[รีวิว] Dyson Digital Slim เครื่องดูดฝุ่นไร้สายน้ำหนักเบาเพียง 1.9 กก. พร้อมแรงดูดทรงพลัง ทำความสะอาดได้ทุกพื้นที่ในพริบตา เพื่อสภาพแวดล้อมในบ้านที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ในราคา 19,900 บาท

ในยุคที่อุปกรณ์ต่างๆ เข้าสู่นวัตกรรมไร้สายกันมากขึ้น หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า เครื่องดูดฝุ่นในปัจจุบันก็มีการพัฒนาให้ใช้งานได้แบบไร้สายเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย หรือเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ และในวันนี้ทางทีมงาน techmoblog.com ก็มีเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบด้ามจับที่น่าสนใจมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกัน นั่นก็คือ Dyson Digital Slim ที่มีพลังในการทำความสะอาดอยู่ในระดับสูง น้ำหนักเบาใช้งานด้วยมือเดียวได้สบาย และดีไซน์ที่มีความสวยงาม โดยฟังก์ชันการใช้งานของ Dyson Digital Slim จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามรับชมรีวิวจากทีมงาน techmoblog.com กันได้เลยครับ

 

ข้อมูลทางเทคนิคของ Dyson Digital Slim

• แรงดูด 100AW
• เทคโนโลยี 11 ไซโคลน
• ถังเก็บฝุ่นขนาด 0.3 ลิตร
• แรงดูดคงที่นานสูงสุด 40 นาที
• ความสูง 250 มิลลิเมตร
• ความยาว 1100 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 250 มิลลิเมตร
• น้ำหนักรวม 1.90 กรัม
• ระยะเวลาในการชาร์จ 3.5 ชั่วโมง

 

สำหรับอุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่องผลิตภัณฑ์จะประกอบไปด้วย หัวดูดทำความสะอาด Slim Fluffy, หัวดูดปากแคบ ที่มีไฟส่องสว่างในตัว, หัวดูด 2 in 1, หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก, คลิปล็อกเก็บด้ามดูด, ข้อต่อยาว, ที่ชาร์จแบตเตอรี่, แท่นชาร์จแบตเตอรี่ และแท่นจัดเก็บอุปกรณ์แบบติดผนัง

 

มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้าง Dyson Digital Slim เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานด้วยมือเดียว ด้วยการดีไซน์ด้ามจับให้มีขนาดที่พอเหมาะ สามารถใช้นิ้วชี้เหนี่ยวปุ่มสีแดงสำหรับเริ่มใช้งานเครื่องดูดฝุ่นได้อย่างง่ายดาย

 

สำหรับ Dyson Digital Slim มีการพัฒนาดีไซน์ต่อยอดมาจากเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบด้ามจับรุ่น Dyson V11 ที่มีพลังดูดมหาศาล โดยทาง Dyson ได้ปรับดีไซน์ให้เบาลง 30% และเล็กลง 20% เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้น้ำหนักของ Dyson Digital Slim จะอยู่ที่ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น

 

ที่ด้านบนมาพร้อมกับมอเตอร์ Dyson Hyperdynium ที่แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก และมีน้ำหนักที่เบา แต่มีความเร็วในการหมุนมากถึง 120,000 รอบต่อนาที เพื่อสร้างแรงดูดได้สูงสุดที่ 100 แอร์วัตต์ ช่วยให้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้ในพริบตา และมีพลังเพียงพอต่อการดูดจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 100 เท่า พร้อมชุดไซโคลนแบบม้วนจำนวน 11 ตัว สำหรับสร้างแรงดูดมากถึง 100,000g ซึ่งทาง Dyson ได้ออกแบบมาเพื่อกำจัดฝุ่นขนาดเล็กโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการทำความสะอาดภายในบ้านได้อย่างดีเยี่ยม

 

ที่ด้านหน้ามาถังเก็บฝุ่นขนาด 0.3 ลิตร ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดฝาเพื่อทิ้งสิ่งสกปกรกได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้มือกดที่แถบสีแดงด้านล่าง และออกแรงผลักไปด้านหน้าเล็กน้อย 

 

ส่วนที่ด้านหลังมาพร้อมกับชุดกรองแบบ 5 ชั้น ที่ทำหน้าที่ดักจับฝุ่น และสารที่ก่อภูมิแพ้ จากนั้นจะทำการปล่อยอากาศที่สะอาดออกมา เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้สึกระคายเคืองขณะใช้งาน โดยสามารถสามารถถอดฝาครอบออกมาทำความสะอาดได้ด้วย พร้อมกับหน้าจอแสดงผล LCD แบบสี สำหรับแสดงโหมดความแรงในการดูดฝุ่น, ปริมาณแบตเตอรี่, ระยะเวลาการใช้งานที่เหลืออยู่, แจ้งเตือนตัวกรอง และรายงานการอุดตัน

 

ส่วนที่ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล จะมีปุ่มควบคุมสีแดง สามารถกด 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมดการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น หรือกดปุ่มค้างเป็นเวลา 3 วินาที เพื่อเข้าสู่การตั้งค่า และเลือกเมนูที่ต้องการ

 

ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมีปลั๊กสำหรับติดเข้ากับแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ โดยกดที่ปุ่มสีแดง และออกแรงดึงออกจากกันเพียงเล็กน้อย

 

สำหรับวิธีการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับเครื่องดูดฝุ่น Dyson Digital Slim สามารถทำได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. ชาร์จแบตเตอรี่เข้ากับตัวฐานโดยไม่ต้องใส่ตัวเครื่องดูดฝุ่น โดยระบบจะทำการแสดงไฟสถานะการชาร์จให้เห็นเป็นจังหวะ

 

2. ชาร์จแบตเตอรี่เข้ากับตัวฐานโดยใส่เครื่องดูดฝุ่น โดยผู้ใช้สามารถกดที่ปุ่มควบคุมสีแดงบริเวณด้านหลัง เพื่อแสดงปริมาณแบตเตอรี่

 

ในส่วนของแท่นชาร์จติดผนังที่แถมมาให้ภายในกล่องผลิตภัณฑ์ ถูกออกแบบมาให้วางตัวเครื่อง Dyson Digital Slim ได้อย่างพอดี สามารถนำมาพักเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และหยิบไปใช้ทำความสะอาดต่อได้ทันที

 

อย่างที่เรากล่าวไปตั้งแต่ด้านต้นว่า ชิ้นส่วนต่างๆ ของ Dyson Slim ที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สามารถนำไปทำความสะอาดได้ด้วยตนเอง โดยให้ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดในจุดที่สกปรก และทิ้งไว้ให้แห้งเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ก็สามารถนำกลับมาใช้งานต่อได้

 

ทดสอบการใช้งาน Dyson Digital Slim

เริ่มแรกให้ผู้ใช้ทำการต่อหัวดูดที่ต้องการเข้ากับเครื่องดูดฝุ่นก่อน ด้วยการหันตัวล็อกสีแดงขึ้นด้านบน และต่อเข้ากับเครื่องดูดฝุ่นโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ส่วนวิธีการปลดให้ทำตรงกันข้ามโดยการกดปุ่มล็อกสีแดงค้างไว้ และทำการถอดออกจากเครื่องดูดฝุ่น

 

ในส่วนของการดูดฝุ่น ผู้ใช้สามารถเลือกความแรงในการดูดได้ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ 

 

• Eco - โหมดประหยัดพลังงาน สามารถใช้ได้นานกว่า 40 นาที ต่อ 1 รอบการชาร์จ เหมาะแก่การดูดฝุ่น และสิ่งสกปรกทั่วไปภายในบ้าน
• Med - โหมดพลังดูดระดับกลาง ซึ่งจะเพิ่มรอบมอเตอร์หมุนให้ถี่ขึ้น เพื่อเพิ่มพลังการดูดให้แรงกว่าเดิม
• Boost - โหมดเร่งพลังดูดระดับสูงสุด ซึ่งจะใช้ได้ต่อเนื่องราว 10 นาที

  

สำหรับหัวดูดที่ทาง Dyson แถมมาภายในกล่องผลิตภัณฑ์จะตอบโจทย์การดูดทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไป เริ่มต้นที่ หัวดูดทำความสะอาดแบบ Slim Fluffy ที่เหมาะสำหรับใช้งานบนพื้นแข็ง สามารถทำความสะอาดส่วนต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น หรือเส้นผมได้อย่างสะอาดหมดจด และด้วยดีไซน์ที่มีลักษณะเป็นหัวดูดแบบแบน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำความสะอาดด้านใต้ของเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างง่ายดาย

 

ด้านในหัวดูดทำความสะอาดแบบ Slim Fluffy จะมีขนแปรงเส้นใยคาร์บอน์ไฟเบอร์แบบนิ่ม เพื่อช่วยดักจับฝุ่นขนาดเล็กจากซอกมุม และยังช่วยปกป้องพื้นไม้ภายในบ้านได้อีกด้วย รวมทั้งยังมีการติดตั้งมอเตอร์ด้านใน เพื่อช่วยให้การดูดฝุ่นเป็นไปอย่างลื่นไหลแบบไม่มีหยุดชะงัก 

 

ที่ด้านนอกของหัวดูดแบบ Slim Fluffy จะมีข้อต่อแบบยางที่ให้ตัวได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถบิดหัวดูดให้เข้ากับขอบผนังภายในบ้าน หรือซอกมุมต่างๆ เพื่อทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก

 

ด้านหัวดูดปากแคบ เหมาะสำหรับดูดทำความสะอาดส่วนต่างๆ ภายในบ้านที่อยู่ด้านบน หรอกซอกเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นที่จำกัด และยังเหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่มีความมืดเนื่องจากหัวดูดปากแคบจะมีไฟส่องสว่างในตัว เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาดได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

 

หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก เป็นหัวดูดที่มีมอเตอร์ในตัวคล้ายกับหัวดูดแบบ Slim Fluffy แต่จะเหมาะกับการดูดทำความสะอาดอนุภาคขนาดเล็ก รวมถึงไรฝุ่น ที่กินเศษเซลล์ และสะเก็ดผิดวหนังที่หลุดจากตัวมนุษย์เป็นอาหาร ซึ่งไรฝุ่นพวกนี้จะอาศัยอยู่ในสิ่งของต่างๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์นุ่มๆ เช่น ฟูกที่นอน, โซฟา หรือพรม และชอบอยู่ในที่ที่มีความชื้น และพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นอย่างประเทศไทย

โดยเฉลี่ยแล้วในเตียงนอนของเรา จะมีไรฝุ่นอยู่ประมาณ 3 ล้านตัว ซึ่งสาร หรืออุจจาระจากตัวไรฝุ่นนี้เอง ที่เป็นต้นเหตุของภูมิแพ้ โดยเมื่อมนุษย์หายใจรับสารเหล่านี้เข้าไป จะทำให้เกิดอากาศแพ้ทางจมูก จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ หอบ หายใจลำบาก คัน เคืองตา ฯลฯ ซึ่งเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่มีหัวดูดขนาดเล็ก จะช่วยดึงเอาเซลล์ผิวหนัง และสารจากไรฝุ่นต่างๆ ที่อยู่ตามที่นอน หรือโซฟา และที่สำคัญ เครื่องดูดฝุ่นของ Dyson ทุกรุ่นยังได้รับการรับรองจาก Allergy Foundation จึงทำให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการทำความสะอาดอนุภาคขนาดเล็ก รวมทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีไซโคลนเฉพาะของ Dyson ที่ทำให้แรงดูดคงที่ ไม่เสื่อมสภาพ

 

ด้านหัวดูดแบบ 2 in 1 เป็นหัวดูดที่มีขนแปรงอยู่รอบนอกสำหรับปัดทำความสะอาด และดูดสิ่งสกปรกตามซอกต่างๆ เช่น รางประตู หรือซอกประตู เป็นต้น

 

ในด้านการใช้งานจริงถือว่า Dyson Digital Slim ถือว่าทำงานได้อย่างน่าประทับใจ เพราะเพียงแค่ใช้โหมด Eco ก็สามารถดูดฝุ่น และสิ่งสกปรกภายในบ้านได้อย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาแม้ใช้หัวต่อแบบยาว สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยังมีการออกแบบตัวเครื่อง และวัสดุต่างๆ ให้ดูดซับแรงสั่นสะเทือนเพื่อช่วยลดเสียงขณะใช้งานให้น้อยลง รวมทั้งตัวเครื่องยังมีขนาดเล็ก อุปกรณ์ต่างๆ ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียม

 

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจเกี่ยวกับ Dyson Digital Slim คือ แบตเตอรี่ เพราะสามารถใช้งานต่อครั้งได้นานกว่า 40 นาที ซึ่งเพียงพอต่อการทำความสะอาดภายในบ้านได้อย่างสะอาดหมดจด นอกจากนี้ Dyson Digital Slim ยังเหมาะแก่การใช้งานในระยะยาว ด้วยตัวเครื่องที่ถูกออกแบบมาให้มีความคงทน แข็งแกร่ง ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ระดับสูงแม้ใช้งานนานกว่า 6 เดือน และชิ้นส่วนต่างๆ สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งก็ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นคุณภาพสูงสำหรับใช้งานในระยะยาวมากเลยทีเดียว

สำหรับ Dyson Digital Slim เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 19,900 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ Dyson.co.th สามารถกรอกโค้ด DYDTSL เพื่อรับส่วนลดพิเศษ 2,500 บาท โดยโปรโมชันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 - 31 มีนาคม 2564 พร้อมรับประกันสินค้านาน 30 เดือน (จากปกติ 24 เดือน), ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 เดือน, คืนสินค้าได้ภายใน 14 วัน และบริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของ Dyson Digital Slim สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3bC87Pz

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 08/06/2021

Dyson Dyson Digital Slim