เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Note 8 vs Galaxy Note FE (Fan Edition) ต่างกันอย่างไร มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

หลายท่านน่าจะได้ทราบข่าวการเปิดตัวของ Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดที่เผยโฉมไปเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย Samsung Galaxy Note 8 มาพร้อมกับฟีเจอร์ชูโรงอย่างหน้าจอไร้กรอบขนาดใหญ่เต็มตา พร้อมระบบกล้องคู่ Dual-Camera เทียบชั้นกับคู่แข่งรายอื่นๆ นอกจากนี้ ยังได้ยกเครื่องคุณสมบัติเด่นให้ก้าวล้ำกว่ารุ่น Galaxy Note FE (Fan Edition) ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา

และภายในวันนี้ทางทีมงาน Techmoblog จึงขอนำ Samsung Galaxy Note 8 มาเปรียบเทียบกับ Galaxy Note FE เพื่อให้เห็นว่าสมาร์ท์โฟนเรือธงรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Note ได้รับการเปลี่ยนแปลงในด้านใดบ้าง และคุ้มค่าต่อการอัปเกรดมาใช้งานหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ

หากเปรียบเทียบดีไซน์ภายนอกของ Samsung Galaxy Note 8 ถือว่าได้รับการพลิกโฉมครั้งใหญ่ ด้วยดีไซน์หน้าจอแบบไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนต์ได้แบบเต็มตาเต็มอารมณ์ยิ่งกว่ารุ่นก่อน โดย Galaxy Note 8 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD+ ส่วน Galaxy Note FE มาพร้อมกับจอเล็กกว่าที่ 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD แต่ขนาดตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นบน Galaxy Note 8 เป็นเพราะได้ลดพื้นที่ขอบบน และขอบล่างให้เหลือน้อยกว่าเดิมนั่นเอง

ส่วนคุณสมบัติด้านการประมวลผล Samsung Galaxy Note 8 จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วกว่า เนื่องจากมาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่อย่าง Exynos 8895 พร้อมหน่วยความจำ RAM ถึง 6GB ในขณะที่ Galaxy Note FE นั้น มาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นปีที่แล้วในขื่อ Exynos 8890 พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB เท่านั้น

ด้านการถ่ายภาพถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์หนึ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ เนื่องจาก Samsung Galaxy Note 8 ได้หันไปใช้งานระบบกล้องคู่ Dual-Camera ความละเอียด 12 + 12 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Wide-Angle และเลนส์ Telephoto สำหรับเก็บภาพมุมกว้าง และการซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียด นอกจากนี้ กล้องคู่ของ Galaxy Note 8 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ และฟีเจอร์การเก็บภาพมุมมองกว้าง และมุมแคบภายในครั้งเดียวด้วย ส่วน Galaxy Note FE เลือกใช้งานกล้องเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่มีความละเอียดเท่ากันที่ 12 ล้านพิกเซล

ทางด้านปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Note 8 ในปีนี้ ยังคงมีคุณสมบัติเด่นคล้ายกับรุ่น Galaxy Note FE ไม่ว่าจะเป็น การรองรับแรงกดที่ 4096 ระดับ หรือคุณสมบัติกันน้ำ IP68 ที่สามารถนำปากกาไปเขียนใต้น้ำได้ แต่ Galaxy Note 8 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้แก่ปากกา S Pen เช่น ฟังก์ชัน Translate ที่ได้รับการอัปเกรดขึ้น แปลเป็นประโยคได้แล้ว, Live Message, สำหรับใช้ปากกาวาดไฟล์ Gif เพื่อส่งให้เพื่อนดูได้ รวมทั้งยังสามารถใช้ปากกา S Pen เพื่อควบคุมการทำงานของผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby ได้อีกด้วย

ส่วนคุณสมบัติด้านอื่น Samsung Galaxy Note 8 ไม่แตกต่างกับ Galaxy Note FE มากนัก ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์สแกนม่านตา, ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby, คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 กันน้ำลึกได้ 1.5 เมตร นานสุด 30 นาที รวมถึงการทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ตั้งแต่แกะกล่อง

ในขณะนี้ ยังไม่มีการประกาศราคาของ Samsung Galaxy Note 8 ให้ทราบอย่างเป็นทางการ แต่มีราคาอย่างไม่เป็นทางการออกมาว่า อาจมีราคาอยู่ที่ 930 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,000 บาท Galaxy Note FE เปิดราคาเอาไว้ที่ 699,600 วอน หรือประมาณ 20,700 บาท ซึ่งหากพิจารณาดูแล้ว จะเห็นได้ว่า Galaxy Note 8 มีการปรับราคาสูงกว่ารุ่นก่อน แต่หากพิจารณาจากการได้กล้องคู่, จอไร้กรอบขนาดใหญ่กว่าเดิม และปากกา S Pen ที่ได้รับการอัปเกรด ก็ถือว่าคุ้มค่าต่อการอัปเกรดเลยทีเดียว

---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com

Update : 31/03/2018

Samsung Galaxy Note 8 IT Samsung Galaxy Note FE