[รีวิว] JBL Flip 5 ลำโพงไร้สายขนาดพกพารุ่นสานต่อ มาพร้อมเทคโนโลยี JBL PartyBoost เชื่อมต่อลำโพงได้หลายตัวพร้อมกัน แบตอึด 12 ชั่วโมง บอดี้กันน้ำ IPX7 เคาะราคาที่ 4,390 บาท

เปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มอีกหนึ่งรุ่นแล้ว สำหรับลำโพงพกพาไร้สายจากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง JBL ในซีรี่ส์ Flip ที่ล่าสุด เดินทางมาถึงรุ่นที่ 5 แล้วกับ JBL Flip 5 ที่ยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องของขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก แม้ว่าดีไซน์ภายนอกของ JBL Flip 5 นั้น ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง JBL Flip 4 แต่สิ่งที่ต่างกันออกไป ก็คือ JBL Flip 5 เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ทำให้ชาร์จได้ไวขึ้น และตัดช่อง AUX ออก ทำให้ JBL Flip 5 รุ่นนี้ กลายเป็นลำโพงพกพาแบบไร้สายอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ JBL Flip 5 มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านการกันน้ำระดับ IPX7 ทำให้สามารถใช้งานได้ทุกสถานการณ์แม้แต่วันฝนตก หมดกังวลเรื่องลำโพงจะได้รับความเสียหายจากน้ำ รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อกับลำโพงที่รองรับเทคโนโลยี JBL PartyBoost เพื่อใช้งานเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ หรือเชื่อมต่อกับลำโพงหลาย ๆ ตัวพร้อมกันได้ อีกทั้งยังมีให้เลือกมากถึง 10 สี ในราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าเพียง 4,390 บาท

มาดูกันดีกว่าว่า ลำโพงพกพาไร้สายรุ่นสานต่อนี้ จะอัปเกรดให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมแค่ไหน รวมถึงคุณภาพเสียงที่ได้จะเป็นอย่างไร กับรีวิว ลำโพง JBL Flip 5 โดยทีมงาน techmoblog.com

 

• ขนาดตัวเครื่อง : 181 x 69 x 74 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 540 กรัม
• รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 (A2DP V1.3, AVRCP V1.6)
• Transducer : 44 x 80 mm.
• Rated Power : 20W RMS
• Frequency Response : 65Hz - 20kHz
• Signal-to-Noise Ratio : >80dB
• แบตเตอรี่ขนาด 4,800 mAh ใช้เวลาในการชาร์จจนเต็ม 100% ประมาณ 2.5 ชั่วโมง (5V/3A)
• รองรับการเล่นเพลงได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับระดับเสียง)
• Bluetooth Transmitter Power : 0-11 dBm
• Bluetooth Transmitter Frequency Range : 2.402 - 2.480 GHz
• Bluetooth Transmitter Modulation : GFSK, π/4 DQPSK, 8DPSK
• คุณสมบัติด้านการกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
• เทคโนโลยี JBL PartyBoost เชื่อมต่อกับลำโพงตัวอื่นเพื่อใช้งานเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ และสามารถเชื่อมต่อกับลำโพงหลาย ๆ ตัวพร้อมกันได้

 

JBL Flip 5 รุ่นที่นำมารีวิวนี้ คือสีน้ำเงิน Ocean Blue ซึ่งดีไซน์ของ JBL Flip 5 นั้น ถือว่ายังคงคล้ายกับ JBL Flip 4 รุ่นก่อนหน้า โดยเป็นรูปทรงกระบอก ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 181 x 69 x 74 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 540 กรัม ซึ่งถือว่ามีขนาดกะทัดรัด และพกพาสะดวก ตัวลำโพงเป็นพลาสติก ตะแกรงลำโพงหุ้มด้วยผ้า ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปด้านใน ส่วนขอบด้านข้างเป็นซิลิโคน ช่วยป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับไดร์ฟเวอร์บน JBL Flip 5 นั้น ได้รับการออกแบบใหม่ให้กระจายเสียงได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขนาดของไดร์ฟเวอร์อยู่ที่ 44 x 80 มิลลิเมตร ส่วน JBL Bass Radiator มีกำลังขับอยู่ที่ 20 วัตต์ โดยจากรูปจะเห้นว่า ขอบซิลิโคนด้านข้างตัวเครื่องจะเป็นรอยบากผิวไม่เรียบเท่ากันแบบสม่ำเสมอ ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ในกรณีที่วางตัวเครื่องในแนวตั้ง รอยบากเหล่านี้จะเป็นช่องว่างที่ทำให้ไม่ปิดเสียงเบสนั่นเอง

 

ด้านข้างตัวเครื่อง เป็นปุ่มควบคุมการทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ปุ่มเล่นเพลง-หยุดเพลง (กด 1 ครั้ง) หรือเล่นเพลงถัดไป (กด 2 ครั้ง), ปุ่มเพิ่มระดับเสียง, ปุ่มลดระดับเสียง และปุ่ม PartyBoost

 

ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, ปุ่มเชื่อมต่อ Bluetooth และพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมแถบแสดงสถานะแบตเตอรี่ โดย JBL Flip 5 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 4,800 mAh รองรับการใช้งานสูงสุด 12 ชั่วโมง

 

นอกจากนี้ JBL Flip 5 ยังรองรับคุณสมบัติด้านการกันน้ำระดับ IPX7 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในงานปาร์ตี้ริมสระ หรือจะใช้งานในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ก็หมดกังวลเรื่องลำโพงจะได้รับความเสียหายจากน้ำ

 

ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบไปด้วย ลำโพง JBL Flip 5, สาย USB-C, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน โดยรุ่นนี้ไม่มีแถม Adapter สำหรับชาร์จไฟมาให้ แต่ผู้ใช้สามารถใช้ Adapter ตัวเดียวกับที่ชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาใช้งานได้เช่นกัน ซึ่ง JBL Flip 5 จะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มราว ๆ 2.5 ชั่วโมง เมื่อชาร์จกับ Adapter ขนาด 5V/3A

 

สำหรับการเชื่อมต่อ JBL Flip 5 กับสมาร์ทโฟนนั้น ก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแค่กดปุ่ม Power ที่ตัวลำโพงเพื่อเปิดเครื่อง และกดปุ่ม Bluetooth 1 ครั้งเพื่อปล่อยสัญญาณสำหรับเชื่อมต่อ จากนั้นให้มาที่สมาร์ทโฟน ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Bluetooth แล้วเลือก JBL Flip 5

 

นอกจากนี้ JBL Flip 5 ยังสามารถควบคุมการใช้งานได้ผ่านทางแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า JBL Connect ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS

 

สำหรับโหมดควบคุมการทำงานผ่านทางแอปพลิเคชัน JBL Connect นั้น จะมี 2 โหมด ได้แก่

• Party Mode คือการนำเอาลำโพง JBL รุ่นที่รองรับฟังก์ชัน PartyBoost มาเชื่อมต่อกัน โดยเมื่อทำการเชื่อมต่อเสร็จแล้ว เพลงที่เปิดจะถูกเล่นจากทุกลำโพงพร้อมกัน ซึ่งลำโพงที่รองรับฟังก์ชันดังกล่าว ก็ได้แก่ JBL Flip 5, JBL Flip 4, JBL Flip 3, JBL Charge 4, JBL Charge 3, JBL Pulse 4, JBL Pulse 3, JBL Pulse 2, JBL Xtreme 2, JBL Xtreme และ JBL Boombox
• Stereo Mode คือ การแบ่งลำโพงแบบแยกเสียงซ้ายและขวา ซึ่งต้องมีการเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวพร้อมกัน สามารถเลือกได้ด้วยว่า อยากให้ลำโพงตัวไหนเสียงออกซ้ายหรือขวา

 

ทดสอบคุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพง JBL Flip 5

เมื่อทำการเชื่อมต่อ JBL Flip 5 กับสมาร์ทโฟนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาลองทดสอบคุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพงไซซ์พกพารุ่นนี้กันบ้าง ซึ่งเสียงเบสนั้น มีอิมแพคแน่น กระชับ ลงรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้น​, เสียงร้องคมชัด สดใส ไม่แหลมบาดหู, เสียงแหลมมีความโดดเด่น สด ชัดเจน ส่วนเวทีเสียงมีความโปร่งกว้าง แยกชิ้นเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับแนวเพลงที่มีเครื่องดนตรีไม่มากนัก

 

สำหรับ JBL Flip 5 ลำโพงพกพาแบบไร้สายรุ่นใหม่นี้ ถือว่า ได้รับการอัปเกรดให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของดีไซน์ รวมถึงคุณภาพเสียง ซึ่งดีไซน์ของ JBL Flip 5 ยังคงเป็นทรงกระบอกขนาดเล็ก พร้อมสายคล้องมือ สะดวกต่อการพกพา และยังมีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบบไร้สายผ่านเทคโนโลยี Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 ที่อัปเกรดใหม่ เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น, ได้ระยะที่ไกลขึ้น และเสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับคุณสมบัติอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น

• รองรับคุณสมบัติด้านการกันน้ำระดับ IPX7 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที
• รองรับเทคโนโลยี JBL PartyBoost เพื่อใช้งานเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ หรือเชื่อมต่อกับลำโพงหลาย ๆ ตัวพร้อมกันได้
• ควบคุมการใช้งานได้ผ่านทางแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า JBL Connect สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS
• แบตเตอรี่ขนาด 4,800 mAh รองรับการเล่นเพลงได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับระดับเสียง)
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ไวขึ้นกว่าเดิม
• ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ราว ๆ 2.5 ชั่วโมง เมื่อชาร์จกับ Adapter ขนาด 5V/3A

และเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง JBL Flip 4 ถือว่า JBL Flip 5 ได้ตัดฟังก์ชันบางอย่างออกไป ทั้งช่องต่อ AUX และไม่มีไมโครโฟนในตัว ทำให้ลำโพงรุ่นนี้ไม่สามารถใช้งานด้านโทรศัพท์ได้ รวมถึงไม่รองรับ Voice Assistant ระบบการสั่งการด้วยเสียง และเทคโนโลยี Google Assistant ด้วยเช่นกัน

สำหรับราคาของ JBL Flip 5 นั้น อยู่ที่ 4,390 บาท มีให้เลือกมากถึง 10 สีด้วยกัน ได้แก่ Black, Blue, Green, Gray, Pink, Red, Sand, Teal, White และ Yellow โดยผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อมาใช้งานกันได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 15/10/2019

JBL FLIP 5 รีวิว JBL Flip 5