เปิดตัว iPhone 11 (ไอโฟน 11) รุ่นราคาย่อมเยา เคาะราคาถูกลง เริ่มต้นที่ 24,900 บาท มาพร้อมกล้องคู่หลัง 12MP เพิ่มเลนส์ Ultra-Wide บนดีไซน์จอบาก และบอดี้สีสันสดใส

เปิดตัวอย่างเป็นทางการตามคาดแล้ว สำหรับรุ่นสานต่อของ iPhone XR ที่ในปีนี้ มีชื่อเรียกแบบจำง่าย ๆ ว่า iPhone 11 (ไอโฟน 11) นั่นเอง ซึ่งดีไซน์ของ iPhone 11 นั้น ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอบากเหมือนเดิม แต่อัปเกรดกล้องด้านหลังจากกล้องตัวเดียว เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) พร้อมดีไซน์ของโมดูลกล้องแบบใหม่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่มุมบนซ้าย เรียกได้ว่า แทบไม่แตกต่างจากภาพหลุดเลยก็ว่าได้

นอกเหนือจากดีไซน์ตัวเครื่อง (ด้านหลัง) แบบใหม่แล้ว ความน่าสนใจของ iPhone 11 ปีนี้ก็คือ เปิดตัวมาด้วยราคาที่ถูกลง เริ่มต้นที่ $699 ซึ่งราคาในไทยเริ่มต้นที่ 24,900 บาท เท่านั้น

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6.1 นิ้ว แบบ Liquid Retina HD ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล (326 ppi)
• ชิปเซ็ต Apple A13 Bionic และ Neural Engine รุ่นที่ 3
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB, 128 GB หรือ 256 GB
• กล้องด้านหน้าแบบ TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.2)
  • รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 1080p @120fps
• กล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) ประกอบด้วย
  • เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/1.8)
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.4), มุมมองกว้าง 120 องศา
  • ซูม Optical ได้ 2 เท่า และซูม Digital ได้ 5 เท่า
  • รองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน
• รองรับการสแกนใบหน้า (Face ID)
• กันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 13

จอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว

iPhone 11 มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับขอบเขตสีกว้าง และสี True Tone ส่วนดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่อง ขึ้นรูปด้วยกระจกเพียงชิ้นเดียว อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่ง พร้อมคุณสมบัติด้านการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 ทนน้ำที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร นานติดต่อกันสูงสุด 30 นาที และมีระบบป้องกันหากโดนของเหลวทั่วไปหกใส่ เช่น กาแฟ หรือน้ำอัดลม

ชิปเซ็ต Apple A13 Bionic เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน

สำหรับชิปเซ็ต Apple A13 Bionic นั้น มี CPU และ GPU ที่เร็วกว่าชิปเซ็ต Apple A12 ถึง 20% อีกทั้งยังมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ภาพถ่ายและวิดีโอแบบเรียลไทม์ รวมถึงตัวเร่งความเร็วการเรียนรู้ของระบบที่ทำให้ CPU สามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้ถึง 1 ล้านล้านรายการต่อวินาที

กล้องคู่ด้านหลัง

iPhone 11 มาพร้อมกับกล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย เลนส์ Wide และเลนส์ Ultra-Wide มุมมองกว้าง 120 องศา พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K, โหมด Audio Zoom จะจับคู่เสียงเข้ากับการจัดเฟรมของวิดีโอ เพื่อให้เสียงแบบไดนามิกยิ่งขึ้น และสามารถบันทึกวิดีโอได้รวดเร็วขึ้นด้วยฟีเจอร์ QuickTake กดที่ปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเริ่มบันทึกวิดีโอ โดยไม่ต้องออกจากโหมดรูปถ่าย

นอกจากนี้ iPhone 11 ยังรองรับ Night Mode สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย รวมถึงโหมด Portrait ที่สามารถถ่ายภาพได้ทั้งบุคคล, สัตว์เลี้ยว หรือวัตถุสิ่งของแบบหน้าชัดหลังเบลอได้

สำหรับกล้องด้านหน้าแบบ TrueDepth ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion ด้วยกล้องด้านหน้าแล้ว

คุณสมบัติอื่น ๆ

• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 13
• LTE ระดับ Gigabit และ Wi-Fi 6 ช่วยให้ดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น 38% และรองรับซิมคู่ด้วย eSIM
• ระบบเสียงจาก Dolby Atmos
• รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
• รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงสุด 18W สามารถชาร์จได้ 50% ในเวลา 30 นาที

ราคา iPhone 11 และวันวางจำหน่ายในไทย

โดย iPhone 11 มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีดำ, สีเขียว, สีเหลือง, สีม่วง, สีขาว และสีแดง (PRODUCT)RED ด้วย 3 ขนาดความจุ ได้แก่ 64 GB, 128 GB หรือ 256 GB ส่วนราคา iPhone 11 ในไทยนั้น เริ่มต้นที่ 24,900 บาท เปิดพรีออเดอร์ในกลุ่มประเทศแรก วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2019 และวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2019 ซึ่งยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายในไทยในตอนนี้

-------------------------------------
ที่มา : apple.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 11/09/2019

iPhone 11