
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ GPT-5 ที่ทาง OpenAI เคลมว่า เป็นโมเดลที่ฉลาดและมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งในด้านการเขียน, Coding, การให้เหตุผล รวมถึงการค้นคว้าวิจัย ซึ่ง OpenAI เปรียบ GPT-4 เวอร์ชันก่อนหน้าว่าเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัย แต่ GPT-5 นั้น เทียบเท่ากับคนจบปริญญาเอกเลยทีเดียว
สำหรับความสามารถและฟีเจอร์เด่นของ ChatGPT-5 สรุปดังนี้
1. Reasoning และความแม่นยำ
- มี reasoning แบบลึก และ router เลือกโมเดลที่เหมาะกับคำถามอย่างชาญฉลาด
- ลดอัตราการให้ข้อมูลผิด โดยลดลง 45% เมื่อใช้ reasoning และลดลง 80% เมื่อใช้โมเดล Thinking เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
- รับรู้ข้อจำกัดของตัวเองดีขึ้น ถ้าหากทำไม่ได้ก็จะบอกเหตุผลอย่างชัดเจน

2. โค้ดดิ้ง และการแก้โค้ด
- เป็นโมเดลเขียนโค้ดดีที่สุดของ OpenAI สามารถสร้าง UX/UI ได้ใน prompt เดียว
- คะแนน benchmark สูง เช่น SWE-bench Verified (74.9%) และ Aider polyglot (88%)
- ทำงานแบบมีการวางแผน และมีการสรุปงานให้รู้ความเคลื่อนไหวระหว่างทางได้
3. สามารถสรุปและทำงานกับข้อมูลจำนวนมากได้ดีขึ้น
- รองรับ context window สูงถึง 256,000 - 400,000 tokens ทำให้ GPT-5 จัดการบทสนทนาหรือเอกสารยาว ๆ ได้ลึกและต่อเนื่องกว่าเดิม
- เชื่อมต่อกับรายงาน, ไฟล์, ข้อมูลจาก Google Drive, และช่วยสังเคราะห์คำแนะนำได้อย่างมีข้อมูลรองรับ
4. ด้านการเขียน
- ช่วยเรื่องการเขียนอย่างมีสไตล์ มีภาพชัด และความรู้สึกลึกซึ้งกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า
- มีความแม่นยำในการแต่งรูปแบบประโยคแบบยาก
5. ด้านสุขภาพ
- ออกแบบมาให้ใช้อย่างปลอดภัย มีการตั้งคำถาม เข้าใจผล และตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
- สามารถตั้งคำถามเพื่อโฟกัสข้อมูลสุขภาพให้ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากขึ้น
6. ความปลอดภัย
- ปรับปรุงการตอบคำถาม ในกรณีที่ข้อมูลไม่ครบ หรือไม่เหมาะกับการตอบแบบเต็มรูปแบบ จะเป็นการตอบแนวปลอดภัยแต่ยังมีประโยชน์อยู่
- สามารถตั้งคำถามเพื่อโฟกัสข้อมูลสุขภาพให้ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากขึ้น
ChatGPT-5 เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้ว ทั้งแพ็กเกจฟรี, Plus, Pro และ Team ส่วนแพ็กเกจ Enterprise และ Edu จะเปิดให้ใช้งานในสัปดาห์หน้า
-------------------------------------
ที่มา : OpenAI
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com
Update : 08/08/2025
GPT-5