แชะเดียวรู้เรื่อง! วัดแคลอรี่อาหารจานเด็ดได้ง่ายๆ แค่ถ่ายภาพด้วยแอป Lose It!

ระยะหลังนี้คนเราหันมาใส่ใจสุขภาพขึ้น นอกจากการเข้ายิมออกกำลังกายแล้ว การควบคุมอาหารและควบคุมน้ำหนักก็เป็นปัจจัยสำคัญของสุขภาพที่ดี เป็นที่รู้กันดีว่าการควบคุมอาหารแบบเข้มงวดจะต้องคำนวณแคลอรี่ของอาหารในแต่ละวันให้ร่างกายได้รับอย่างพอเหมาะ ซึ่งยุ่งยากมากจนหลายคนถึงกับท้อและเลิกทำไป แต่จะดีแค่ไหน หากเราสามารถคำนวณแคลอรี่ของอาหารได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ถ่ายรูปเท่านั้น?

Lose It! เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันช่วยลดน้ำหนักที่มีให้เห็นอยู่มากมายในปัจจุบันที่พยายามทำให้การคำนวณแคลอรี่ในอาหารเป็นเรื่องง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และล่าสุดก็ทำสำเร็จด้วยการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า “Snap It” เข้ามา ทำให้ผู้ใช้สามารถคำนวณแคลอรี่ของอาหารจานนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเพียงแค่ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป แม้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะยังเป็นเวอร์ชัน Beta แต่บริษัท FitNow Inc ซึ่งเป็นเจ้าของแอปพลิเคชัน Lose It! ยืนยันว่า ฟีเจอร์นี้มีความแม่นยำมาก ตั้งแต่ 87.3% ไปจนถึง 97.1% เลยทีเดียว

เมื่อถ่ายภาพอาหารผ่านฟีเจอร์ Snap It ฟีเจอร์ดังกล่าวจะตีความชนิดของอาหารในภาพและทำการวิเคราะห์ปริมาณแคลอรี่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับแสดงผลลัพธ์ออกมา ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มเติมรายละเอียดลงไปเพื่อให้การคำนวณมีความแม่นยำขึ้นได้ เช่น ระบุชนิดของขนมปังหรือผักที่อยู่ในอาหารนั้นๆ เป็นต้น

Snap It มีโครงสร้างโปรแกรมแบบข่ายงานประสาทเทียม (neural network) ที่สามารถเรียนรู้ได้ ยิ่งเราใช้มันบ่อยเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งคำนวณได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้น จนสามารถระบุได้ว่าเรากำลังกินอะไร และกินไปกี่หน่วยบริโภค

“ในท้ายที่สุดแล้ว เราต้องการที่จะสร้างความเข้าใจการกินอาหารให้เรียบง่ายที่สุด เช่นเดียวกับที่ Fitbit ทำให้เราเข้าใจกิจกรรมสุขภาพของเราได้อย่างง่ายๆ ฟีเจอร์ Snap It จะมอบโอกาสให้เราได้เข้าถึงผู้ใช้กลุ่มใหม่ๆ ที่หงุดหงิดรำคาญกับความลำบากในการควบคุมอาหารหรือไม่เคยลองทำเพราะกลัวยุ่งยากและเสียเวลา เมื่อการคำนวณแคลอรี่ง่ายดายเพียงแค่ถ่ายรูป ไม่ว่าใครก็เข้าถึงมันได้ทั้งนั้น” Charles Teague CEO ของ FitNow กล่าว

ใครที่กำลังหงุดหงิดกับการควบคุมอาหารอยู่ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Lose It! ไปลองใช้กันได้แล้ววันนี้ทั้งใน Android และ iOS ครับ

ดาวน์โหลด Lose It! (ฟรี)

--------------------------------------- 
ที่มา : PhoneArena
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 30/09/2016