[รีวิว] Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen แท็บเล็ตโทรได้รุ่นอัปเกรด มาพร้อมจอ 8 นิ้ว, ชิป Exynos 7904, RAM 3 GB พร้อมปากกา S Pen ในตัว จดสนุก ในราคาเบา ๆ เพียง 10,990 บาท

นับตั้งแต่การเปิดตัวของ Samsung Galaxy Tab A 8.0 with S Pen รุ่นแรกเมื่อปี 2015 ดูเหมือนว่า ทาง Samsung จะห่างหายจากการเปิดตัวรุ่นสานต่อไปนานถึง 4 ปีเศษ ก่อนจะเปิดตัวรุ่นใหม่ในชื่อเดิม นั่นก็คือ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen ซึ่งรุ่นนี้ ถือว่าเป็นรุ่นที่สองในซีรี่ส์ Galaxy Tab A 8.0 with S Pen ที่นอกจากจะมาพร้อมกับสเปกใหม่ แรงขึ้นกว่าเดิม รวมถึงปากกา S Pen ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ มากมายแล้ว ยังพลิกโฉมดีไซน์จากรุ่นก่อนหน้าอย่างมากเลยทีเดียว และที่สำคัญ แท็บเล็ตรุ่นนี้ยังสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้อีกด้วย

สำหรับ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen นั้น เรียกได้ว่า มาพร้อมกับดีไซน์ตามสมัยนิยม เพราะนอกจากจะมาพร้อมกับขอบจอที่บางลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว ยังได้ตัดปุ่ม Home แบบเดิมออก แล้วแทนที่ด้วยปุ่มแบบสัมผัสบนหน้าจอแทน โดยรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 8.0 นิ้วเท่ากับรุ่นเดิม แต่หน้าจอละเอียดขึ้นอยู่ที่ 1920 x 1200 พิกเซล ในอัตราส่วน 16:10 พร้อมชิปเซ็ต Exynos 7904 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB และแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh รองรับการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 11 ชั่วโมง

ด้านปากกา S Pen ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของแท็บเล็ตรุ่นนี้นั้น มีดีไซน์เหมือนกับปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Note 9 โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 2.8 กรัม พร้อมปลายปากกาขนาด 0.7 มม.​ อีกทั้งยังรองรับฟังก์ชันเพื่อการขีดเขียนแบบเดียวกับ Samsung Galaxy Note 9 อย่าง Air Command ที่มีเมนูการใช้งานที่ผู้ใช้คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ตัวปากกายังรองรับมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 อีกด้วย

สำหรับกล้องถ่ายรูป ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่จุดขายหลักของรุ่นนี้ แต่ก็ถือว่าได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าก่อน ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Live Focus สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Live Focus, โหมด Pro, โหมด Panorama รวมถึงโหมดสติกเกอร์ สร้างลูกเล่นให้กับภาพถ่าย นอกจากนี้ ยังรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลังอีกด้วย

มาดูกันดีกว่าว่า แท็บเล็ตโทรได้รุ่นอัปเกรดนี้ จะครอบคลุมการใช้งานต่าง ๆ ได้มากน้อยแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen โดยทีมงาน techmoblog.com

 

 

• หน้าจอแสดงผลกว้าง 8.0 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล (283 ppi), อัตราส่วน 16:10
• ชิปเซ็ต Exynos 7904 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G71 MP2 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh
• รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
• มีปากกา S Pen ในตัว
• สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และอินเทอร์เฟส One UI

>> สเปก Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen อย่างละเอียด คลิกที่นี่

 

Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen เป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 8.0 นิ้ว แบบ TFT LCD ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ในอัตราส่วน 16:10 โดยมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ ทั้งการตัดปุ่ม Home ด้านล่าง รวมถึงโลโก้ Samsung ที่ด้านบนออก แต่ไม่ใช่ดีไซน์แบบ Infinity Display เหมือนกับมือถือ Samsung เนื่องจากต้องเหลือขอบด้านข้างไว้สำหรับจับถือตัวเครื่องนั่นเอง

โดย Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 201.5 x 122.4 x 8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 325 กรัม ซึ่งถือว่า เป็นขนาดของแท็บเล็ตที่พกพาได้อย่างสะดวก

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล เป็นปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส (On-Screen) ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นช่องใส่ซิมการ์ดและ microSD Card ซึ่ง Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen รองรับซิมการ์ดแบบ nanoSIM (ซิมเดียว) และสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ ส่วน microSD Card รองรับสูงสุดที่ 512 GB

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ต USB Type-C และช่องเสียบปากกา S Pen

สำหรับปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen นั้น มีดีไซน์เหมือนกับปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Note 9 แต่ต่างกันตรงที่ตัวปากกาไม่ได้รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 2.8 กรัม ส่วนปลายปากกามีขนาดอยู่ที่ 0.7 มิลลิเมตร อีกทั้งยังรองรับการกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกด้วย

สำหรับ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen รุ่นที่นำมารีวิวในวันนี้ เป็นตัวเครื่องสีเทา ซึ่งบอดี้ด้านหลังตัวเครื่อง เป็นพลาสติกผิวด้าน เรียบ ลื่น ส่วนกล้องด้านหลัง เป็นกล้องตัวเดียว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (ไม่มีไฟแฟลช)

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย หูฟัง, สาย USB, Adapter สำหรับชาร์จไฟ, ปลายปากกา S Pen มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีเทา, เข็มสำหรับจิ้มซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน

 

Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และอินเทอร์เฟส One UI เวอร์ชัน 1.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันเดียวกับมือถือ Samsung รุ่นเรือธงนั่นเอง โดยรองรับการแสดงผลทั้งแนวตั้งและแนวนอน

สำหรับฟังก์ชันการแจ้งเตือน สามารถเข้าสู่เมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานในเบื้องต้นได้ ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, ล็อกการหมุนของหน้าจอ, ปรับความสว่างของหน้าจอ, Airplane Mode และอื่น ๆ

การปัดจากซ้ายไปขวา จะเป็นการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Bixby Home เวอร์ชัน 3.0 ด้านในจะประกอบด้วยคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ รวมถึงข้อมูลและกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้จะถูกรวมมาไว้ในหน้าเดียว

สามารถเลือกเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, Widget รวมถึงย้ายไอคอนแอปฯ ต่าง ๆ ได้ตามรูปแบบการใช้งาน

การปัดขึ้นจากหน้า Home จะเข้าสู่ App Drawer รวมแอปพลิเคชันที่มีทั้งหมดในตัวเครื่อง เบื้องต้นนั้นมีแอปพลิเคชันพื้นฐานของทาง Samsung, Google และ Microsoft ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว

การกดค้างที่ไอคอนแอปฯ จะพบกับเมนูลัดต่าง ๆ ทำให้เข้าถึงแอปฯ นั้น ๆ ได้รวดเร็วขึ้น

Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen เป็นแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ และรองรับซิมการ์ดเดียว โดยสามารถแนบหูกับตัวเครื่องเพื่อทำการสนทนาได้เลย แต่แนะนำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่าง หูฟัง Bluetooth จะสะดวกต่อการใช้งานมากกว่า

รองรับโหมดกลางคืน กับการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีทึบ สำหรับการใช้งานในที่แสงน้อยให้สบายตามากขึ้น

ด้านปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส สามารถเลือกสลับตำแหน่งของปุ่ม Recent Apps กับปุ่ม Back ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นการควบคุมการทำงานแบบใช้ท่าทางก็ได้เช่นกัน

ในด้านความปลอดภัยและการปลดล็อกตัวเครื่องนั้น รองรับการสแกนใบหน้า (Face Recognition) ซึ่งจากการทดสอบ ใช้เวลาในการปลดล็อกเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ ซึ่งสามารถปรับการตั้งค่าได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่, พื้นที่จัดเก็บในภายตัวเครื่อง, เคลียร์ RAM, สถานะความปลอดภัย และควบคุมปริมาณการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย

SmartThings คือแอปพลิเคชันจัดการอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านแบบอัจฉริยะ และควบคุมการใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งนอกจากจะรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ Samsung แล้ว ยังรองรับแบรนด์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

Samsung Flow คือแอปพลิเคชันสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟน รองรับการทำงานได้หลากหลาย 

มาดูฟังก์ชันการใช้งานสำหรับปากกา S Pen กับฟีเจอร์​ Air Command ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Galaxy Note ส่วนใหญ่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว อย่างเช่น สร้างบันทึก (Create Note), ดูบันทึกทั้งหมด (View All Notes), การเลือกอัจฉริยะ (Smart Select), การเขียนบนหน้าจอ (Screen Write), Live Message หรือ PENUP เป็นต้น โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มเมนูลัดที่ใช้งานบ่อยได้ตามการใช้งาน

สำหรับการสร้างบันทึกใหม่นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแต่กดปุ่มที่ตัวปากกา แล้วเลือก สร้างบันทึก (Create Note) ก็สามารถขีดเขียนข้อความที่ต้องการบันทึกได้แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกรูปแบบของปากกา, ลายเส้น และสีของปากกาได้อีกด้วย

ฟีเจอร์ Live Message นั้น เป็นฟีเจอร์สำหรับวาดภาพ, เขียนตัวอักษร หรือเขียนข้อความบนภาพถ่าย แล้วบันทึกภาพเป็นไฟล์ GIF เพื่อส่งต่อให้เพื่อนได้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ อาจนำไปประยุกต์ใช้สำหรับอธิบายงาน หรือโปรเจ็คต่าง ๆ ให้ผู้รับได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นกว่าการอธิบายผ่านตัวอักษรหรือพูดปากเปล่า

ส่วน PENUP เป็นแอปพลิเคชันสำหรับสร้างงานศิลปะ ซึ่งด้านในจะมีตัวเลือกให้ใช้งาน เช่น การลงสี โดยจะมีภาพสำเร็จรูปมาให้ และเลือกลงสีได้ตามใจ ส่วนอีกอันก็คือ การวาดภาพสด ซึ่งเป็นแอปฯ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่วาดรูปไม่เก่ง หรือเพิ่งหัดวาดรูป โดยจะมีลักษณะคล้ายกับกระดาษลอกลายให้ผู้ใช้สามารถวาดตามรูปที่มีอยู่แล้วได้ ซึ่งจะเป็นคลิปวิดีโอสอนการวาดภาพตาม step ซึ่งผู้ใช้สามารถกด pause เพื่อหยุดชั่วคราวและวาดตามได้เช่นกัน

ในด้านความบันเทิงนั้น ถือว่า แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen รุ่นนี้ ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล จึงรับชมได้อย่างเต็มตาและคมชัด

แม้ว่า Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7904 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz แม้จะเป็นชิปเซ็ตสเปกระดับกลาง แต่รองรับการเล่นเกมยอดนิยมอย่าง ROV และ PUBG Mobile ได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งดีไซน์ตัวเครื่องที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป จึงจับถือเพื่อเล่นเกมได้อย่างสะดวก

มาทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen กันบ้าง ซึ่งการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทำได้ 1,323 คะแนน และ 4,106 คะแนน สำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ Multi-Core ตามลำดับ ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 94,714 คะแนน

 

สำหรับกล้องด้านหน้าของ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีโหมดถ่ายภาพให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Live Focus (หน้าชัดหลังเบลอ), รูปถ่าย และวิดีโอ ซึ่งกล้องด้านหน้าของแท็บเล็ตรุ่นนี้ รองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p อีกด้วย

โดยโหมดภาพถ่าย รองรับฟีเจอร์ Beauty ที่สามารถปรับความเนียนของผิวได้สูงสุด 3 ระดับ และสามารถใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้มากถึง 13 แบบด้วย ส่วนโหมด Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั้น ปรับความเบลอของฉากหลังได้สูงสุดที่ 7 ระดับ นอกจากนี้ ยังรองรับโหมดสติกเกอร์ เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย

สำหรับกล้องด้านหลัง เป็นกล้องตัวเดียว ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล มีโหมดถ่ายภาพให้เลือก 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Panorama, Pro, Live Focus, รูปถ่าย และวิดีโอ โดยในโหมดรูปถ่าย สามารถเลือกมุมมองการถ่ายภาพได้ 2 แบบ นั่นก็คือ โหมดปกติ (ไอคอนต้นไม้ 2 ต้น) และโหมดซูม 2 เท่า (ไอคอนต้นไม้ 2 ต้น) นอกจากนี้ ยังมีโหมด Scene Optimizer กับการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยประมวลผล และปรับแสงสีของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุนั้นอีกด้วย

สามารถใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้เช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า

ด้านโหมด Pro สามารถปรับการตั้งค่าได้ทั้งหมด 3 ส่วน นั่นก็คือ ISO, White Balance และการชดเชยแสง

ส่วนการตั้งค่ากล้อง สามารถเลือกตั้งค่าได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดปิดโหมด Scene Optimizer, เลือกขนาดของวิดีโอทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง, HDR, จุดตัดเก้าช่อง และอื่น ๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Beauty ปรับความเนียนของผิวระดับ 1

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Beauty ปรับความเนียนของผิวระดับ 3

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Live Focus ปรับความเบลอของฉากหลังที่ระดับ 7

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดสติกเกอร์

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดสติกเกอร์

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง ซูม 2 เท่า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง ซูม 2 เท่า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ

 

เรียกได้ว่า การกลับมาของ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen ในปีนี้ ถือว่าคุ้มค่าสมการรอคอยไม่น้อย เพราะนอกจากจะตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงคุณสมบัติด้านการขีดเขียนที่ถือว่า เป็นจุดขายหลัก ๆ ของรุ่นนี้แล้ว ยังอัปเกรดทั้งดีไซน์และสเปกแบบใหม่หมดจด แถมยังสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยากนัก

โดย Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว แบบ TFT LCD ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ในอัตราส่วน 16:10 ซึ่งถือว่า เป็นขนาดที่กำลังพอดีมือ และพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบาย ด้านชิปเซ็ตและการประมวลผลนั้น มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7904 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G71 MP2, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB, แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) พร้อมอินเทอร์เฟส One UI ซึ่งจากการทดสอบใช้งานในเบื้องต้นนั้น พบว่า รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการเล่นเกม และมัลติมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen ยังมีปากกา S Pen พร้อมช่องเก็บปากกาในตัว ซึ่งตัวปากกามีน้ำหนักเบาเพียง 2.8 กรัม และรองรับการกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกทั้งยังรองรับฟังก์ชัน Air Command ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ผู้ใช้คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น สร้างบันทึก (Create Note), ดูบันทึกทั้งหมด (View All Notes), การเลือกอัจฉริยะ (Smart Select), การเขียนบนหน้าจอ (Screen Write), Live Message หรือ PENUP เป็นต้น

สำหรับคุณสมบัติในด้านอื่น ๆ บน Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen ก็ได้แก่ รองรับการใช้งานแบบแนวนอน, รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition), รองรับ Bixby Home เวอร์ชัน 3.0, รองรับโหมดกลางคืน ทำให้ใช้งานในที่แสงน้อยได้สบายตามากขึ้น และรองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE และเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่ในไทยอีกด้วย

โดย Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen เคาะราคาค่าตัวอยู่ที่ 10,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทา สามารถทดสอบใช้งานได้ด้วยตนเองที่ Samsung Brand Shop และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen

• สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้
• หน้าจอแสดงผลกว้าง 8.0 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล (283 ppi), อัตราส่วน 16:10
• ชิปเซ็ต Exynos 7904 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G71 MP2 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/2.2)
  • โหมด Live Focus สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ปรับความเบลอได้สูงสุด 7 ระดับ
  • โหมด Beauty ปรับความเนียนของผิวได้สูงสุด 3 ระดับ
  • รองรับโหมดสติกเกอร์
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.0)
  • โหมด Live Focus สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ปรับความเบลอได้สูงสุด 7 ระดับ
  • โหมด Beauty ปรับความเนียนของผิวได้สูงสุด 3 ระดับ
  • รองรับโหมดสติกเกอร์
  • โหมด Pro เลือกตั้งค่าได้ 3 ส่วน (ISO, White Balance, การชดเชยแสง)
  • โหมด Scene Optimizer ใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยประมวลผล และปรับแสงสีของภาพให้เหมาะสม
• รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง
• รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
• รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0
• มีปากกา S Pen ในตัว พร้อมฟังก์ชัน Air Command
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS, รองรับ GLONASS ระบบดาวเทียมของรัสเซีย, Beidou ระบบดาวเทียมของจีน และ GALILEO ระบบดาวเทียมของสหภาพยุโรป
• แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และอินเทอร์เฟส One UI

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• หน้าจอแสดงผลยังเป็นแบบ TFT LCD
• กล้องด้านหลัง ไม่มีไฟแฟลช
• ไม่มีแอปพลิเคชันไฟฉาย (Flash) ให้ใช้งาน เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีไฟแฟลช
• ไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
• ไม่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติด้านการกันน้ำและกันฝุ่น
• ไม่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว

 

ข้อควรทราบ : เครื่อง Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง

 

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 19/08/2019

Samsung Galaxy Tab A 8.0 (2019) with S Pen