EU เดินหน้าผลักดันกฎหมายให้ iPhone เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C เพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

เว็บไซต์ 9to5mac.com รายงานว่า ทางคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) พยายามผลักดันกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใช้พอร์ต USB-C เป็นพอร์ตมาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลทำให้ iPhone อาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

โดยแหล่งข่าวเผยว่า ร่างกฎหมายที่ถูกนำเสนอไปเมื่อไม่นานนี้ ต้องให้พอร์ต USB-C เป็นพอร์ตมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หูฟัง และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่วางจำหน่ายในยุโรป ซึ่งข้อกฎหมายนี้จะส่งผลกระทบของสินค้า Apple อย่าง iPhone โดยตรง เนื่องจากยังคงใช้พอร์ต Lightning อยู่

สำหรับร่างกฎหมายนี้จะต้องถูกอนุมัติโดยประเทศกลุ่มสมาชิกของ EU ก่อนจะถูกนำไปใช้จริง ซึ่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะมีเวลา 24 เดือนในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เปลี่ยนเป็นพอร์ต USB-C

ทั้งนี้ สินค้า Apple บางกลุ่มเริ่มเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C บ้างแล้ว อย่างเช่น iPad mini, iPad Pro รวมถึง iPad Air แต่สินค้ากลุ่ม iPhone ยังไม่มีรุ่นไหนที่ใช้พอร์ต USB-C แม้แต่ iPhone 13 series ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้

โดยทาง EU เผยว่า การเปลี่ยนมาใช้พอร์ตมาตรฐานอย่าง USB-C จะช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มาก เนื่องจากสามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่ทาง Apple ได้ออกมาแย้งว่า การบังคับให้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C จะเป็นการสร้างขยะมากขึ้น เนื่องจากจะมีสายชาร์จและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้พอร์ต Lightning มากกว่า 100 ล้านชิ้นกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ทันที

ทั้งนี้ เคยมีข่าวลือว่า Apple กำลังพัฒนา iPhone รุ่นไร้พอร์ต และเน้นการชาร์จแบบไร้สายแทน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ Apple อาจจะไม่เปลี่ยนจากพอร์ต Lightning เป็น USB-C แต่เปลี่ยนเป็นแบบชาร์จไร้สาย ทั้งนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า พอร์ต Lightning บน iPhone จะได้ไปต่ออีกกี่ปี

-------------------------------------
ที่มา : 9to5mac.com
เรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 28/09/2021

iPhone Apple