หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] Samsung Galaxy Watch3 LTE สมาร์ทวอชโทรได้ รองรับฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด พร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายแบบครบครัน บนบอดี้กันน้ำ สวยแกร่งสไตล์สปอร์ต

นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน นั่นก็คือ Smart Watch หรือนาฬิกาอัจฉริยะนั่นเอง ซึ่งประโยชน์ของสมาร์ทวอช นอกเหนือจากการใส่เป็นเครื่องประดับ และใช้เก็บข้อมูลด้านการออกกำลังกายแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ด้านสุขภาพอีกมากมาย โดยสมาร์ทวอชที่ทีมงาน techmoblog.com จะนำมารีวิวกันในวันนี้ก็คือ Samsung Galaxy Watch3 LTE (45mm) ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์คลาสสิก บางและน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 15%

สำหรับ Samsung Galaxy Watch3 LTE ถือว่าเป็นสมาร์ทวอชรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของซัมซุง ณ ชั่วโมงนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม ด้วยหน้าปัดทรงกลม พร้อมขอบตัวเรือนหมุนได้ ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ สะดวกมากขึ้น ส่วนหน้าจอที่ใช้จะเป็นแบบ Super AMOLED มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 1.2 นิ้ว (41 มม.) และ 1.4 นิ้ว (45 มม.) พร้อมกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass DX และสายหนังแท้ เรียกได้ว่า เป็นทั้งนาฬิกาสายสุขภาพ และสายแฟชั่นได้ในเครื่องเดียว

ด้านการประมวลผลรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9110 แบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.15 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 8 GB ส่วนแบตเตอรี่มีขนาดอยู่ที่ 540 mAh เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน

ในส่วนของฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายนั้น ถือว่า จัดหนักจัดเต็มสมกับคำว่า สมาร์ทวอชระดับไฮเอนด์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตรวจจับความเครียด, ตรวจจับการนอนหลับ รวมถึงฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกายที่มีให้เลือกมากมาย พร้อมจัดเก็บข้อมูลการออกกำลังกายและสุขภาพทั้งหมดไว้บนแอปพลิเคชัน Samsung Health เรียกได้ว่า ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านการออกกำลังกายอย่างแท้จริง

มาดูกันดีกว่าว่า Samsung Galaxy Watch3 LTE (45mm) รุ่นนี้ จะมีดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ อะไรกันบ้าง

 

สเปก Samsung Galaxy Watch3 LTE

  • หน้าจอแสดงผลขนาด 1.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล
  • ชิปประมวลผล Exynos 9110 แบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.15 GHz
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 8 GB
  • เครือข่ายที่รองรับ
    • 4G LTE : B1(2100), B3(1800), B5(850), B7(2600), B8(900), B20(800), B28(700)
    • 3G : B1(2100), B5(850), B8(900)
    • Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4GHz
  • รองรับ Bluetooth 5.0
  • รองรับ NFC
  • รองรับ GPS, Glonass, Beidou, Galileo
  • เซ็นเซอร์ที่รองรับ ได้แก่ Accelerometer, Barometer, Gyro Sensor, Light Sensor, Optical Heart Rate Sensor
  • แบตเตอรี่ขนาด 540 mAh
  • กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน 5ATM/IP68 (ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที)
  • ระบบปฏิบัติการ Tizen OS
  • ขนาดตัวเรือน 46.2 x 45.0 x 11.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 53.8 กรัม (ไม่รวมสาย)

 

ดีไซน์และการออกแบบ

สำหรับ Samsung Galaxy Watch3 LTE ที่นำมารีวิวในวันนี้ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 1.4 นิ้วแบบ Super AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล และกระจกหน้าจอ Gorilla Glass DX ส่วนตัวเรือนทำจาก Stainless Steel สี Mystic Silver ขนาด 45 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะสำหรับข้อมือของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง (แต่ผู้หญิงก็สามารถใส่ได้) ส่วนใครที่ข้อมือเล็ก แนะนำว่าให้เลือกตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตรจะเหมาะมากกว่า

 

ถ้าหากมองกันที่ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Watch3 LTE แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทวอช แต่ยังคงความเป็นแฟชั่นที่สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส หน้าปัดเป็นทรงกลม ขอบวงแหวนสามารถหมุนเพื่อสั่งการได้ หรือจะสัมผัสที่หน้าจอก็ได้เช่นกัน ส่วนบอดี้ยังคงรองรับมาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่นที่ระดับ 5ATM/IP68 สามารถอยู่ในน้ำความลึกไม่เกิน 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งจะต้องเป็นน้ำสะอาด และไม่แนะนำให้ใส่ลงน้ำทะเล

 

สำหรับตัวเรือนฝั่งขวา จะเป็นปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม Home

 

ตัวเรือนฝั่งซ้าย เป็นลำโพงเสียงและไมโครโฟนสำหรับสนทนา

 

ส่วนด้านหลัง จะเป็นเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

 

สำหรับสายนาฬิกาของ Samsung Galaxy Watch3 LTE รุ่นนี้ เป็นสายหนังแท้สีดำตัดกับสีตัวเรือน ด้านหลังก็เป็นหนังที่เสริมความแข็งแรง ช่วยทำให้สีไม่ซีดจางลง ผิวสัมผัสมีความนุ่ม สวมใส่สบายและไม่รู้สึกบาดข้อมือหรือกระด้างขณะสวมใส่

 

ฟังก์ชันและการใช้งานเบื้องต้น

สำหรับการเชื่อมต่อ Samsung Galaxy Watch3 LTE กับสมาร์ทโฟนก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด ถ้าหากใช้มือถือ Samsung Galaxy อยู่แล้ว จะมีหน้าต่างแจ้งเตือนขึ้นมาเมื่อตรวจจับสมาร์ทวอชได้ ส่วนมือถือ Android รุ่นอื่นที่รองรับจะต้องอัปเดตเป็น Android 5.0 และมีหน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB ขึ้นไป นอกจากนี้ ยังรองรับการทำงานร่วมกับ iPhone 5 หรือรุ่นที่สูงกว่าที่อัปเดตเป็น iOS 9.0 ขึ้นไปด้วยเช่นกัน

 

โดย Samsung Galaxy Watch3 LTE จะรองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable (สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS) โดยจะแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของสมาร์ทวอชที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ ซึ่งจะปรากฏรูปหน้าปัดนาฬิกาที่กำลังใช้งานอยู่ในปัจจุบัน, ปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ รวมถึงจัดการการตั้งค่าต่าง ๆ บนนาฬิกา

 

หน้าปัดนาฬิกาของ Samsung Galaxy Watch3 LTE มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ แบ่งเป็น 8 หมวดหมู่ด้วยกัน ได้แก่ Classic, Minimalist, Trendy, Informative, Health, Wallpaper, Time-Focused และ Rings ซึ่งในแต่ละหมวดหมู่ ก็จะมีแบบย่อย ๆ ให้เลือกอีกมากมายตามสไตล์การใช้งาน

 

ส่วนเมนูค้นพบ จะเป็นการแนะนำหน้าปัดนาฬิกาแบบต่าง ๆ รวมแอปพลิเคชันนาฬิกายอดนิยม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกดาวน์โหลดและใช้งานเพิ่มเติมได้

 

มาดูอินเทอร์เฟสการใช้งานบน Samsung Galaxy Watch3 LTE กันบ้าง โดยการปัดลงจากด้านบน จะเป็นเมนูลัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โหมด Goodnight, ปรับความสว่างของหน้าจอ, โหมดห้ามรบกวน, ไฟฉาย และอื่น ๆ ซึ่งในส่วนนี้จะบอกปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ด้วยเช่นกัน

 

การปัดจากซ้ายไปขวา จะเป็นการแจ้งเตือนต่าง ๆ ทั้งข้อความ, การแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชัน, สายที่ไม่ได้รับ และอื่น ๆ

 

ในกรณีที่มีสายเรียกเข้า ก็จะมีการแจ้งเตือนบน Samsung Galaxy Watch3 ด้วยเช่นกัน ซึ่งความพิเศษของรุ่น LTE ที่รองรับ eSIM ในตัว ก็คือ สามารถกดโทรออกจากนาฬิกาได้เลยโดยไม่ต้องผ่านสมาร์ทโฟน

 

สำหรับแอปพลิเคชันบน Samsung Galaxy Watch3 LTE เบื้องต้นนั้นได้มีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อการใช้งานไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถเข้าไปจัดการแอปฯ, จัดลำดับ, ถอนการติดตั้ง หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable

 

สำหรับฟีเจอร์ด้านการออกกำลังและการบันทึกข้อมูลเชิงสุขภาพ ถือว่าเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญในแต่ละวัน, จำนวนก้าวเดิน, การขยับร่างกาย, การเคลื่อนไหว และอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถตั้งเป้าหมายต่อวันได้ว่า จะเดินทั้งหมดกี่ก้าว, เผาผลาญแคลอรี่ได้กี่แคล หรือออกกำลังกายวันละกี่นาที เพื่อเป็นการสร้างนิสัยให้ออกกำลังกายให้ได้ทุกวันนั่นเอง

นอกจากนี้ Samsung Galaxy Watch3 LTE ยังรองรับฟีเจอร์ต่าง ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • ฟีเจอร์ Blood Oxygen ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือด
  • ฟีเจอร์ ECG ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (รอการอนุมัติ)
  • บันทึกข้อมูลการนอนหลับของผู้ใช้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ เพื่อให้สามารถประเมินและปรับปรุงการนอนให้เหมาะสมกับสุขภาพร่างกายของตนเอง
  • วัดระดับความเครียด
  • วัดระดับการเต้นของหัวใจ
  • ฟีเจอร์ฝึกการหายใจเข้า-ออก เพื่อช่วยลดความเครียด
  • ฟีเจอร์สุขภาพผู้หญิง ติดตามรอบประจำเดือนสำหรับสุภาพสตรี
  • รองรับการใช้งาน Bixby
  • สามารถควบคุม PowerPoint ด้วยการใช้หน้าจอของ Samsung Galaxy Watch3 ได้

 

นอกเหนือจากแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable แล้ว อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่ใช้ไปควบคู่กับ Samsung Galaxy Watch3 LTE นั่นก็คือ Samsung Health ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมสถิติการออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ จากสมาร์ทวอช จะถูกเก็บบันทึกไว้ในแอปพลิเคชันนี้

โดยบริการต่าง ๆ ของแอปฯ Samsung Health นั้น ถือว่ามีให้เลือกใช้มากมาย ที่แนะนำก็คือ โปรแกรมสุขภาพ ซึ่งจะรวบรวมโปรแกรมการออกกำลังกาย พร้อมท่าทางและคำแนะนำต่าง ๆ โดยมีให้เลือกมากกว่า 120 โปรแกรม ส่วนบ้านใครที่มี Smart TV ก็สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับสมาร์ททีวี แล้วเลือกชมคลิปผ่านหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ได้เลย เรียกได้ว่า สะดวกมากเลยทีเดียว

 

สรุปการใช้งาน

จากการทดสอบใช้งานในเบื้องต้น คงจะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy Watch3 LTE เป็นสมาร์ทวอชที่มีคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานครบเครื่องมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง นอกเหนือจากฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกายและสุขภาพที่มีมาให้อย่างครบครันแล้ว สำหรับรุ่น LTE ถือว่า การใช้งานในบางฟังก์ชันสามารถแทนสมาร์ทโฟนได้เลย ไม่ว่าจะเป็น การโทรออก, รับสาย หรือการตอบกลับข้อความต่าง ๆ ก็สามารถทำได้จากตัวสมาร์ทวอช

ส่วนดีไซน์ถือว่า เป็นได้ทั้งนาฬิกาสไตล์สปอร์ต และนาฬิกาสไตล์แฟชั่น พร้อมหน้าปัดที่มีให้เลือกมากกว่า 100 แบบ รวมถึงคุณสมบัติด้านการกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน 5ATM/IP68 สามารถใส่ว่ายน้ำได้ หรือใส่อาบน้ำได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดออก ซึ่งการใช้งานร่วมกับน้ำ แนะนำว่าควรจะเป็นน้ำสะอาดและน้ำจืดเท่านั้น ไม่ควรใส่ Samsung Galaxy Watch3 LTE ลงน้ำทะเลโดยเด็ดขาด

 

สรุปราคา Samsung Galaxy Watch3 ในไทย

  • Samsung Galaxy Watch3 (41 มม.)
    • รุ่น Bluetooth ราคา 12,900 บาท
    • รุ่น LTE ราคา 15,900 บาท
    • มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mystic Bronze, Mystic Silver
  • Samsung Galaxy Watch3 (45 มม.)
    • รุ่น LTE ราคา 16,900 บาท
    • มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mystic Black, Mystic Silver
  • Samsung Galaxy Watch3 รุ่นพิเศษ Titanium Bluetooth (45 มม.) ราคา 21,900 บาท มีสีเดียวคือ Mystic Black

 

นอกจากนี้ ทางซัมซุง ประเทศไทย ยังมีโปรโมชั่นรับส่วนลด 2,000 บาท เมื่อซื้อ Samsung Galaxy Watch3 เมื่อแสดง Smart Watch รุ่นเก่า (เฉพาะที่ Samsung Experience Shop และร้านค้าที่ร่วมรายการ) หรือเมื่อซื้อ Samsung Galaxy Watch3 และกดโค้ดรับสิทธิ์ผ่าน Galaxy Gift รับฟรี E-Voucher by Central Group (Supersports) มูลค่า 2,000 บาท (เฉพาะที่ Samsung Experience Shop และ samsung.com) โดยทั้ง 2 โปรโมชั่น หมดเขตวันที่ 31 มีนาคม 2564

 

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 28/04/2021

Samsung Galaxy Watch3





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy