รวม 6 จุดเด่น Lenovo Thinkbook 13s แล็ปท็อปเกรดธุรกิจสำหรับเหล่า Office Worker สเปกครบครันทุกการใช้งาน น้ำหนักเบาพกพาง่าย และระบบความปลอดภัยระดับสูง

ไลฟ์สไตล์การทำงานของเหล่า Offcie Worker ยุคนี้ ถือว่ามีการทำงานในทุกสถานที่ ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ใน Office เท่านั้น ดังนั้นการเลือกซื้อแล็ปท็อปสักหนึ่งรุ่นก็ควรจะตอบโจทย์ด้านการใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักที่เบาเหมาะแต่การพกพา, พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน, ตัวเครื่องที่มีความแข็งแกร่ง และสเปกที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันแบบรอบด้าน ซึ่งหากพูดถึงแล็ปท็อปสำหรับทำงานของแบรนด์ Lenovo แล้ว หลายท่านก็คงจะนึกถึงซีรีส์ Thinkbook ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นทำงานในระดับ Business Enterprise Grade โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น วัสดุที่ใช้ในการผลิต, บริการหลังการขาย รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ 

และหนึ่งในแล็ปท็อปตระกูล Thinkbook ที่น่าสนใจก็คือ Lenovo Thinkbook 13s แล็ปท็อปที่มารวมทั้งดีไซน์ระดับพรีเมียม พร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ Office Worker ในราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 31,600 บาท มาดูกันดีกว่าว่า Lenovo Thinkbook 13s จะมีฟีเจอร์เด่นอะไรที่น่าสนใจ และจะมีคุณสมบัติไหนที่ตอบโจทย์เหล่า Office Worker ยุคใหม่บ้างครับ
 

การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว

Lenovo Thinkbook 13 มาพร้อมกับจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อที่รวดเร็วตอบโจทย์การใช้งานทั้งใน และนอกสถานที่ ด้วยพอร์ตเชื่อมต่อความเร็วสูงแบบ USB-C ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ และยังสามารถใช้พอร์ต USB-C สำหรับส่งเสียง และภาพวิดีโอต่างๆ ไปยังจอนอก หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Lenovo ยังให้ความสำคัญในด้านการเชื่อมต่อ WiFi เพื่อตอบโจทย์การใช้งานนอกสถานที่มากยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้ตัวเครื่องที่ผลิตด้วยวัสดุโลหะพิเศษที่ไม่นำไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดสัญญาณรบกวน และช่วยให้ Wi-Fi มีความรวดเร็ว และเสถียรยิ่งกว่าเดิม  อีกทั้ง ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Modern Standby โดยระบบจะทำการอัปเดต รวมถึงจัดเตรียมการแจ้งเตือนต่างๆ ขณะที่อยู่ในโหมดสลีป เพื่อให้เครื่องกลับมาพร้อมใช้งานได้ทันทีเมื่อผู้ใช้เปิดเครื่อง
 

ฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวเป็นพิเศษ

อย่างที่กล่าวไปว่า Thinkbook เป็นแล็ปท็อปที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในระดับ Business Enterprise Grade โดยเฉพาะ จึงทำให้ฟีเจอร์ภายในจำเป็นต้องมีความคล่องตัว และมีความยืดหยุ่นสูงสำหรับใช้งานในทุกๆ สถานที่ โดย Lenovo Thinkbook 13s มาพร้อมกับปุ่มคีย์ลัด Skype for Business ซึ่งเป็นปุ่มสำหรับสำหรับโปรแกรม Skype ที่ติดตั้งบริเวณด้านบนของแป้นคีย์บอร์ด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานปุ่มรับสาย หรือวางสาย เมื่อมีการประชุม Conference Call จากโปรแกรม Skype ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่คมชัดแม้ว่าจะใช้งานแล็ปท็อปที่มีเสียงรบกวน หรือคนพลุกพล่าน

นอกจากนี้ Lenovo Thinkbook 13s ยังมาพร้อมกับระบบ Rapid Charge สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วจาก 0-80% ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมน้ำหนักตัวเครื่องที่เบา และบางเฉียบ แต่แฝงด้วยความแข็งแกร่งด้วยโลหะชนิดพิเศษเพื่อความทนทานในระดับสูงสุด อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้มือ Fingerprint Reader ที่ติดตั้งอยู่ในปุ่มเปิดเครื่อง (Power on) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแล็ปท็อปได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย

เชื่อมต่อ WiFi สาธารณะแบบปลอดภัยด้วย ThinkShield

ไลฟ์สไตล์การทำงานในปัจจุบันที่จำเป็นต้องมีการติดต่องานผ่านอินเทอร์เน็จอยู่ตลอดเวลา ทำให้ในบางครั้งผู้ใช้อาจมีการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่มีการป้องกันข้อมูล ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่อข้อมูล และอุปกรณ์ของผู้ใช้เป็นอย่างมาก โดยใน Lenovo Thinkbook 13s ก็คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นอย่างดีจึงได้ติดตั้งฟีเจอร์ที่เรียกว่า ThinkShield ซึ่งเปรียบเสมือนโล่ในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ หรือพนักงาน จึงทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่อยู่ในแล็ปท็อปจะไม่ตกอยู่ในมือของผู้ไม่ประสงค์ดี
 

CPU เจเนเรชันล่าสุด พร้อมสเปกตอบโจทย์การทำงาน

ทางด้านประสิทธิภาพการทำงานก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดย ThinkBook 13s เลือกใช้ CPU 10th Generation Intel® และ สามารถอัปเกรดได้สูงสุดเป็น Core™ i7 Processors ซึ่ง CPU รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และความแรงที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน 

ยกระดับการทำงานด้วย Graphic Card แยก

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในด้านกราฟิกเป็นพิเศษ ก็สามารถเลือก Option ในการใส่ Graphic Card ขนาด 2GB แบบ AMD Readon 540X เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน  และรองรับการทำงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

บริการหลังการขายแบบ 24x7

ในด้านบริการหลังการขายก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Lenovo ให้ความสำคัญมาโดยตลอดตั้งแต่โรงงาน โดยผู้ใช้สามารถเลือกรับบริการหลังการขายได้นานสูงสุดถึง 5 ปี หรือจะเลือกอัปเกรดเป็น Permier Support สำหรับติดต่อกับทีมบริการหลังการขายได้โดยตรงตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเคสแบบ Key Contact Point เพื่อช่วยแก้ปัญหา และหาทางออกของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้  นอกจากนี้ Lenovo ยังมีการรับประกันรูปแบบอื่นๆ ให้บริการด้วย เช่น ประกันอุบัติเหตุ, ประกันแบตเตอรี่ หรือบริการ Keep Your Drive ที่ลูกค้าสามารถเก็บ Hard Disk เอาไว้กับตัวเองได้กรณีที่แล็ปท็อปจำเป็นต้องมีการเปลี่ยน Hard Disk เพื่อปกป้องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมถึง Service หลังการใช้งาน เช่น การทำลายข้อมูลภายในแล็ปท็อปหลังไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือบริการ Trade In นำเครื่องเก่ามาแลกเป็นเครื่องใหม่ตามหลัก Green Environment

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับจุดเด่นของ Lenovo ThinkBook 13s ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแล็ปท็อปสำหรับชาว Officie Worker รุ่นใหม่ทั้งหลาย ที่ค่อนข้างน่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น สำหรับใครหรือองค์กรไหนที่สนใจสามารถติดต่อทีมงานของ Lenovo ที่ดูแลองค์กรของท่านหรือใน website ของ Lenovo ประเทศไทยได้เลยครับ

*บทความนี้เป็น Advertorial

------------------------------------

บทความโดย : techmoblog.com

Update : 31/07/2020