หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] Honor 10 มือถือน้องใหม่ดีไซน์สวยแบบไล่เฉดสี พร้อมสเปกระดับท็อป, กล้องคู่ AI 24MP และ ROM เยอะจุใจ 128 GB ในราคาเพียง 13,990 บาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา สำหรับ Honor 10 ที่เรียกได้ว่า เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะเปิดตัวมาด้วยราคาค่าตัวเพียง 13,990 บาท แต่สเปกและดีไซน์เทียบชั้นกับมือถือรุ่นเรือธงในราคา 2-3 หมื่นบาทเลยทีเดียว

โดย Honor 10 นั้น โดดเด่นกันตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เรียกว่า Aurora Glass Design บนบอดี้กระจกแบบ 3D Glass ที่เคลือบหนาถึง 15 ชั้น ทำให้เกิดโทนสีเหลือบและมีความมันวาวสะท้อนกับแสงในมุมมองที่ต่างกัน ซึ่งจะเห็นได้ชัดบนตัวเครื่องสีฟ้า Phantom Blue และสีเขียว Phantom Green ส่วนรุ่นที่ทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้ เป็น Honor 10 สีดำ Midnight Black แม้การไล่เฉดสีด้านหลังตัวเครื่องจะไม่ชัดเจนเหมือนกับสี Phantom Blue กับ Phantom Green แต่ก็ถือว่าเป็นสีที่เรียบหรู เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเช่นกัน

ในด้านการประมวลผลนั้น เรียกได้ว่า อัดแน่นด้วยสเปกระดับไฮเอนด์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 970 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลแบบ NPU (Neural Processing Unit) สำหรับช่วยประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB, แบตเตอรี่ขนาด 3,400 mAh ที่มาพร้อมกับ Honor SuperCharge ระบบชาร์จความเร็วสูง และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) พร้อมอินเทอร์เฟส EMUI เวอร์ชัน 8.1

อีกหนึ่งจุดขายสำคัญของ Honor 10 นั่นก็คือ กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งกล้องด้านหลัง เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) โดยกล้องตัวแรก เป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Monochrome (ขาวดำ) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สอง เป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ RGB (ภาพสี) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์มาช่วยประมวลผล เพื่อปรับแต่งให้ภาพถ่ายมีความสมจริงและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ส่วนกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาดกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และรองรับ AI Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลออีกด้วย

นอกเหนือจากเรื่องของการประมวลผลและกล้องถ่ายรูปแล้ว ในด้านความปลอดภัย Honor 10 รองรับทั้งการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าแบบ 360 องศา และการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้น เป็นแบบ Ultrasonic Fingerprint ที่ฝังไว้ใต้กระจก นอกจากจะปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังสามารถปลดล็อกได้แม้มือเปียก

เห็นคุณสมบัติเบื้องต้นของ Honor 10 กันไปแล้ว บอกได้เลยว่า คุ้มค่าเกินราคาค่าตัวเลยก็ว่าได้ แต่ Honor 10 จะรองรับการใช้งานได้ดีแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว Honor 10 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

 

สรุปคะแนนทดสอบจากทีมงาน

 

สเปก Honor 10
  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.84 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล (432 ppi), อัตราส่วน 19:9
  • ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 970 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz
  • หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP12
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB (ไม่รองรับ microSD Card)
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, AI Portrait Mode ฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ
  • กล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) พร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ความละเอียด 24+16 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF, ไฟแฟลชแบบ LED
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ฝังใต้กระจก สามารถสแกนได้แม้มือเปียกน้ำ
  • ระบบการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าแบบ 360 องศา
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • รองรับเทคโนโลยี NFC
  • แบตเตอรี่ขนาด 3,400 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Honor SuperCharge
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) พร้อมอินเทอร์เฟส EMUI เวอร์ชัน 8.1

>> สเปก Honor 10 อย่างละเอียด คลิกที่นี่

 

รีวิว Honor 10 : ดีไซน์ และการออกแบบ

Honor 10 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.84 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 19:9 และดีไซน์แบบ Full View Display ด้วยการลดขนาดของขอบตัวเครื่อง ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงผลเพิ่มขึ้นแต่ไม่เพิ่มขนาดตัวเครื่อง จึงทำให้สามารถมือเดียวได้อย่างสะดวก ซึ่ง Honor 10 มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 149.6 x 71.2 x 7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 153 กรัมเท่านั้น

สำหรับด้านบนของตัวเครื่อง เป็นดีไซน์แบบจอบาก (Notch) ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 และ AI Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ, ลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ Accelerometer Sensor, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor

ส่วนใครที่ไม่ชอบให้หน้าจอแสดงผลแบบจอบาก ก็ไม่ใช่ปัญหาบน Honor 10 เพราะสามารถปิดการแสดงผลในส่วนนี้ได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าการแสดงผล > ขอบดำ > ซ่อนขอบดำ

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส (On-Screen) ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และปุ่ม Recent Apps ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นแบบ Ultrasonic Fingerprint ที่ถูกฝังไว้กระจก ที่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วแม้ขณะมือเปียก

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดง และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่ง Honor 10 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ nanoSIM แต่ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และเซ็นเซอร์อินฟราเรดสำหรับใช้งานเป็นรีโมต ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C, ไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา และลำโพงเสียง

สำหรับบอดี้ของ Honor 10 มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า Aurora Glass Design ด้วยกระจกแบบ 3D Glass ที่มีการเคลือบผิวสัมผัสด้วยกระจกทั้งหมด 15 ชั้น ทำให้ตัวเครื่องมีความเงางาม โดยเฉพาะสีฟ้า Phantom Blue และสีเขียว Phantom Green จะมีการไล่เฉดสีที่แตกต่างกันตามมุมมองการสะท้อนของแสง ซึ่งรุ่นที่ทีมงานนำมารีวิวนั้น เป็นตัวเครื่องสี Midnight Black แม้การไล่เฉดสีจะไม่ชัดเจนเหมือนตัวเครื่องสีฟ้าและสีเขียว แต่ก็ดูเรียบหรูไม่น้อยเช่นกัน

ในส่วนของกล้องด้านหลังนั้น เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 24 (Monochrome) + 16 (RGB) ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8 และไฟแฟลชแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ที่มีการนำเอาระบบ AI มาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม เพื่อนำมาปรับแต่งภาพถ่ายให้ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องแพ็กเกจ ประกอบด้วย สาย USB-C, Adapter สำหรับการชาร์จเร็ว, เคสซิลิโคนใส, เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด และตัวเครื่อง Honor 10 ที่มีการติดฟิล์มกันรอยมาเรียบร้อยแล้ว แต่อุปกรณ์ที่ขาดไปสำหรับรุ่นทดสอบก็จะมีแค่หูฟังเท่านั้นที่ไม่ได้แถมมาให้ในกล่องแพ็กเกจ

 

รีวิว Honor 10 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

Honor 10 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) และอินเทอร์เฟส EMUI 8.1 เวอร์ชันล่าสุด พร้อมรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE, 3G และ 2G ทั้ง 2 ซิมการ์ด

ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอทั้ง Wallpaper, Theme และ Widget ได้อย่างอิสระ

การปัดจากขอบด้านบนของหน้าจอ จะเป็นฟังก์ชันการแจ้งเตือน พร้อมทางลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานในเบื้องต้น ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, Hotspot, โหมดเครื่องบิน และอื่น ๆ

Honor 10 ไม่มี App Drawer ซึ่งแอปพลิเคชันทั้งหมดจะถูกจัดเรียงในหน้า Home Screen แต่ผู้ใช้สามารถจัดให้เป็นหมวดหมู่ได้ด้วยการสร้างโฟลเดอร์ แล้วรวมแอปพลิเคชันประเภทเดียวกันไว้ที่โฟลเดอร์เดียวกัน เพื่อความเป็นระเบียบและค้นหาได้ง่าย

สำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานที่ถูกติดตั้งไว้ในเครื่อง จะเห็นว่ามีหลายแอปพลิเคชันเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง, ไฟฉาย, เข็มทิศ และอื่น ๆ

รวมถึงแอปพลิเคชันยอดนิยม และเกม ก็ถูกติดตั้งให้พร้อมใช้งานแล้วเช่นกัน

Honor 10 รองรับการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic Fingerprint ที่ถูกฝังไว้กระจก สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วแม้ขณะมือเปียก โดยรองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

นอกจากนี้ ยังรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) แบบ 360 องศา สามารถสแกนใบหน้าได้แม้สวมแว่นตา

ในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ต้องการให้ตัวเครื่องแสดงผลแบบมีจอบาก (Notch) สามารถปิดการแสดงผลได้ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าการแสดงผล > ขอบดำ > ซ่อนขอบดำ ซึ่งจะทำการเปลี่ยนแถบด้านบนให้เป็นสีดำ เพื่อให้กลมกลืนกับส่วนที่เป็นจอบากนั่นเอง

Honor 10 รองรับโหมดถนอมสายตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าสำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย ส่วนดีไซน์แบบ FullView Display ที่ทำให้แอปพลิเคชันสามารถแสดงผลแบบเต็มหน้าจอได้ แต่ก็ยังมีบางแอปฯ ที่ไม่รองรับฟังก์ชันดังกล่าว (ตัวระบบจะมีการแจ้งรายชื่อแอปฯ ที่ไม่สามารถแสดงผลแบบเต็มหน้าจอได้) ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดให้แอปฯ ดังกล่าวแสดงผลแบบเต็มหน้าจอได้ แต่มีคำเตือนว่า อาจจะทำให้สเกลในการแสดงผลผิดเพี้ยนไปบ้าง

App Twin (แอปคู่แฝด) คือ ฟังก์ชันสำหรับการโคลนนิ่งแอปฯ ซึ่งเบื้องต้นนั้นทำได้เฉพาะแอปฯ ประเภทโซเชียลเท่านั้น อย่างเช่น Facebook หรือ Messenger ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกัน โดยไม่ต้องสลับบัญชีไปมา

HiCare แอปพลิเคชันรวมข้อมูลต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ทิปการใช้งานทั่วไป, วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น, บริการหลังการขาย, ศูนย์บริการ, ราคาอะไหล่ และอื่น ๆ

Phone Clone เป็นแอปพลิเคชันสำหรับถ่ายโอนข้อมูลรายชื่อ, รูปภาพ, ปฏิทิน และข้อมูลอื่น ๆ จากโทรศัพท์เครื่องเก่าไปยังโทรศัพท์เครื่องใหม่ ซึ่งรองรับทั้งการโอนข้อมูลจาก iOS มายัง Android อีกด้วย

ฟีเจอร์ Split Screen กับการแบ่งหน้าจอเพื่อให้สามารถใช้งาน 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว

ทดสอบเล่นเกมกราฟิก 3 มิติยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile กันบ้าง ด้วยการปรับระดับของกราฟิกให้อยู่ในระดับสูงสุด พบว่า สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ แต่ยังมีภาพกระตุกบ้างในบางเวลา และตัวเครื่องมีความร้อนสะสม

ปิดท้ายด้วยการทดสอบ Benchmark กันบ้าง ซึ่งการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 196,226 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทำได้ 1,883 คะแนน และ 6,441 คะแนน สำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ Multi-Core ตามลำดับ

และรองรับมัลติทัชที่ 10 จุด

 

รีวิว Honor 10 : กล้องถ่ายรูป

สำหรับกล้องถ่ายรูปนั้น ถือว่าเป็นจุดขายหลักของ Honor 10 รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาดกว้างสูงสุดที่ F/2.0 โดยมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคล สามารถปรับระดับเอฟเฟกต์บิวตี้ได้สูงสุดที่ 10 ระดับ และรองรับโหมด Bokeh สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ

นอกจากนี้ ยังมีโหมด 3D Portrait Lighting สำหรับปรับค่าแสงได้ทั้งหมด 6 แบบ ซึ่งได้แก่ ไม่มีแสง, แสงอ่อน, แสงแบบผีเสื้อ, แสงแบบแยก, แสงเวที และแสงแบบคลาสสิก

AR Lens เป็นอีกโหมดที่มีลูกเล่นการถ่ายภาพที่น่าสนใจ กับการถ่ายภาพพร้อมสติกเกอร์ที่มีให้เลือกมากมายหลายแบบ หรือจะเป็นแบบ พื้นหลัง (Background) ที่สามารถเลือกฉากหลังที่ต้องการได้

สำหรับกล้องด้านหลังบน Honor 10 เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ความละเอียด 24 +16 ล้านพิกเซล และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8 โดยมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมายเช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า

โดยเทคโนโลยี AI 2.0 Camera จะเป็นการนำระบบปัญญาประดิษฐ์มาวิเคราะห์วัตถุและสภาพแวดล้อม ทำให้สามารถปรับแต่งภาพให้สวยงามมากขึ้นและเป็นธรรมชาติ ซึ่งจากภาพข้างต้น เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง ภาพถ่ายปกติ (ซ้าย) กับภาพถ่ายที่เปิดโหมด AI (ขวา) จะเห็นว่า สีสันของภาพแตกต่างกันอย่างชัดเจน

โหมด Pro สำหรับตั้งค่าการถ่ายภาพเอง ทั้ง ISO, ความเร็วของชัตเตอร์, ระบบการโฟกัส, การชดเชยแสง และอื่น ๆ

โหมด Aperture (รูรับแสง) สามารถปรับความกว้างของรูรับแสงได้ตั้งแต่ F/0.95 - F/16 ยิ่งค่า F น้อย ฉากหลังจะเบลอมากขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Portrait ปรับความเนียนของผิวระดับ 5

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Portrait ปรับความเนียนของผิวระดับ 10

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Portrait และโหมด Bokeh ปรับความเนียนของผิวระดับ 10

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด AR Lens (สติกเกอร์)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด AR Lens (Background)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด 3D Portrait Lighting (แสงเวที และแสงแบบคลาสสิก)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Aperture เปิดรูรับแสงที่ F/0.95

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Aperture เปิดรูรับแสงที่ F/8

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Aperture เปิดรูรับแสงที่ F/16

 

บทสรุปการใช้งาน

จากการทดสอบใช้งานเบื้องต้น จะเห็นว่า Honor 10 เป็นสมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ที่มีความโดดเด่นกันตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกเลยก็ว่าได้ ซึ่งดีไซน์ด้านหลังของ Honor 10 เป็นการออกแบบที่เรียกว่า Aurora Glass Design บนบอดี้กระจกแบบ 3D Glass ที่มีการเคลือบผิวสัมผัสด้วยกระจกถึง 15 ชั้น ทำให้เกิดการไล่เฉดสีและมีความมันวาวสะท้อนกับแสงในมุมมองที่ต่างกัน โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.84 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล บนอัตราส่วน 19:9 และดีไซน์จอบากตามสมัยนิยม แต่ถ้าหากใครไม่ชอบจอบาก ก็สามารถซ่อนจอได้เช่นกัน

สำหรับจุดขายในลำดับต้น ๆ ของ Honor 10 รุ่นนี้ก็คือ กล้องถ่ายรูป ซึ่งกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.0 และรองรับ AI Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องด้านหลัง เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) โดยกล้องตัวแรก เป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Monochrome (ขาวดำ) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สอง เป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ RGB (ภาพสี) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์มาช่วยประมวลผล สามารถแยกแยะวัตถุที่อยู่ตรงหน้าเพื่อปรับแต่งให้ภาพถ่ายมีความสมจริงและเป็นธรรมชาติมากที่สุด นอกจากนี้ ยังรองรับฟีเจอร์ Beauty สำหรับการปรับความเนียนของใบหน้าได้สูงสุดที่ 10 ระดับ พร้อมโหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจ ทั้ง Aperture ปรับค่ารูรับแสงได้ตามต้องการ ตั้งแต่ F/0.95 - F/16, โหมด 3D Portrait Light กับการปรับค่าแสงได้ทั้งหมด 6 แบบ และ AR Lens เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายด้วยสติกเกอร์

ในด้านการประมวลผลนั้น มาพร้อมกับชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 970 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลแบบ NPU (Neural Processing Unit) สำหรับช่วยประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB, แบตเตอรี่ขนาด 3,400 mAh ที่มาพร้อมกับ Honor SuperCharge ระบบชาร์จความเร็วสูง และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) พร้อมอินเทอร์เฟส EMUI เวอร์ชัน 8.1 นอกจากนี้ ยังรองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าแบบ 360 องศา และการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบ Ultrasonic Fingerprint ฝังใต้กระจก สามารถสแกนได้แม้มือเปียกน้ำ

ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันเทียบชั้นรุ่นเรือธง แต่ Honor 10 เคาะราคาค่าตัวอยู่ที่ 13,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่า คุ้มค่าเกินราคาค่าตัวเลยกันเลยทีเดียว ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถไปทดลองใช้งานกันก่อนได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

จุดเด่นของ Honor 10

  • ดีไซน์การออกแบบด้านหลังตัวเครื่องแบบ Aurora Glass Design ด้วยกระจกแบบ 3D Glass ที่มีการเคลือบผิวสัมผัสด้วยกระจกถึง 15 ชั้น ทำให้ตัวเครื่องมีความเงางาม และสะท้อนกับแสงในมุมมองที่แตกต่างกัน จะเห็นได้ชัดบนตัวเครื่องสีฟ้า Phantom Blue และสีเขียว Phantom Green
  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.84 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล (432 ppi), อัตราส่วน 19:9
  • ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 970 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลแบบ NPU สำหรับช่วยประมวลผลด้าน AI
  • หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP12
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, AI Portrait Mode ฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ
  • กล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) พร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ความละเอียด 24+16 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF, ไฟแฟลชแบบ LED
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ฝังใต้กระจก สามารถสแกนได้แม้มือเปียกน้ำ
  • ระบบการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าแบบ 360 องศา
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • รองรับเทคโนโลยี NFC
  • แบตเตอรี่ขนาด 3,400 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Honor SuperCharge
  • พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C
  • ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS, รองรับดาวเทียม GLONASS และ Beidou
  • รองรับโหมดถนอมสายตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าสำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย
  • แอปพลิเคชัน App Twin ฟังก์ชันสำหรับการโคลนนิ่งแอปฯ อย่างเช่น Facebook หรือ Messenger ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกัน โดยไม่ต้องสลับบัญชีไปมา
  • แอปพลิเคชัน Phone Clone สำหรับถ่ายโอนข้อมูลรายชื่อ, รูปภาพ, ปฏิทิน และข้อมูลอื่น ๆ จากโทรศัพท์เครื่องเก่าไปยังโทรศัพท์เครื่องใหม่ ซึ่งรองรับทั้งการโอนข้อมูลจาก iOS มายัง Android อีกด้วย
  • ฟีเจอร์ Split Screen กับการแบ่งหน้าจอเพื่อให้สามารถใช้งาน 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo) พร้อมอินเทอร์เฟส EMUI เวอร์ชัน 8.1

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

  • ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องแบบกระจก ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย
  • ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card
  • เครื่องทดสอบไม่มีหูฟังแถมให้ในกล่องผลิตภัณฑ์
  • ตัวเครื่องค่อนข้างร้อน เมื่อมีการใช้งานที่ต้องมีการประมวลผลในระดับสูงเป็นเวลานาน
  • ไม่มีวิทยุ FM

 

ข้อควรทราบ : เครื่อง Honor 10 ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง

 

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 12/07/2018

Honor 10 รีวิว Honor 10





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy