ถึงปี! นี่แสดงให้เห็นว่า AI ไม่ได้พัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่กำลังก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้สะท้อนในผลงานของ Claude, Gemini และ Grok ที่เริ่มเข้าใกล้ระดับมนุษย์ในงานที่หลากหลายมากขึ้น เกร็ดน่ารู้: คำว่า “super-linear” หมายถึงอัตราการเติบโตที่เร็วกว่าเส้นตรง ซึ่งในวงการ AI บ่งชี้ว่าการลงทุนในโมเดลใหม่ ๆ อาจให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามากกว่าที่คิด
  4. AI จะแย่งงานมนุษย์หรือเป็นเพื่อนร่วมงาน? Ronnie Chatterji หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ OpenAI ชี้ว่า AI ไม่ได้มาเพื่อ “แทนที่” มนุษย์ทั้งหมด แต่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา งานบางอย่างอาจหายไป แต่จะมีงานใหม่ ๆ เกิดขึ้น หรือมนุษย์อาจต้องโฟกัสที่งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในงานกฎหมาย AI อาจช่วยร่างสัญญาได้เร็วขึ้น แต่การเจรจาหรือตีความในศาลยังต้องพึ่งทนายที่เป็นมนุษย์ มุมมองเพิ่มเติม: บทความใน Harvard Business Review (2025) เสนอว่า AI จะสร้าง “Augmented Workforce” หรือแรงงานที่ผสานมนุษย์กับ AI ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องใช้ความร่วมมือ

สรุปความคิดเห็น: GDPval-v0 ของ OpenAI ไม่ใช่แค่เครื่องมือวัดผล แต่เป็นสัญญาณว่า AI กำลังก้าวเข้าสู่โลกการทำงานอย่างจริงจัง การที่ AI ทำงานได้เร็วกว่าและถูกกว่ามนุษย์อาจฟังดูน่ากลัว แต่ถ้ามองในแง่ดี มันคือโอกาสให้มนุษย์ได้โฟกัสงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และมนุษยธรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการปรับตัวให้ทัน เพราะถ้า AI พัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างนี้ต่อไป โลกการทำงานอาจเปลี่ยนเร็วกว่าที่เราคิด!

แหล่งข่าวต้นทาง : https://www.axios.com/2025/09/25/chatgpt-gdp-val-ai-study

บทความโดย  : Geek Consult 

 

Update : 29/09/2025

AI Business inspiration







Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy