ผู้ก่อตั้ง Google ชี้ การพัฒนาแบบก้าวกระโดดของ AI อาจเป็นดาบสองคม และ Google ต้องรับผิดชอบในผลกระทบที่อาจตามมาด้วย

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Google ได้ทุ่มเทต่อยอดเทคโนโลยี neural networks และพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างสุดตัวมาพักใหญ่แล้ว และมีผลงานที่น่าประทับใจออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เช่น AlphaGO หรือ DeepMind ที่อ่านริมฝีปากได้ อย่างไรก็ตาม Sergey Brin หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Google ก็ยังตระหนักถึงผลกระทบที่ไม่ดีบางอย่างที่เป็นผลข้างเคียงจากการพัฒนา AI ด้วยเหมือนกัน

Sergey Brin ได้พูดถึงเรื่องนี้ในจดหมาย Founder’s Letter ของบริษัท Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ฉบับล่าสุด ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาสู่สาธารณะด้วย โดยมีใจความว่า ในช่วงที่ Google เพิ่งก่อตั้งใหม่ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน เทคโนโลยี neural networks เป็นเทคโนโลยีที่ใกล้จะถูกลืมเต็มทีเพราะผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ต่างถอดใจกันหมดแล้ว แต่ Google ก็ยังมองเห็นความเป็นไปได้ในเทคโนโลยีนี้ และค่อยๆ ศึกษาพัฒนามันขึ้นมาเรื่อยๆ จนบัดนี้มันสามารถทำอะไรต่างๆ ได้มากมาย และยังช่วยให้ Google ค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ ได้เร็วขึ้นด้วย

แต่ในอีกด้านหนึ่ง AI ที่เก่งกาจขึ้นก็สร้างผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบบอัตโนมัติที่ดีขึ้นอาจส่งผลกระทบต่ออัตราการจ้างงานในภาคส่วนต่างๆ, กระบวนการคิดของ AI อาจทำให้มันมีอคติในการประเมินคุณค่าของมนุษย์และสิ่งต่างๆ หรือในกรณี่ที่แย่ที่สุดมันอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ ด้วยเหตุนี้ Google จึงต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมาเหล่านี้ด้วย และถือว่าเป็นภารกิจสำคัญขององค์กร

นับว่ายังดีที่ Google ไม่ได้มุ่งพัฒนา AI อย่างเดียว แต่มองเห็นและพยายามแก้ไขกับผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเงาตามตัวของเทคโนโลยีนี้ด้วย แต่ในความเป็นจริงเราก็ต้องยอมรับว่า Google นั้นไม่ใช่องค์กรการกุศล การแสวงหากำไรอาจไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรม-จริยธรรมเสมอไป อย่างเมื่อปีที่แล้ว Google ก็ได้ร่วมมือกับ Pentagon (กระทรวงกลาโหม) ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ computer vision ให้กับโดรนของทางการ ทำให้พนักงาน Google หลายคนเขียนจดหมายประท้วงเพราะมองว่าเป็นการช่วยภาครัฐริดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพลเมือง เป็นต้น

-------------------------------------
ที่มา : Mashable, CNBC, Technologyreview
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 24/01/2019

google AI