พบปัญหาหลังอัปเดต iOS 13.2 เมื่อผู้ใช้หลายรายเจอแอปฯ YouTube และ Safari ปิดการทำงานเองหลังสลับไปใช้แอปฯ อื่น

หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 13.2 และ iPadOS 13.2 ให้กับผู้ใช้ iPhone และ iPad ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด มีรายงานปัญหาหลังอัปเดต iOS 13.2 บ้างแล้ว เมื่อมีผู้ใช้บางส่วนพบว่า มีบางแอปฯ ปิดการทำงานเองหลังสลับไปใช้งานแอปฯ อื่น

โดยสื่อ macrumors.com รายงานว่า ผู้ใช้ iPhone และ iPad บางส่วน เริ่มพบปัญหาเกี่ยวกับการจัดการแอปฯ ที่ทำงานแบบเบื้องหลัง (Background Mode) ภายหลังอัปเดตเป็น iOS 13.2 และ iPadOS 13.2 โดยเฉพาะแอปฯ YouTube กับ Safari ที่ปิดการทำงานเองหลังจากสลับไปใช้งานแอปฯ อื่นในเวลาไม่กี่นาที

ผู้ใช้รายหนึ่งเผยกับทาง macrumors.com ว่า ดูคลิป YouTube บน iPhone 11 Pro จากนั้นหยุดคลิปวิดีโอชั่วคราวแล้วสลับไปยังแอปฯ Messages เพื่อตอบข้อความในเวลาไม่ถึงนาที จากนั้นสลับกลับมาแอปฯ YouTube ใหม่ พบว่า คลิปที่ดูค้างเอาไว้นั้นหายไป แล้ว YouTube ก็ทำการรีโหลดแอปฯ ใหม่ อีกทั้งยังพบปัญหาเดียวกันนี้บน iPad Pro อีกด้วย

ด้านผู้ใช้อีกราย เผยว่า ใช้งาน Excel อยู่ แล้วสลับไปดู YouTube เป็นเวลา 10 นาที จากนั้นกลับมาใช้ Excel อีกครั้ง พบว่า ข้อมูลดังกล่าวหายไป นอกจากนี้ ยังพบว่า Safari ก็โหลดข้อมูลใหม่ ส่วนเกมที่ทำงานแบบเบื้องหลังเกิน 20 นาที ถ้ากลับมาเล่นต่อ ก็โหลดข้อมูลใหม่เช่นกัน

ส่วนผู้ใช้รายอื่นก็พบปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ ทำให้คาดว่า น่าจะเป็นช่องโหว่ที่เกิดกับ iOS 13.2 และ iPadOS 13.2 เนื่องจากเวอร์ชันก่อนหน้าไม่พบรายงานปัญหาดังกล่าว ซึ่งต้องรอทาง Apple แก้ไขต่อไป

-------------------------------------
ที่มา : macrumors.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 04/11/2019

iOS 13.2