หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

เจาะข่าว Samsung ถูกแบนที่รัสเซียเพราะคุณภาพต่ำจริงรึเปล่า ?

ก่อนอื่นขอท้าวความไปถึงที่มาของการเขียนบทความนี้ก่อนนะครับ พอดีผมได้ไปอ่านบทความของนักเขียนท่านนึงที่เขียนประมาณว่าข่าวนี้เมืองไทยคงไม่สามารถลงได้ เลยรู้สึกอยากเอาข่าวนี้มาวิเคราะห์ให้ผู้อ่านลองพิจารณากันว่าข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ข่าวดังที่กระทบกับซัมซุงจริงหรือไม่ และเว็บไอทีไม่กล้าลงจริงรึเปล่า   ข่าวนี้เริ่มจากมีคนพูดถึงข่าว Samsung ถูกแบนจากประเทศรัสเซียเพราะสินค้าคุณภาพต่ำ โดยใช้คำว่ารัสเซียแบนทั้งแผ่นดิน ผมสรุปข่าวสั้นๆให้อ่านกันง่ายๆ นั่นคือ ผู้ให้บริการเครือข่ายและ retailer (บางเจ้า) ของรัสเซียประกาศแบนสินค้าของ ซัมซุง โดยให้เหตุผลว่า สินค้าซัมซุงมีสินค้าชำรุดเยอะประมาณ 7% (rejection rate exceeds 7%) มากกว่าของแบรนด์อื่นที่นำมาขายและไม่สามารถตกลงในเรื่องความรับผิดชอบต่อสินค้าที่ชำรุดกับทางซัมซุงได้จึงจะไม่รับสินค้าของซัมซุงมาขายอีก (บทความข้างต้นใช้คำว่า ซัมซุงไม่รับผิดชอบเรื่องการซ่อม ซึ่งผมคิดว่าน่าจะแปลได้ไม่ถูกต้องนัก) ตามลิงค์ข่าวนี้ https://www.bloomberg.com/news/articles/2015-07-30/russia-s-main-handset-retailers-stop-buying-samsung-smartphones

เราลองมาวิเคราะห์ข่าวนี้กันนะครับ เมื่ออ่านข่าวนี้สิ่งแรกที่น่า่สงสัยคือ ทำไม Samsung ที่ส่งมือถือไปขายเกือบทั่วโลก ถึงมีปัญหากับ รัสเซียประเทศเดียว (ถ้าใครมีข่าวประเทศอื่นแบนอีกบอกได้นะครับ ) แล้วทำไมถึงมีปัญหากับ retailer บางเจ้าสิ่งแรกที่พบคือ รัสเซียไม่ได้แบนมือถือ samsung ทั้งประเทศแต่เป็นเครือข่ายและ retailer บางเจ้าเท่านั้น และ MTS ที่เป็นเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือที่ใหญ่ที่สุดของ รัสเซีย ก็ยังขายมือถือ Samsung อยู่  ข้อมูล MTS จาก Wikipedia  

ถ้าเราค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจะพบว่าข่าวนี้มีอีกมุมมองนึงที่น่าสนใจซ่อนอยู่ โดยผู้บริหารของทาง MTS ที่ยังจำหน่ายสินค้าซัมซุงอยู่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า 

" อัตราการคืนสินค้าของ Samsung นั้นต่ำมาก และน่าแปลกใจที่ retailer คู่แข่งที่มีปัญหาของเสียตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งมี market share ของมือถือ samsung สูงถึงพบว่ามีปัญหาของเสียพอดีกับช่วงเวลาที่ MTS ใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาพอดี "  "the level of returns rather small and constantly decreasing even amid rising sales of smartphones." ,  "Strange that retailers, which accounted for a significant share of sales of Samsung in Russia, suddenly began to experience problems with the vendor once MTS reduced the price of portable electronics,”   said Argives Alutis, Director of MTS retail network ที่มา : appleapple.top   

ถ้าเราลองหาข้อมูลตัวเลขสินค้าชำรุด 7% ก็ไม่พบว่าตัวเลขนี้อ้างอิงจากอะไรหรือพบปัญหาที่ประเทศไหนอีก แต่เป็นเพียงคำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารของ retailer ที่ยกเลิกการสั่งซื้อตามข่าวด้านบนสุด ซึ่งก็น่าแปลกที่สินค้าจำนวนมากจะมีปัญหาเฉพาะที่ Retailer ของรัสเซียบางเจ้าเท่านั้น ในขณะที่ MTS ไม่พบปัญหาเดียวกัน (อย่าลืมว่า MTS ขายเครื่องติดสัญญาในราคาที่ถูกกว่า)  ยังมีอีกแหล่งข่าวนึงที่ให้มุมมองในเรื่องนี้ว่าอาจจะมีเรื่องของกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือการตัดราคาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบนมือถือซัมซุงครั้งนี้เช่นกันครับ https://info-android.com/post-10122-russian-retailers-refuse-samsung-smartphones/ 

ในส่วนของกลยุทธ์ที่ MTS ใช้ จะเน้นการขายเครื่องราคาถูกแบบติดสัญญาเพื่อแลกกับรายได้จากค่าบริการอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลต่อคู่แข่ง ส่วนอัตราการคืนเครื่องที่มากกว่า 7% จะเป็นตัวเลขจริงหรือไม่คงไม่มีใครรู้ได้ แต่ก็เป็นไปได้ว่าสาเหตุนั้นอาจจะไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวที่ retailer บางเจ้าเลิกสั่งซื้อมือถือจากซัมซุง นอกจากนี้ก่อนหน้านั้นทางเครือข่ายมือถือ รัสเซียเคยสั่งแบนสินค้า Apple โดยให้เหตุผลว่าการขายสินค้า apple นั้นผลกำไรต่ำ และ Apple กำหนดเป้าไว้สูงจนเกินไปมาแล้วเช่นกัน ก็คงต้องบอกว่าการแข่งขันในตลาด สมาร์ทโฟนในรัสเซียนั้นไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ    


สรุปส่งท้ายบทความ  สำหรับข่าวนี้ผมเชื่อว่าถ้าเราวิเคราะห์หรือตั้งข้อสงสัยและหาข้อมูลเพิ่มเติมก็จะเห็นว่ามันมีอะไรมากกว่าข่าวที่รายงาน เราจึงนำมาวิเคราะห์ให้ทุกคนได้อ่านกันผมเชื่อว่าในข่าวสารที่มีมากมายในปัจจุบันผู้อ่านควรได้รับข้อมูลที่รอบด้านและก็เป็นหน้าที่ของสื่อสารมวลชนที่จะให้ เสนอข้อมูลโดยรอบด้านโดยปราศจากอคติด้วยเช่นกัน

สุดท้าย Samsung โดยรัสเซียแบนจริงหรือไม่ ความจริงจะเป็นเช่นไร อ้าวผิดเว็บครับ ขอให้สนุกกับเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ไอทีเครื่องใหม่กันทุกท่านนะครับ  :)   






 

 

Update : 31/08/2015





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy