หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

iPhone 5 (ไอโฟน 5) : สรุปข้อมูลรีวิว iphone5 ทั้งสเปคและราคา พร้อมอัพเดท สถานการณ์การสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ล่าสุด ทั้ง AIS, Dtac, Truemove H และ Apple Store [1-มี.ค.-56]

[1-มีนาคม-2556] iPhone 5 (ไอโฟน 5) เปิดจำหน่ายในไทยมาได้ 3 เดือนเศษๆ แล้ว แน่นอนครับว่า ถ้าเปรียบเทียบสถานการณ์ การสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เมื่อตอนเปิดตัว กับ ณ ปัจจุบัน (1 มีนาคม 2556) ถือว่า ตอนนี้ เริ่มคล่องตัวและเข้าที่เข้าทางมากแล้วครับ ปัญหาเรื่อง การรับบัตรคิว การจอง หรือการวางเงินมัดจำ กับการซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ถือว่า ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วครับ เพราะผู้ที่สนใจ สามารถเดินเข้าช็อป เพื่อซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ได้เลยทันที

และในวันนี้ เว็บไซต์ techmoblog ได้รวบรวม ราคา และ โปรโมชั่น ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จากทั้ง 3 เครือข่ายดัง ไม่ว่าจะเป็น Dtac, AIS รวมไปถึง Truemove H เพื่อเป็นข้อมูล และทางเลือก สำหรับผู้ที่ตัดสินใจจะซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ในตอนนี้ครับ

iPhone 5 : Truemove H

- iPhone 5 16GB เครื่องเปล่า 24,550 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 23,677 บาท
- iPhone 5 32GB เครื่องเปล่า 28,250 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 27,283 บาท
- iPhone 5 64GB เครื่องเปล่า 31,950 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 30,807 บาท

สำหรับแพ็กเกจ iPhone 5 แบบรายเดือน และแบบเติมเงิน ของลูกค้า Truemove H เป็นดังนี้

iPhone 5 : Dtac

- iPhone 5 16GB เครื่องเปล่า 24,555 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 23,655 บาท
- iPhone 5 32GB เครื่องเปล่า 28,555 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 27,355 บาท
- iPhone 5 64GB เครื่องเปล่า 31,955 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 30,955 บาท

ส่วนแพ็กเกจและโปรโมชั่นของ iPhone 5 จาก Dtac มีทั้งหมด 2 แพ็กเกจด้วยกัน นั่นก็คือ แพ็กเกจหลักของ iPhone และแพ็กเกจ Smart DEEZER ที่เน้นโทร เล่นอินเทอร์เน็ต และฟังเพลงครับ รายละเอียดเป็นดังนี้

iPhone 5 : AIS

- iPhone 5 16GB เครื่องเปล่า 24,500 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 23,900 บาท
- iPhone 5 32GB เครื่องเปล่า 28,250 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 27,500 บาท
- iPhone 5 64GB เครื่องเปล่า 31,950 บาท เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 30,900 บาท

ส่วนแพ็กเกจ iPhone 5 ของ AIS เป็นดังนี้ครับ

iPhone 5 : Apple Store

ปิดท้ายด้วย การสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Store กันบ้างครับ ซึ่งในตอนนี้ ผู้ที่สั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Store ไม่จำเป็นต้องรอสินค้านานเหมือนตอนเปิดตัวแล้วครับ ซึ่งถ้าหากเข้าไปดูในหน้า Apple Online Store จะพบรายละเอียดว่า iPhone 5 (ไอโฟน 5) พร้อมส่งภายใน 24 ชั่วโมงครับ ฉะนั้น ถ้าหากเราสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Store ก็จะใช้เวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้นเอง ถือว่า เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสั่งซื้อที่สะดวกครับ

เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น จะขอสรุปเป็นตาราง ดังนี้ครับ

ค่าย / เครือข่าย
มีสินค้า / ไม่มีสินค้า
Walk in ได้
สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์
เงินมัดจำ
มี
-
มี
-
มี
-
มี
-

ส่วน ราคา iPhone 5 (ไอโฟน 5) พร้อมแพ็กเกจ เครื่องศูนย์ เครื่องหิ้ว มาบุญครอง อัพเดททุกสัปดาห์ สามารถติดตามได้ ที่นี่ ครับ

อัพเดทคลิปวิดีโอโปรโมท iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Subtitle ภาษาไทย thai โดยทีมงาน techmoblog ครับ เราเห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาใส่ sub ภาษาไทยให้ทุกท่านได้ชมกันครับ ซึ่งภายในคลิปจะกล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ iPhone 5 และการปรับเปลี่ยนที่สำคัญต่างๆ ทั้งในเรื่องของการออกแบบและชิ้นส่วนภายใน นอกจากนั้น ยังสรุปถึงการใช้งาน Feature อื่นๆ ที่น่าสนใจรวมถึงการถ่ายภาพ Panorama ด้วยครับ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากคลิปวีดีโอนะครับ

iphone 5

หลังจากที่ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ใน 9 ประเทศ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้ในตอนนี้ iphone 5 (ไอโฟน5) เครื่องหิ้วจากต่างประเทศ ได้ทยอยนำมาขายในไทยกันอย่างมากมาย และราคา iPhone 5 (ราคา ไอโฟน 5) เครื่องหิ้ว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 1,000 - 2,000 บาท ตามความต้องการซื้อ iphone5 (ไอโฟน5) ที่มีอย่างมากมายนั่นเอง โดยในวันที่ 28 กันยายนนี้ iphone 5 (ไอโฟน 5) จะเปิดจำหน่ายในรอบที่ 2 อีก 22 ประเทศด้วย ซึ่งแน่นอนครับว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยเหมือนเช่นเคย

และตามคำสัญญาครับ เมื่อเว็บไซต์ techmoblog ได้มีโอกาส สัมผัส iPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่รอช้า รีบนำบทความ รีวิว iPhone 5 (iphone 5 review) มาให้ได้อ่านกัน โดยจะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ iphone5 (ไอโฟน 5) ว่า ดีขึ้นกว่า iPhone 4S จริงหรือไม่ บอดี้แบบใหม่บน iphone 5 (ไอโฟน5) นั้น สวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้งาน iPhone5 (ไอโฟน 5) เสียที ข้อดีข้อเสีย ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) มีอะไรบ้าง บทความนี้ จะเป็นบทความที่ช่วยให้ท่าน ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะซื้อ iPhone5 (ไอโฟน 5) ดีหรือไม่ ไปชมพร้อมๆ กันครับ

สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)

- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver

แกะกล่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5)
 


 

สำหรับ กล่องของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือ กล่องของ iphone 5 (ไอโฟน5) จะมีการแยกสี โดยสำหรับรุ่นสีดำ ตัวกล่องจะเป็นสีดำ และรุ่นสีขาว ตัวกล่องจะเป็นสีขาวนั่นเองครับ โดยขนาดกล่องนั้นถือว่าใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย เพื่อรองรับหน้าจอที่มีขนาดยาวขึ้นกว่าเดิม และตัวกล่องยังคงใช้วัสดุเดียวกันกับกล่องของ iPhone รุ่นก่อนหน้าครับ
 



ภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย ที่ชาร์ตแบตเตอรี่แบบ Wall charge, สาย USB แบบใหม่ Lightning connector ขนาด 8-pin, อุปกรณ์สำหรับถอดถาดซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card รวมไปถึง Apple EarPods และ คู่มือการใช้งาน


 



สำหรับ iPhone 4S นั้น ชุดหูฟังจะไม่ได้อยู่ในแพคเกจที่เรียบร้อยแบบนี้นะครับ แต่ใน iphone5 (ไอโฟน5) นั้น Apple EarPods จะถูกบรรจุอยู่ในแพคเกจที่สวยงาม ภายในกล่องของ iPhone 5 อีกที ซึ่งสามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งานได้ง่าย และเป็นระเบียบอีกด้วย


 



และนี่คือ Dock Connector แบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Lightning connector บรรจุอยู่ภายในกล่องเช่นเดียวกัน


 



เนื่องจากเครื่องที่ทีมงานได้นำมาทดสอบในครั้งนี้ เป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ จึงทำให้ Adapter เป็นไปตามประเทศนั้นๆ แต่สำหรับรุ่นที่วางขายในไทย ก็จะเป็น Adapter ที่ใช้งานในประเทศไทย ได้ตามปกติ



รูปลักษณ์ และการออกแบบ iPhone 5 (ไอโฟน 5)

 

iphone 5 (ไอโฟน 5)

สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้นำมาทำการทดสอบ ในวันนี้คือรุ่น iPhone 5 (ไอโฟน 5) สีดำ Black & Slate ความจุ 16 GB โดยตัวเครื่องที่อยู่ภายในกล่อง จะมีพลาสติกใส ติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง


 



ด้านหลังของตัวเครื่อง จะเป็นแบบ ทูโทน (Two-tone) โดยสีดำ ในส่วนขอบบนล่าง จะเป็นกระจก
ส่วนตรงกลางตัวเครื่องจะเป็น Anodized Aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้บน MacBook นั่นเอง


 



สำหรับด้านบนของตัวเครื่อง จะมีแค่เพียงปุ่ม เปิดปิด เครื่อง เท่านั้น
โดยพอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างแทน


 



ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เรียงจากซ้ายไปขวา ก็จะเป็น พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Build-in Microphone และ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และชาร์จไฟ แบบใหม่ (Lightning connector) และสุดท้ายคือ Build-in Speaker ครับ


 



สำหรับด้านข้างฝั่งซ้าย ปุ่มที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเรียวๆ อยู่นั้น สามารถทำงานได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักครับ โดยสามารถเป็นได้ทั้ง ปุ่มเปิด-ปิดเสียง หรือล็อคการหมุนของหน้าจอ (rotate) ส่วน 2 ปุ่มกลมๆ นั้น เป็นปุ่มสำหรับ เพิ่มลดเสียง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า


 



ส่วนฝั่งขวานั้นจะมีเพียงช่องสำหรับ ใส่ซิมการ์ด โดยซิมที่ใช้บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นก็จะเป็นแบบ Nano-Sim นั่นเองครับ


 



สำหรับกล้องด้านหน้านั้น ความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน FaceTime ความละเอียดที่ 720p มีเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ระบบ Face detection ตรวจจับตำแหน่งของใบหน้า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งาน FaceTime บนเครือข่าย 3G และ 4G ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ส่วนของลำโพงสำหรับสนทนา ยังเป็นระบบแบบตัดเสียงรบกวน ทำให้สามารถได้ยินเสียงปลายสายได้ชัดเจนครับ


 



ในส่วนนี้ก็จะเป็น กล้องดิจิตอล iSight ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ตัวเลนส์ และไฟแฟลชครับ นอกจากนี้ iphone5 (ไอโฟน 5) ยังสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD 1080p ครับ



EarPods ชุดหูฟังใหม่ล่าสุดจาก Apple

 



สำหรับชุดหูฟังจาก Apple นั้นถือว่าเป็นระยะเวลานานพอสมควร ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนครับว่า ในรุ่นใหม่นี้ ทาง Apple ได้มีการออกแบบ ชุดหูฟังใหม่ทั้งหมด โดยมีการทดสอบ จากรูปแบบใบหู ของผู้ใช้ กว่า 124 แบบ จากผู้ใช้งานกว่า 1,000 คน เพื่อให้ได้รูปทรงที่สามารถเข้ากันได้กับ ผู้ใช้ทุกคนนั่นเอง
 



แจ็ค สำหรับเชื่อมต่อกับ พอร์ตหูฟัง ก็เป็นขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า


 



ขนาดของ รีโมท มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับ จากภาพ ด้านล่างจะเป็นของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) และด้านบน เป็น ชุดหูฟังรุ่นเก่า


 



ด้านหลังของรีโมท จะเห็นได้ว่าไม่มีช่องที่ถูกเจาะไว้เป็น ไมโครโฟน แบบในรุ่นเก่า โดยในรุ่นใหม่นี้ จะเรียบไปเลยครับ โดยจะมีการสกรีนลายเป็นรูปไมโครโฟนเอาไว้


 


 

สำหรับจุดเด่นในเรื่องของเสียง ในการปรับปรุงครั้งนี้ ทาง Apple ได้มีการเน้นให้ได้เสียงที่มีความใส และ มีน้ำหนักของ เสียงเบส มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายๆ ท่านที่เคยใช้ หูฟังจาก Apple อาจจะรู้สึกว่า เสียงเบสนั้นยังน้อยไป และออกไปทางเสียงแหลมซะมากกว่า ซึ่งแน่นอนครับว่า แต่ละคนนั้น มีรสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างกัน หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบเสียงเบสมากนัก แต่บางท่านก็อาจจะชอบ ซึ่งตรงนี้ ทีมงานก็คงไม่สามารถฟันธงได้นะครับว่า จะถูกใจใครหลายคนหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เสียง นั่นก็คือ ความรู้สึก สบายหลังจากที่ใส่ ที่ทางแอปเปิ้ลได้พยายามออกแบบให้เราได้รู้สึกไม่อึดอัดเวลาใส่นั่นเองครับ

การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5)

ชิปประมวลผล Apple A6

 


 

สำหรับบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ถือเป็นครั้งแรก ที่ทาง Apple ได้มีการลงมือ ปรับแต่ง หน่วยประมวลผลด้วยตัวเอง และการที่ทางแอปเปิ้ลลงมือทำเองนั้นจะช่วยให้ ความเข้ากันได้ ระหว่าง หน่วยประมวลผล และความสามารถของตัวเครื่อง รวมไปถึงความเข้ากันได้ระหว่าง หน่วยประมวลผล และ ระบบปฏิบัติการ นั้นดียิ่งขึ้น และถึงแม้ว่า หน่วยประมวลผลของ iphone5 (ไอโฟน5) จะเป็นแบบ Dual-Core processor ความเร็ว 1GHz แต่กลับสามารถทำความเร็วได้มากกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่า

หน้าจอแบบ Retina display ขนาด 4 นิ้ว

 


 

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม Apple จึงเลือกที่จะขยายหน้าจอให้ยาวขึ้น แทนที่จะทำให้ใหญ่ขึ้นเหมือนรุ่นอื่นๆ ในตลาด แต่คำตอบของทีมดีไซน์ของ Apple ก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะยังคงสามารถใช้งาน iPhone ด้วยมือเดียวได้อยู่นั่นเอง ซึ่ง Apple ได้ให้เหตุผลว่า นิ้วโป้งของเรานั้นสามารถเคลื่อนที่ได้บนความยาวที่สูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าได้ แต่หากหน้าจอมีความกว้างขึ้น อาจจะทำให้เราใช้งานด้วยมือเดียวได้ยากลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนที่ของนิ้วโป้งไปทางด้านกว้าง จะทำได้ลำบากขึ้นนั่นเอง

iPhone 5 รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE

 


 

สำหรับ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สามารถใช้งาน การเชื่อมต่อแบบ 4G LTE ได้แล้ว โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 100Mbps กันเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่า 4G นั้นจะยังไม่ได้มีการเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็ตาม แต่การที่ตัวเครื่องนั้นรองรับ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่น ที่มีไว้เตรียมพร้อมสำหรับ อีกขั้นของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายในไทยครับ

iPhone 5 กับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น

 


 

ด้วยตัวเครื่องที่มีความยาวมากขึ้น จึงทำให้มีพื้นที่สำหรับ ติดตั้งแบตเตอรี่ที่มากขึ้น จึงทำให้ทาง Apple ได้มีการปรับขนาด แบตเตอรี่ ให้ใหญ่ขึ้น แต่แน่นอนครับว่า ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ยิ่งต้องการใช้พลังงานของแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น แต่ระยะเวลาการใช้งานเมื่อชาร์จเต็มนั้นพอๆ กับ iPhone 4S นั่นเอง

กล้องด้านหลังแบบ iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ถูกออกแบบใหม่

 


 

ถึงแม้ว่ากล้องบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลเท่ากับ iPhone 4S แต่ทาง Apple นั้นได้มีการออกแบบ ตัวกล้องใหม่ทั้งหมด โดยเน้นให้มีความบางที่มากกว่าเดิม และมีการเปลี่ยน Cover ของ เลนส์ด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ด้วยความสามารถของ ชิปประมวลผล Apple A6 ที่มีการปรับแต่งให้มีการใช้งานร่วมกับการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น ยิ่งช่วยให้ภาพที่ได้จากการถ่ายด้วย iphone 5 นั้นดีขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลนี้ ยังมีฟีเจอร์การทำงานเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ฟิลเตอร์แบบ Hybrid IR เลนส์ทั้งหมด 5 ชิ้น และ รูรับแสง กว้างสูงสุดที่ F/2.4 นอกจากนี้ ชิปเซ็ท Apple A6 นั้น ยังช่วยให้การถ่ายภาพเร็วขึ้นอีกด้วยครับ

ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กันครับ ซึ่งสามารถคลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่ได้ โดยภาพขนาดเต็มนั้น เป็นภาพจริงๆ จากตัวกล้อง ไม่ผ่านการรีไซส์หรือปรับแต่งภาพใดๆ ครับ
 



ดูกันที่ภาพถ่ายแบบธรรมดาๆ กันไปแล้ว ต่อมาเรามาชมฟีเจอร์ใหม่บน iOS 6 กับการใช้งานกล้องถ่ายรูป นั่นก็คือ การถ่ายภาพในแนวกว้าง หรือ Panorama นั่นเอง โดยฟีเจอร์นี้ เป็นฟีเจอร์ที่ฝังมากับตัวกล้อง ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานเพิ่มเติมครับ



ซึ่งการใช้งานในโหมด Panorama บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) เมื่อเทียบกับการใช้งานแอพพลิเคชั่น Panorama ทั่วๆ ไป ถือว่า สะดวกมากกว่า โดยสามารถหมุนกล้องถ่ายได้เลย จากนั้นระบบจะประมวลผลภาพให้อัตโนมัติ แต่ถ้าหากเป็นแอพพลิเคชั่น Panorama ทั่วๆ ไปนั้น จะต้องค่อยๆ หมุนกล้องทีละนิด ให้ครบองค์ประกอบ จึงจะสามารถถ่ายช็อตถัดไปได้ ซึ่งถ้าเทียบความเร็วในการถ่ายภาพแบบ Panorama บน iPhone 5 (ไอโฟน5) หรือ iOS 6 แล้ว ถือว่า รวดเร็วมากเลยทีเดียวครับ

ปกติแล้ว การถ่ายภาพแบบ Panorama นี้ จะใช้สำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือภาพที่มีความนิ่งเท่านั้น แต่ความพิเศษของระบบการถ่ายภาพแบบ Panorama บน iOS 6 จะช่วยตัดสิ่งที่เคลื่อนไหวออกขณะถ่ายภาพให้อัตโนมัติด้วย สมมติว่า ขณะกำลังถ่ายอยู่นั้น มีคนเดินผ่านตัดหน้า เมื่อระบบประมวลผลแล้ว จะไม่ปรากฏภาพของคนเดินให้เห็นครับ (จุดนี้ทดสอบแล้ว พบว่า ตัดภาพคนเดินออกจริงๆ ครับ) แต่ถ้าหากขณะที่ถ่ายภาพ แล้วมีคนยืนนิ่งๆ อยู่ ภาพที่ออกมาก็ยังเห็นเป็นคนยืนครับ

สำหรับขนาดภาพจริงๆ ของภาพแบบ Panorama นั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 14MB - 17MB ขนาดกว้างสูงสุดที่ 10800 พิกเซล ขึ้นอยู่กับว่า เราถ่ายกว้างมากน้อยแค่ไหน ลองมาชมตัวอย่างภาพถ่ายแบบ Panorama บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) กันครับ







หลังจากที่ได้ชมภาพจากกล้องบน iphone 5 (ไอโฟน 5) ทั้งแบบถ่ายภาพในโหมดปกติ และโหมด Panorama กันไปแล้ว มาดูกันว่า กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่เท่ากับ iPhone 4S นี้ มีการพัฒนาไปอย่างไร ได้ภาพที่แตกต่างกันหรือไม่ ชมได้จากตาราง เปรียบเทียบภาพถ่ายจาก iPhone 5 (ไอโฟน5) และ iPhone 4S ครับ
 


ตารางเปรียบเทียบ ภาพถ่าย จาก iPhone 5 และ iPhone 4S
iPhone 5
(คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพในขนาดที่ใหญ่ขึ้น)
iPhone 4S
(คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพในขนาดที่ใหญ่ขึ้น)


จบกันที่โหมดถ่ายภาพนิ่งกันไปแล้ว ต่อไป เรามาดูการถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือคลิปวิดีโอกันบ้าง ซึ่ง iPhone 5 (ไอโฟน 5) สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด ขนาด 1080p และได้ปรับปรุงระบบกันภาพสั่นไหว (Video stabilization) มีระบบ Face detection ตรวจจับตำแหน่งของใบหน้า และที่สำคัญ ยังสามารถถ่ายภาพนิ่ง ไปพร้อมๆ กับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วยครับ มาดูตัวอย่างคลิปวิดีโอครับ
 



การใช้งาน iOS 6 บน ระหว่าง iPhone 5 (ไอโฟน 5)
 


 

นอกจาก ฮาร์ดแวร์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้ดีกว่าเก่า ซอฟต์แวร์​ก็ถือเป็นอีกส่วนที่ช่วยให้สามารถใช้งานตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของแอปเปิ้ลอย่าง iOS 6 นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ มามากมาย ลองมาดูกันครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยทีมงานจะเน้นการทดสอบและ Screenshot จากตัวเครื่อง iPhone 5 จริงๆ ครับ

Safari บน iOS 6
 


 

บน iOS 6 นั้น Safari (ซาฟารี) ได้มีการพัฒนาให้สามารถโหลดหน้าเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชั่น การชมเว็บไซต์ แบบเต็มจออีกด้วย ซึ่งเมื่อลองทดสอบเปิดเว็บไซต์ผ่าน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ก็จะรู้สึกว่า ได้ขนาดหน้าจอ และตัวอักษร ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน

Apple Maps บน iOS 6
 


 

อย่างที่ทราบกันไปแล้วนะครับว่า บน iOS 6 ทางแอปเปิ้ลได้มีการเปลี่ยนจาก การใช้งาน Google Maps เดิมมาเป็น Apple Maps ที่พัฒนาโดยแอปเปิ้ลเอง ซึ่ง Apple Maps นั้นก็มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจมากมาย เช่น Flyover ที่จะช่วยให้คุณเห็นแผนที่ แบบ 3 มิติที่สวยงาม รวมไปถึงการนำทางแบบ Turn-By-Turn navigation ที่มีผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri คอยช่วยบอกทางอีกด้วยครับ

อย่างไรก็ดี การใช้งานแผนที่แบบ 3 มิตินั้น ยังไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศไทย นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นการนำทางแบบ Turn-by-turn navigation จะสามารถใช้งานได้ในเดือนตุลาคมครับ

หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น มองเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น
 


 

สำหรับ iphone 5 (ไอโฟน5) ที่ตัวเครื่องนั้นยาวขึ้น ช่วยให้เราสามารถเห็นรายละเอียดเพิ่มเติมได้มากขึ้น เช่น จำนวนแถวของภาพใน Gallery หรือแม้แต่การเข้าชมเว็บไซต์​หรือ Notification ต่างๆ จะมีจำนวนของข้อมูลที่เห็นได้มากขึ้น

คีย์บอร์ด ภาษาไทย แบบ 4 แถว บน iPhone 5
 


 

หากเราใช้งาน iPhone รุ่นก่อนหน้า การที่คีย์บอร์ดถูกเปลี่ยนเป็น 4 แถว ซึ่งยาวขึ้นกว่าเดิมนั้น อาจจะทำให้ขนาดที่เพิ่มขึ้น บังหน้าจอเรามากขึ้น แต่บน iPhone 5 ด้วยหน้าจอที่ยาวขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานในแนวตั้งมากขึ้น ก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่า ไม่ได้บังหน้าจอเรามากจนเกินไป

อย่างไรก็ดี ปัญหาของคีย์บอร์ด 4 แถวภาษาไทย สำหรับผู้ใช้งานในไทยนั้น เท่าที่พบปัญหาในขณะนี้ก็คือ เรื่องของการใช้งานครับ เนื่องจากพิมพ์ไม่ถนัด เพราะเคยชินกับคีย์บอร์ดแบบเก่านั่นเอง ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยากครับ เพียงแค่หัดพิมพ์บ่อยๆ จนคล่อง แล้วจะรู้สึกว่า จริงๆ แล้วใช้งานได้ไม่ยากเลย เพราะการเรียง layout ของคีย์บอร์ด 4 แถวนี้ เหมือนกับคีย์บอร์ดบนโน้ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั่นเอง และที่สำคัญ สะดวกกว่าคีย์บอร์ดแบบเดิมๆ อีกด้วยครับ

การใช้งาน Personal Hotspot บน iPhone 5
 


 

หลายๆ ท่าน อาจจะยังมีความสงสัยว่า บน iPhone 5 และ iOS 6 นั้นยังคงสามารถใช้งาน Personal Hotspot หรือกระจายสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ ผ่านเครือข่าย ไวไฟ ให้เพื่อนใช้ได้หรือไม่ คำตอบคือ ยังสามารถทำได้ตามปกตินั่นเองครับ โดยเข้าไปเปิดการใช้งานได้ที่ Settings > Personal Hotspot แต่อย่าลืมว่า จะต้องเปิดการใช้งานเครือข่าย 3G บน iPhone ของเราด้วยนะครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ iOS 6 ได้ที่นี่ครับ



ความแตกต่างทางด้านดีไซน์ ระหว่าง iPhone 5 (ไอโฟน 5) และ iPhone 4S (ไอโฟน 4S)

 



สำหรับ iPhone 5 (ซ้าย) นั้นถือว่าบางกว่า iPhone 4S (ขวา) อยู่พอสมควร โดย iphone 5 (ไอโฟน5) บางกว่า iPhone 4S ถึง 18% เลยทีเดียว


 



ด้านบนของตัวเครื่อง จะแตกต่างกันในส่วนของ พอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟัง ที่ไม่ได้อยู่ด้านบนแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ ขอบรอบๆ ตัวเครื่องรุ่นสีดำ Black & Slate นั้น ไม่ได้เป็นสีเงินเหมือนรุ่นก่อนแล้วครับ แต่เป็นสี Slate สีเดียวกับด้านหลังนั่นเอง


 



ด้านข้าง ในส่วนของ ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ก็จะมีขนาดที่ต่างกัน เนื่องจากใน iPhone 4S นั้นใช้ micro-Sim แต่สำหรับ iPhone 5 นั้นจะเป็น Nano-Sim


 



สำหรับภาพนี้ น่าจะตอบคำถาม สำหรับหลายๆ คนได้นะครับว่า ขนาดของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เมื่อเทียบกับ iPhone 4S แล้วนั้น มีความยาวต่างกันเท่าไหร่ แม้จะไม่มาก แต่สังเกตได้อย่างชัดเจนว่า iphone 5 (ไอโฟน5) ตัวเครื่องยาวขึ้นครับ


 



ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ถือว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ เนื่องจาก มีการลดขนาดของ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อและชาร์จไฟ ให้เล็กลง และมีการย้ายช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง มาไว้ด้านล่างด้วย


 



และนี่คือภาพเปรียบเทียบ Dock Connector ของ iPhone 4S (ขวา) และ Lightning connector ของ iPhone 5 (ซ้าย) ซึ่งถือว่าขนาดนั้นต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว

มาเปรียบเทียบขนาดของซิมการ์ดกันบ้างครับ โดย iphone 5 (ไอโฟน 5) นั้น ใช้ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ซิมการ์ดแบบเดิม หรือ Micro-SIM card ถึง 40% เลยทีเดียว ซึ่งในขณะนี้ เครือข่ายในไทยที่ให้บริการ Nano-SIM card แล้ว ก็ได้แก่ Dtac, AIS และ TrueMove H

ผลการทดสอบ Benchmark iPhone 5 (ไอโฟน 5) และ iPhone 4S


 

หลังจากการทดสอบ Benchmark ด้วย Application Geekbench 2 ทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผล พบว่า iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นมีความเร็วมากกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่าเลยทีเดียวครับ ทั้งๆ ที่ยังคงเป็น หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core processor เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ บน iphone 5 (ไอโฟน5) นั้น ถือเป็นครั้งแรก ที่ทาง Apple ได้มีการ ออกแบบหน่วยประมวลผลเองอีกด้วย

ซึ่งการทดสอบ Benchmark ในครั้งนี้ ตรงตามที่ Apple ได้กล่าวไว้ในงานเปิดตัว iPhone 5 ว่า ชิปเซ็ท Apple A6 นั้น ประมวลผลเร็วกว่า ชิปเซ็ท Apple A5 ถึง 2 เท่าครับ
 

เปรียบเทียบสเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5), iPhone 4S และ iPhone 4

หลังจากที่ได้ทราบคุณสมบัติของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ทั้งในเรื่องของการออกแบบ ซีพียู กล้องถ่ายรูป ฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมกันแล้ว และเปรียบเทียบการออกแบบ ระหว่าง iPhone 5 (ไอโฟน5) และ iPhone 4S กันไปแล้ว คราวนี้ มาดูกันว่า iphone 5 (ไอโฟน 5) นั้น มีความพัฒนาไปจากรุ่นก่อนหน้า อย่าง iPhone 4S หรือ iPhone 4 มากน้อยแค่ไหน เปลี่ยนแปลงแบบ minor change หรือไม่ ลองมาดูกันที่เรื่องของสเปค ครับ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น จะขอเปรียบเทียบในรูปแบบของตาราง ดังนี้

เปรียบเทียบสเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) vs iPhone 4S vs iPhone 4
 
รุ่น
iPhone 5
iPhone 4S
iPhone 4
ขนาด
123.8 x 58.6 x 7.6 มม.
115.2 x 58.6 x 9.3 มม.
115.2 x 58.6 x 9.3 มม.
น้ำหนัก
112 กรัม
140 กรัม
137 กรัม
ขนาดหน้าจอ
4 นิ้ว
3.5 นิ้ว
3.5 นิ้ว
ความละเอียด
1136 x 640 พิกเซล
960 x 640 พิกเซล
960 x 640 พิกเซล
ความหนาแน่นพิกเซลต่อนิ้ว
326 ppi
326 ppi
326 ppi
เครือข่าย 2G
850/900/1800/1900 MHz
850/900/1800/1900 MHz
850/900/1800/1900 MHz
เครือข่าย 3G
850/900/1900/2100 MHz
850/900/1900/2100 MHz
850/900/1900/2100 MHz
เครือข่าย LTE
รองรับ
ไม่รองรับ
ไม่รองรับ
เครือข่าย CDMA
CDMA EV-DO Rev. A และ Rev. B
CDMA EV-DO Rev. A
CDMA EV-DO Rev. A (เฉพาะรุ่น CDMA)
Wi-Fi
802.11 a/b/g/n
ความถี่ 2.4 และ 5 GHz
802.11 a/b/g/n
ความถี่ 2.4 GHz
802.11 a/b/g/n
ความถี่ 2.4 GHz
Bluetooth
เวอร์ชั่น 4.0
เวอร์ชั่น 4.0
เวอร์ชั่น 2.1
ชิปเซ็ท
Apple A6
Apple A5
Apple A4
ซีพียู
Dual-core
Dual-core
Single-core
RAM
1 GB
512 MB DDR2
512 MB
หน่วยความจำภายใน
16, 32 หรือ 64 GB
16, 32 หรือ 64 GB
(ก่อนปรับ)
16 และ 32 GB
NFC
ไม่รองรับ
ไม่รองรับ
ไม่รองรับ
กล้องด้านหน้า
1.2 ล้านพิกเซล
VGA
VGA
กล้องด้านหลัง
8 ล้านพิกเซล
8 ล้านพิกเซล
5 ล้านพิกเซล
ไฟแฟลช
รองรับ
รองรับ
รองรับ
บันทึกภาพเคลื่อนไหว
1080p
1080p
720p
ซิมการ์ด
nano-SIM
micro-SIM
micro-SIM
GPS
A-GPS, Glonass
A-GPS, Glonass
A-GPS
Navigation
รองรับ เป็นแบบ Turn-by-turn navigation
รองรับ
รองรับ
แบตเตอรี่
รองรับการใช้งาน 8 ชม.
รองรับการใช้งาน 8 ชม.
รองรับการใช้งาน 7 ชม.

จากตารางนั้น จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปบน iphone5 (ไอโฟน5) ที่นอกเหนือจากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เป็นขนาด 4 นิ้ว และความละเอียดที่เพิ่มชึ้นในด้านยาว นั่นก็คือ 1136 x 640 พิกเซล แล้ว น้ำหนัก iphone 5 (ไอโฟน 5) ถือว่า เป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนครับ เพราะน้ำหนักเบาลงมากทีเดียว จับแล้วสังเกตความแตกต่างได้เลยทันที อีกทั้งตัวเครื่องที่บางลง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการพกพาได้ง่ายขึ้นครับ

ถัดมาเป็นเรื่องของซีพียู หรือระบบประมวลผลกันบ้าง จะเห็นได้ว่า ทั้ง iPhone 5 (ไอโฟน 5) และ iPhone 4S ต่างก็ใช้ซีพียูแบบ Dual-core Processor เหมือนกัน แต่เพราะชิปเซ็ทที่แตกต่างกัน ทำให้การประมวลผลของทั้ง 2 รุ่นนี้ มีความแตกต่างกันด้วย โดยชิปเซ็ท Apple A6 นั้น จะประมวลผลเร็วกว่าชิปเซ็ท Apple A5 ถึง 2 เท่าครับ ซึ่งในคลิปวิดีโอรีวิว iPhone 5 ท้ายบทความนั้น จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ได้ทำการทดสอบความเร็วในการเปิดเว็บเบราเซอร์ ไม่เพียงแค่ iphone5 (ไอโฟน 5) จะเปิดได้รวดเร็วกว่าแล้ว (เนื่องจากใช้ Wi-Fi ที่รองรับความถี่แบบ Dual-band 2.4GHz และ 5GHz ด้วยนั่นเอง) การโหลดหน้าเว็บเพจขณะเลื่อนขึ้นและลง บน iPhone 4S จะพบว่า มีช่วงข้อมูล lag เล็กน้อย ก่อนจะแสดงผล ในขณะที่ iphone 5 (ไอโฟน5) ไม่ว่าจะเลื่อนขึ้นลงเร็วแค่ไหน ก็ยังประมวลผลได้ทันต่อการใช้งานครับ

ถ้าเปรียบเทียบระดับความแตกต่าง ระหว่าง iPhone 4 > iPhone 4S กับ iPhone 4S > iPhone 5 จะพบว่า iPhone 4 > iPhone 4S พัฒนาด้านซอฟท์แวร์ครับ เช่น ซีพียู กล้อง ฟีเจอร์การใช้งานภายใน แต่บอดี้เหมือนเดิม ส่วน iPhone 4S > iPhone 5 นั้น พัฒนาเรื่องฮาร์ดแวร์มากกว่า เช่น หน้าจอใหญ่ขึ้น น้ำหนักตัวเครื่องเบาลง บางลง แต่ซอฟท์แวร์ยังคงคล้ายๆ เดิม

iPhone 5 กับปัญหาที่อาจจะพบขณะใช้งาน


 

เนื่องจาก หน้าจอของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นมีขนาดที่ยาวขึ้น และความละเอียดบนหน้าจอที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้แอพพลิเคชั่นเดิม ที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไข จะแสดงผลได้แบบ ไม่เต็มจอ โดยจะเหลือขอบ (Letterbox) ด้านบนและด้านล่างดังภาพ ซึ่งปัญหานี้ จะขึ้นอยู่กับ ทีมพัฒนา แอพพลิเคชั่นนั้นๆ ที่จะต้องอัพเดทให้ แอพพลิเคชั่นของตัวเองรองรับ iphone 5 ด้วยนั่นเอง ส่วนผู้ใช้อย่างเราๆ ถ้าหากเจอแอพพลิเคชั่นแบบไม่เต็มจอ ก็คงต้องรอเจ้าของแอพพลิเคชั่นนั้นๆ แก้ไขให้ครับ

อย่างไรก็ดี ปัญหานี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการใช้งานแต่อย่างใดครับ เพราะแอพพลิเคชั่นที่แสดงผลแบบไม่เต็มหน้าจอนี้ ยังคงใช้งานได้ตามปกติ เพียงแต่อาจจะขัดต่อสายตาผู้ใช้งานอยู่บ้างแค่นั้นเองครับ
 


 

หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สีลอกง่ายจริงหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ทีมงานได้ลองสัมผัสเครื่องดูแล้วก็พบว่า ทาง Apple ได้มีการเคลือบสีไว้เป็นอย่างดี แต่ด้วยการเคลือบสีนี่เอง ที่ทำให้เกิดโอกาส สีลอก เมื่อขูดกับโลหะ หรือวัสดุต่างๆ ได้ แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ระมัดระวังอยู่บ้าง ปัญหานี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้นครับ แต่ถ้าเกิดว่า กลัว หรือ ไม่สบายใจ การใส่เคส หรือติดฟิล์ม ก็ช่วยได้เยอะเลยล่ะครับ
 


 

อีกหนึ่งปัญหา ที่อาจจะพบได้ เมื่อทำการซื้อ นั่นก็คือ ปัญหาจอเหลือง (Yellow Tint) ซึ่งเกิดขึ้นบ่อย ทั้งในรุ่นนี้ และรุ่นก่อนหน้า ซึ่งอาการจอเหลืองเหล่านี้ โดยปกติ จะหายไป ในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และ ไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรงครับ โดย ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะกระบวนการผลิตหน้าจอแบบใหม่ ที่ยังไม่แห้งสนิทดี และสามารถแห้งได้เอง โดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

สำหรับท่านที่เพิ่งซื้อ iphone 5 มา แล้วเจอกับปัญหาหน้าจอเหลืองแบบนี้ ถ้าหากกลัวว่า การรอไป 1 สัปดาห์ จะไม่สามารถช่วยได้ เพื่อความสบายใจ แนะนำให้ไปเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ จะดีที่สุดครับ
 

ใช้ iPhone 4S อยู่แล้ว ควรจะเปลี่ยนไปใช้งาน iPhone 5 หรือไม่ ?

ปัญหาของผู้ใช้งาน iPhone ส่วนใหญ่ก็คือ ควรจะเปลี่ยนไปใช้ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ดีหรือไม่ iphone 5 (ไอโฟน 5) ดีกว่า iPhone 4S อย่างไร ใช้งานดีกว่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งคำถามเหล่านี้ เป็นคำถามที่ตอบได้ยากครับ เนื่องจากลักษณะการใช้งานของแต่ละท่าน มีความแตกต่างกัน ฉะนั้น การที่เราควรจะเปลี่ยนไปใช้ iphone5 (ไอโฟน5) ดีหรือไม่นั้น จะต้องดูว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากน้อยแค่ไหน

ถ้าหากท่านต้องการ iPhone หน้าจอใหญ่ขึ้น ซีพียูเร็วขึ้น หรือกล้องฟังก์ชั่นดีๆ ดีไซน์แปลกตา ถือว่า iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น ครอบคลุมอยู่ครับ แต่สำหรับท่านที่คิดว่า หน้าจอใหญ่ขึ้นนิดเดียว ซีพียูบน iPhone 4S ก็ใช้งานดีอยู่แล้ว หรือไม่ได้ใช้งานกล้องมากมาย ณ จุดนี้ยังถือว่า iphone 5 (ไอโฟน5) ยังไม่ตอบโจทย์ครับ สามารถใช้ iPhone 4S ได้เช่นเดิม และไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการใช้งานครับ นอกจากนี้ iPhone 4S ยังรองรับ iOS 6 ด้วย ฉะนั้น การทำงานบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) และ iPhone 4S จึงไม่แตกต่างกันมากนัก

แต่ถ้าหากถามว่า แล้ว iPhone 4 ล่ะ สมควรจะถึงเวลาเปลี่ยนเป็น iPhone 5 (ไอโฟน 5) แล้วหรือยัง? คำตอบของผม อยู่ตรงที่ ท่านสามารถรับฟังก์ชั่นการใช้งานบน iOS 6 บน iPhone 4 ได้มากน้อยเพียงใด เช่นเดียวกับ iPhone 3GS ครับ ที่สามารถอัพเดท iOS 6 ได้ แต่ไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นบางอย่างได้ แม้ว่า iOS 6 จะช่วยทำให้การประมวลผล เร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ผมเชื่อว่า หลายๆ ท่านคงรู้สึกไม่ชอบใจ ที่มีสิทธิ์ในการอัพเดท iOS 6 แล้ว แต่กลับไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นดีๆ ได้ เช่น Turn-by-turn navigation ที่ถือว่า เป็นระบบการนำทางที่หลายๆ ท่านอยากได้ ฉะนั้น ถ้าหากท่านใช้งาน iPhone 3GS หรือ iPhone 4 อยู่ มีกำลังทรัพย์เพียงพอ และอยากได้ iphone5(ไอโฟน5) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สมควรจะเปลี่ยนครับ

บทสรุปการใช้งาน iPhone 5

หลังจากที่ผมได้มีโอกาส สัมผัสกับ iPhone 5 (ไอโฟน 5) มาเป็นระยะเวลาหลายวัน ทั้งการใช้งานในด้านต่างๆ ซึ่งส่วนตัวแล้ว จึงขอสรุปเป็นข้อดี และข้อเสีย ตามความเห็นส่วนตัว ดังนี้

ข้อดี ของ iPhone 5

- การออกแบบ และดีไซน์ ที่ดูแข็งแรงทนทาน ใช้วัสดุคุณภาพดี อย่างที่หลายๆ ท่านได้เห็นครับว่า กรอบด้านหลังของ iPhone 5 นั้น มีการออกแบบที่เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมเยอะมากทีเดียว ซึ่งตอนที่เห็นในรูป หรืองานเปิดตัว iphone 5 นั้น ยังรู้สึกเฉยๆ ครับ แต่พอได้มาจับเครื่องจริง ดูคลาสสิคดีครับ โดยเฉพาะสีดำครับ
- แม้หน้าจอมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่ยังคงสามารถใช้งานได้ดีด้วยมือเดียว
- หน่วยประมวลผล และ หน่วยประมวลผลกราฟฟิค เร็วขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว ช่วยให้การประมวลผลเร็วมากขึ้นครับ จากการทดสอบทั้งการเปิดเครื่อง การเปิดเบราเซอร์ และอื่นๆ พบว่า iphone 5 (ไอโฟน 5) ประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่า iPhone 4S ครับ
- น้ำหนักของตัวเครื่อง เบาลง อย่างรู้สึกได้ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เรียกได้ว่า เป็นข้อดีของ iphone5 (ไอโฟน5) เลยก็ว่าได้ครับ แม้หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่น้ำหนักที่เบาลงมากกว่าเดิมเช่นนี้ ยิ่งช่วยทำให้สะดวกต่อการพกพามากขึ้นกว่าเดิม
- เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ในการถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายภาพนิ่งขณะถ่ายวิดีโอได้ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการ capture ภาพ พร้อมกับการถ่ายวิดีโอครับ
- ลำโพงสนทนาปรับปรุงใหม่ เป็นแบบ ตัดเสียงรบกวน ช่วยทำให้ใช้งานขณะสนทนาได้ดียิ่งขึ้น
- หน้าจอ iPhone 5 มีสีสันสดใส ชัดเจนกว่า iPhone 4S
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบใหม่ และสายชาร์ต Lightning connector ที่มีขนาดเล็กลง ทำให้พกพาได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้ง ยังสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ด้าน
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE แต่น่าเสียดายที่ในประเทศไทย ยังไม่มีเครือข่ายแบบ 4G LTE ให้ทดสอบ จึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่า ระหว่างการเชื่อมต่อแบบ 3G และ 4G ความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

ข้อเสีย ของ iPhone 5

- จากการทดสอบใช้งาน Apple Map ในประเทศไทย ยังไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่า Google Maps เดิม รายละเอียดของสถานที่น้อยกว่า หรือในบางครั้ง ไม่สามารถค้นหาสถานที่ที่ต้องการใน Apple Maps ได้ ในขณะที่เมื่อทดสอบผ่าน Google Maps กลับเจอข้อมูลตามปกติ นอกจากนี้ การค้นหาเส้นทาง และการนำทางในบางครั้ง แนะนำเส้นทางผิดด้วยครับ
- มีแอพพลิเคชั่นบน App Store อีกมาก ที่ยังไม่มีการอัพเดทให้รองรับ iPhone 5 จึงทำให้เกิดแสดงผลได้แบบไม่เต็มจอ (Letterbox)
- ถ้าหากมองในระยะยาว กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล อาจจะถือว่าน้อยเกินไป เพราะจากข่าวลือ iPhone 5 ที่ผ่านมา คาดหวังกันไว้ว่า กล้องบน iphone 5 นั้น น่าจะอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งการเปิดตัว iphone5 ด้วยความละเอียดกล้องเท่าเดิมนี้ เชื่อได้เลยครับว่า หลายๆ ท่านผิดหวังกันอย่างแน่นอน อีกทั้งตลาดสมาร์ทโฟน ระดับ High-end ในขณะนี้ ความละเอียดของกล้อง อยู่ที่ 12-13 ล้านพิกเซลกันแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Sony Xperia S หรือ LG Optimus G แต่คาดว่า iPhone รุ่นถัดไป ความละเอียดกล้อง น่าจะเกิน 8 ล้านพิกเซลรับ
- ตัวเครื่องอาจเป็นรอยได้ง่ายหากขูดกับ โลหะ หรือของแข็ง ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ได้สัมผัส iphone 5 ก็คือว่า จะต้องรีบไปแปะสติ๊กเกอร์กันรอย หรือหาเคสใส่ก่อนเลยครับ เพราะดูแล้ว เป็นรอยแบบขนแมว ได้ง่ายกว่า iPhone 4S ซึ่งเครื่องที่ทำการทดสอบนี้ เป็นเครื่องสีดำ ฉะนั้น รอยต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ชัดกว่าเครื่องสีขาว

ก่อนจบบทความ รีวิว iPhone 5 (iphone 5 review) จากความรู้สึกจริงที่ได้สัมผัส ต้องบอกว่า iPhone 5 (ไอโฟน 5) ตัวจริง สวยกว่าในรูปพอสมควรครับ ผมเชื่อว่า ทีมออกแบบ iphone เองก็คงคิดหนักไม่แพ้กันว่า จะทำอย่างไรให้ iphone 5 ดูแตกต่างจากมือถือทั่วไปรวมถึง iPhone 4s ซึ่งก็ต้องบอกว่า iPhone 5 ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น iDevice ได้ดี และดูแตกต่างจากเดิมแม้ว่าจะไม่ได้มากมายอะไรนัก สำหรับข้อแตกต่างที่รู้สึกได้ชัดและมีคนพูดถึงมากนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ในเรื่องของน้ำหนักของตัวเครื่องก็รู้สึกได้ว่าเบาลงมากเช่นกัน อันนี้คงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละท่านนะครับ ถึงแม้ว่า Feedback ส่วนใหญ่จะไปในทางที่ไม่ชอบมากกว่าชอบ แต่ก็ต้องถือว่าการพัฒนามือถือให้มีน้ำหนักเบาลงโดยมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการอย่างนึงเช่นกันครับ  สุดท้ายนี้ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นรายละเอียดต่างๆเป็นภาพเคลื่อนไหวรวมถึงประสิทธิภาพการทำงานต่างๆได้ดีขึ้น  ผมขอปิดท้ายการรีวิว iphone 5 ด้วยคลิปรีวิว iPhone 5 (ไอโฟน 5) จากทีมงาน techmoblog นะครับ สำหรับท่านผู้อ่านทุกท่าน หากต้องการทราบข้อมูลส่วนไหนเพิ่มเติม อย่าลืมเข้ามาแชร์ความคิดเห็นกันเยอะๆ นะครับทีมงานได้อ่าน Comment และพร้อมจะตอบคำถามทุกท่านเสมอครับ ขอบคุณครับ :)

 

 

 

---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com

 

 

 

บทความ และข่าวสาร iPhone 5 ที่เกี่ยวข้อง

- เผยยอดขาย iPhone 5 (ไอโฟน 5) 3 วันแรกแตะ 5 ล้านเครื่อง นักวิเคราะห์ชี้ ยังน้อยเกินไป
- พบปัญหาใหม่ iPhone 5 (ไอโฟน 5) หน้าจอเหลือง (Yellow Tint)
- ไม่นานเกินรอ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ถูก Jailbreak แล้ว
- อัพเดทข้อมูลและราคา iPhone5 เผยโฉมกล่อง iPhone5 พร้อมข้อมูล Spec และ ราคาเปิดตัว iPhone 5 ไอโฟน5 และวันที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในไทย
- พรีวิว ไอโฟน 5 (iPhone 5 preview) : บทความพรีวิว iphone5 แบบน้ำจิ้ม ก่อนจำหน่ายจริงในไทย
- เผยแพ็กเกจ iphone 5 เครื่องสีดำ เปลี่ยนใหม่ เป็นสีดำทั้งกล่อง
- iPhone 5 vs Nokia Lumia 920 : เปรียบเทียบสเปค iphone 5 และ Nokia Lumia 920
- Apple ประกาศยอดจอง iPhone 5 (ไอโฟน 5) วันแรก แตะที่ 2 ล้านเครื่อง
- มาแล้ว! ผลการทดสอบค่า Benchmark บน iphone5 เหนือกว่า Samsung Galaxy S III
- เหตุใด iphone5 (ไอโฟน 5) ถึงไม่มี NFC?
- เผยรายละเอียด Apple ออกแบบชิป Apple A6 บน ไอโฟน 5 (iPhone 5) เอง ส่วน RAM มีขนาด 1GB
- เผยต้นทุนผลิต iphone5 ประมาณ 5,000 เศษๆ เท่านั้น
- สาวก Apple แห่จอง ไอโฟน 5 (iPhone 5) หมดเกลี้ยงใน 1 ชั่วโมง ผลสำรวจชี้ ยอดจอง iphone5 แรงกว่า iPhone 4 และ iPhone 4S ถึง 20 เท่า

 

Update : 05/07/2017

Mobile Phone iPhone Apple iPhone 5 ไอโฟน 5 iPhone 5 iPhone 4





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy