หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

เปรียบเทียบสเปก iPad Pro (2018) รุ่นใหม่ vs iPad Pro (2017) แตกต่างกันแค่ไหน ? มีอะไรใหม่บ้าง ?

สำหรับ iPad Pro (2018) ที่ Apple ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า เป็นรุ่นที่ปรับดีไซน์แบบยกเซ็ตเลยก็ว่าได้ ทั้งหน้าจอแบบเต็มขอบ, ไม่มีปุ่ม Home, รองรับ Face ID หรือการสแกนใบหน้า แทนที่ Touch ID เดิม, อัปเกรดชิปเซ็ตใหม่ และดีไซน์ตัวเครื่องที่บางเฉียบกว่าเดิม โดยมีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอ ได้แก่ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ซึ่งถ้าหากนำ iPad Pro (2018) เปรียบเทียบกับรุ่นเก่า iPad Pro (2017) เมื่อปีที่แล้ว มาดูกันดีกว่าว่า สเปกแต่ละส่วนแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

 

ขนาดตัวเครื่องและน้ำหนัก

เมื่อเปรียบเทียบ iPad Pro (2018) กับรุ่นเก่าอย่าง iPad Pro (2017) รุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้ว จะเห็นว่า iPad Pro (2018) รุ่นใหม่ มีขนาดตัวเครื่องที่บางกว่าอยู่ที่ 5.9 มิลลิเมตร ซึ่ง iPad Pro รุ่นหน้าจอ 11 นิ้วนั้น มีขนาดตัวเครื่องที่ไม่แตกต่างจากรุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้วมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ ด้วยจอแบบชิดขอบ ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงผลเพิ่มขึ้นโดยที่ขนาดตัวเครื่องยังคงเท่าเดิมได้

 

ขนาดหน้าจอและความละเอียด

iPad Pro (2018) มาพร้อมกับจอภาพแบบ Liquid Retina แบบเดียวกับ iPhone XR ที่ทาง Apple เคยเคลมไว้ว่า ให้สีสันที่ดีที่สุดบนหน้าจอแบบ LCD ซึ่งรุ่นหน้าจอ 11 นิ้ว มีความละเอียดหน้าจอมากกว่ารุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงมีความหนาแน่นของพิกเซลเท่ากันที่ 264 ppi ส่วนเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ ไม่ต่างกัน

 

ชิปเซ็ต และการประมวลผล

iPad Pro (2018) ทั้งรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว และ 11 นิ้ว มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A12X Bionic พร้อม Neural Engine เวอร์ชันถัดไป ซึ่งประมวลผลได้เร็วกว่าชิป Apple A10X Fusion รุ่นที่ 4 บน iPad Pro (2017) รุ่น 10.5 นิ้วอย่างแน่นอน

โดยทั้ง iPad Pro (2018) และ iPad Pro (2017) ยังคงรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil แต่ต่างกันตรงที่ iPad Pro (2018) รองรับการใช้งานกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นแรกได้ และในทำนองเดียวกัน iPad Pro (2017) ก็ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2

 

กล้องถ่ายรูป

ปกติแล้ว iPad Pro ไม่ได้เน้นด้านการใช้งานถ่ายรูปเป็นหลัก ทำให้ฟีเจอร์ด้านกล้องไม่ค่อยหวือหวามากนัก โดยกล้องด้านหลังของทั้ง iPad Pro (2018) และ iPad Pro (2017) นั้น ยังคงมีความละเอียดเท่ากันที่ 12 ล้านพิกเซล และรูรับแสง F/1.8 แต่ต่างกันตรงที่ กล้องด้านหลังของ iPad Pro (2018) ไม่รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical แล้ว อีกทั้งยังใช้ชุดเลนส์แค่ 5 ชิ้นเท่านั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตัวเครื่องที่บางลง ทำให้ต้องตัดฟังก์ชันการทำงานบางอย่างออก แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาหลักสำหรับผู้ใช้ iPad Pro เนื่องจากไม่ได้เน้นด้านการใช้งานกล้องอยู่แล้ว

ส่วนกล้องด้านหน้า ยังคงมีความละเอียดเท่ากันที่ 7 ล้านพิกเซล แต่กล้องด้านหน้าของ iPad Pro (2018) ทั้ง 2 ขนาดนั้น มีการเพิ่ม Portrait Mode, Portrait Lighting, Animoji และ Memoji เข้ามา ซึ่งเป็นฟีเจอร์เดียวกับบน iPhone X และ iPhone XS

 

ระบบการยืนยันตัวตน

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือ iPad Pro (2018) ทั้ง 2 รุ่น เปลี่ยนมาใช้ระบบการปลดล็อกและยืนยันตัวตนแบบ Face ID หรือการสแกนใบหน้า และตัดการสแกนลายนิ้วมือหรือ Touch ID แบบเดิมออก

 

ราคา

การมาของ iPad Pro (2018) รุ่นใหม่ ทำให้ iPad Pro (2018) รุ่นเก่า มีการปรับราคาลง แต่ถ้าหากเปรียบเทียบราคาตอนเปิดตัวแล้ว พบว่า มีราคาเปิดตัวแพงขึ้น ซึ่ง iPad Pro (2017) รุ่น 10.5 นิ้ว มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 24,500 บาท (64 GB) เทียบกับรุ่น 11 นิ้ว ที่มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 28,900 บาท แตกต่างกันราว ๆ 4,000 บาทเลยทีเดียว

นอกเหนือจากราคาเปิดตัวที่สูงขึ้นแล้ว สิ่งที่หาไม่ได้บน iPad Pro รุ่นเก่า นั่นก็คือ ตัวเครื่องขนาดความจุ 1 TB แต่ Apple ได้ตัดตัวเลือกสีตัวเครื่องออก เหลือแค่ 2 สี นั่นก็คือ Silver และ Space Gray ต่างจากของเดิมที่มีให้เลือกกันถึง 4 สี

 

สรุปแล้ว iPad Pro (2018) รุ่นใหม่ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบครั้งใหญ่เมื่อเทียบกับ iPad Pro เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องของการอัปเกรดชิปเซ็ต ที่ก้าวกระโดดจาก A10X มาเป็น A12X รวมถึงการเปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C ที่ช่วยทำให้การถ่ายโอนข้อมูลไวขึ้น และ Apple Pencil 2 ที่รองรับการชาร์จแบบใหม่ด้วยการแปะติดกับตัวเครื่อง แทนที่การชาร์จผ่านพอร์ต Lightning แบบเดิม อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ตัวปากกาหล่นหายได้ นอกจากนี้ ดีไซน์ใหม่ของ iPad Pro (2018) ทำให้ตัวเครื่องสวยงามขึ้น และน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

 

 

-------------------------------------
ที่มา : apple.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 01/11/2018

iPad Pro 2018





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy