[รีวิว] JBL LIVE 200BT หูฟัง In-Ear ไร้สายแบบคล้องคอ รองรับการสั่งการด้วยเสียง พร้อมระบบเสียงแบบ JBL Signature Sound แบตอึดยาวนาน 10 ชั่วโมง เคาะราคาที่ 2,990 บาท

หลังจากที่ทีมงาน techmoblog ได้ทำการ รีวิว JBL LIVE 500^BT หูฟังไร้สายแบบ On-Ear กันไปแล้ว ในวันนี้มาดูน้องเล็กประจำซีรี่ส์ LIVE กันบ้าง นั่นก็คือ JBL LIVE 200^BT นั่นเอง ซึ่งดีไซน์ของหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT นั้น ถือว่าแตกต่างจาก JBL LIVE 500^BT โดยเป็นหูฟัง In-Ear ไร้สายแบบคล้องคอ ทำให้มีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่กะทัดรัดกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ รองรับเทคโนโลยี Voice Assistant หรือการสั่งการด้วยเสียง ทั้ง Siri และ Google Now ที่ถือว่าเป็นจุดขายหลักของซีรี่ส์นี้นั่นเอง

โดยหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android และ iOS ผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 และสามารถควบคุมการเล่นเพลงได้ผ่านทางปุ่มกดที่อยู่ตรงก้านหูฟัง ส่วนหูฟังนั้น เป็นแบบ Magnetic Buds สามารถติดหูฟังทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกันเพื่อป้องกันสายพันกัน นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Point Connection ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสูงสุด 2 อุปกรณ์ พร้อมระบบเสียงแบบ JBL Signature Sound ส่วนแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง และใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

มาดูกันดีกว่าว่า JBL LIVE 200^BT จะมีดีไซน์, ฟังก์ชันการใช้งาน และคุณภาพเสียงเป็นอย่างไร กับ รีวิวหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT โดยทีมงาน techmoblog.com

• ขนาดไดร์ฟเวอร์ : 8 มม.
• Frequency Response : 20Hz - 20kHz
• ระบบเสียงแบบ JBL Signature Sound
• แบตเตอรี่รองรับการใช้งานสูงสุด 10 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งการชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้งานได้ต่ออีก 1 ชั่วโมง
• รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
• รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สามารถใช้รับสายโทรศัพท์ได้
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Point Connection สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 ตัว
• รองรับ Voice Assistant ระบบการสั่งการด้วยเสียง
• หูฟังแบบ Magnetic Buds สามารถติดหูฟังทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกันเพื่อป้องกันสายพันกัน

สำหรับดีไซน์ของหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT จะเป็นแบบคล้องคอ (Wireless In-Ear Neckband Headphones) ซึ่ง Neckband จะเป็นวัสดุซิลิโคนผิวเรียบลื่น มีความยืดหยุ่น สามารถโค้งงอหรือกางออกได้ตามความต้องการ ส่วนปลายทั้งสองด้านจะเป็นอะลูมิเนียม ที่มีความแข็งแรงและทนทาน อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา ทำให้ไม่รู้สึกปวดเมื่อยหรือรำคาญเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน ๆ

ด้านหูฟัง จะเป็นแบบ In-Ear ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า Magnetic Buds ทำให้หูฟังสามารถแนบติดด้วยกันได้ ส่วนสายหูฟัง มีขนาดความยาวที่พอดี ไม่ยาวจนเกินไป และหุ้มด้วยผ้าทำให้หมดปัญหาเรื่องสายพันกันขณะใช้งาน

สำหรับปุ่มควบคุมการทำงาน จะอยู่ที่ก้านหูฟังด้านขวามือ ซึ่งด้านในนั้น ประกอบด้วย ไมโครโฟน, ปุ่มเปิด-ปิดแบบสไลด์ พร้อมไฟ LED, พอร์ต microUSB พร้อมฝาปิดและไฟแสดงสถานะการชาร์จ

ส่วนด้านนอก จะเป็นปุ่มควบคุมการทำงานทั้งการเล่นเพลง, รับสายโทรศัพท์ รวมถึงการสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) รายละเอียดดังนี้

• ด้านการฟังเพลง
  • ปุ่มเครื่องหมาย + : กด 1 ครั้ง เพิ่มระดับเสียง, กดค้าง 3 วินาที เพื่อเล่นเพลงถัดไป
  • ปุ่มเครื่องหมาย - : กด 1 ครั้ง ลดระดับเสียง, กดค้าง 3 วินาที เล่นเพลงก่อนหน้า
  • ปุ่มกลาง : เล่นเพลง/หยุดเพลง
• ด้านการใช้งานโทรศัพท์ 
  • ปุ่มเครื่องหมาย + : สำหรับรับสาย
  • ปุ่มเครื่องหมาย - : กดค้าง 3 วินาที เพื่อวางสาย
  • ปุ่มกลาง : กด 1 ครั้งเพื่อตัดสาย
• การสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) ให้กดปุ่มกลาง 2 ครั้งเพื่อเข้าสู่ระบบการสั่งการด้วยเสียง ทั้ง Siri หรือ Google Now เช่น สั่งให้เปิดเพลง, ปิดเพลง เป็นต้น

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย สาย USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ (ไม่มี Adapter มาให้), จุกหูฟัง 3 ขนาด (S, M, L), คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

สำหรับการเชื่อมต่อหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT กับสมาร์ทโฟน ให้เปิดปุ่ม Power ที่ตัวหูฟัง และกดปุ่ม Bluetooth เพื่อปล่อยสัญญาณสำหรับเชื่อมต่อ จากนั้นให้มาที่สมาร์ทโฟน ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Bluetooth แล้วเลือก JBL LIVE200BT

มาลองทดสอบคุณภาพเสียงที่ได้จากหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT กันบ้าง โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเสียง JBL Signature Sound และไดร์ฟเวอร์ขนาด 8 มม. ซึ่งให้เสียงที่คมชัด เน้นรายละเอียด เนื้อเสียงอิ่มหนา เสียงเบสมวลแน่นเต็ม โดยเสียงกลางมีความคมชัด ใส รายละเอียดต่าง ๆ ของเครื่องดนตรีชัดเจน, เสียงสูงมีความใส คม และเป็นธรรมชาติ ส่วนเวทีเสียงไม่แบนราบ เสียงกว้าง ทำให้ภาพรวมของการฟังเพลงนั้นมีความสมจริง และมีมิติ ส่วนด้านการตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ถือว่า ทำได้ดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับการฟังเพลงหลากหลายแนว อย่างเช่น Pop, Acoustic หรือ Pop-Rock

สำหรับผู้ที่มองหาหูฟังไร้สายแบบ In-Ear ที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์, น้ำหนักเบา พกพาสะดวก รวมถึงคุณภาพเสียงและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน หูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT รุ่นนี้ ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี และมีของดีพอตัวเช่นกัน ซึ่งจุดขายหลักของรุ่นนี้ก็คือ การรองรับเทคโนโลยีการสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) ทั้งบน iPhone และมือถือ Android ทำให้ไม่จำเป็นต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้งานตลอดเวลา เพราะนอกจากจะสั่งการให้เปิดเพลงได้แล้ว ยังสามารถสั่งให้โทรศัพท์ได้อีกด้วย ง่าย ๆ แค่กดปุ่ม

โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT มีดังนี้

• เป็นหูฟัง In-Ear ไร้สายแบบคล้องคอ
• ระบบเสียงแบบ JBL Signature Sound พร้อมไดร์ฟเวอร์ขนาด 8 มม.
• ก้านคล้องคอ ทำมาจากวัสดุเนื้อดี มีความยืดหยุ่นสูง
• หูฟังเป็นแบบ Magnetic Buds ทำให้สามารถติดหูฟังทั้ง 2 ข้างด้วยกันเพื่อป้องกันไม่ให้สายหูฟังพันกัน
• จุกหูฟังมีให้เลือก 3 ขนาด ตามลักษณะหูของผู้ใช้แต่ละคน
• รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Point Connection สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้พร้อมกัน 2 ตัว
• รองรับ Voice Assistant ระบบการสั่งการด้วยเสียง (Siri และ Google Now)
• แบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จเต็มเพียง 2 ชั่วโมง
• การชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอีก 1 ชั่วโมง

แต่เนื่องจากหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย ทำให้ตัวหูฟังไม่รองรับคุณสมบัติด้านการกันน้ำ เหมือนกับหูฟัง JBL ซีรี่ส์ Endurance

โดยหูฟังไร้สาย JBL LIVE 200^BT มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน, สีเขียว และสีขาว ในราคา 2,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 24/06/2019

JBL LIVE 200BT