หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

ซัมซุงเปิดตัว Samsung Tab S9 FE และ Tab S9 FE+ สร้างสรรค์ได้ทุกแรงบันดาลใจด้วย S Pen และราคาที่เข้าถึงได้ และ Galaxy SmartTag2 สมาร์ทในการติดตามของ

ซัมซุงเปิดตัว Tab S9 FE และ Tab S9 FE+ สร้างสรรค์ได้ทุกแรงบันดาลใจ พร้อมคุณสมบัติระดับเรือธงที่มาพร้อมกับ S Pen ที่เป็นมากกว่าปากกา ในราคาที่เข้าถึงได้ และ Galaxy SmartTag2 โชว์ความง่ายและสมาร์ทในการติดตามของ

 

ซัมซุงเปิดตัว Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียมที่ยกระดับการใช้งานให้ไปได้ไกลกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การทำคอนเทนต์ หรือสายเอนเตอร์เทน แท็บเล็ตรุ่นนี้พร้อมตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน และ Galaxy SmartTag2 ที่มาเปลี่ยนประสบการณ์การ “ตามหา” ของให้ล้ำกว่าที่เคย

 

สัมผัสประสบการณ์ระดับพรีเมียมพร้อมกันกับสองรุ่น Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ และจุดเด่นที่จะทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ เร็ว ลื่น ได้แบบง่ายๆ

 

1. S Pen ที่เป็นมากกว่าปากกา ยกระดับการเรียนและการทำงานได้มากกว่าที่เคย

Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ มาพร้อมปากกา S Pen ที่พร้อมจะเป็นตัวช่วยให้กับการใช้งานได้ในรูปแบบที่ต้องการ ทั้งด้านการเรียน S Pen สามารถแปลภาษาได้ทันที เพียงแค่ใช้ปากกาชี้ที่คำหรือประโยคที่ต้องการ หรือในขณะดูหนังก็สามารถแปลคำในวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่ได้ พร้อมทั้งการอัดวิดีโอขณะเรียน ยังสามารถจดโน้ตไปพร้อมๆ กันได้ มากไปกว่านั้น Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ มาพร้อม Goodnotes ให้ใช้ฟรีตลอดระยะเวลา 1 ปี จัดเต็มแบบที่เรียกว่านักเรียนนักศึกษาต้องมี สำหรับสาย Multi-tasks ไม่ต้องห่วง Tablet S9 FE สามารถเปิดหน้าจอทำงาน และหน้าจออื่นๆ ได้พร้อมกันถึง 3 จอ เพื่อประสิทธิภาพที่มากกว่าเดิม

 

2. ให้การดูหนัง ฟังเพลง สมูทมากกว่าที่เคย สนุกสุดแม็กซ์แบบไร้สะดุด

สายเอนเตอร์เทนจะต้องเลิฟ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 12.4" พร้อมภาพแสดงผลสีสด สวย คมชัด ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ที่ไหนก็ให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า และมาพร้อม ชิปเซ็ตใหม่ Exynos1380 ช่วยให้การใช้งานและการประมวลไวขึ้น 38% Multi Core (CPU) และช่วยให้การประมวลภาพกราฟิกต่างๆ ดีขึ้นถึง 73% (GPU) เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab S7 FE นอกจากจะเร็วขึ้นแล้ว ยังลื่นขึ้นอีกด้วยกับRefresh rate สูงสุดถึง 90 Hz ให้ดื่มด่ำทุกความบันเทิงอย่างสนุกสมจริงเหนือกว่าทั้งภาพและเสียง

 

3. พร้อมไปทุกที่ได้สุดกว่าเดิม ตอบโจทย์ New normal lifestyle

Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ สามารถไปได้ทุกที่ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร เพราะได้การรับรองจาก IP68 ทนน้ำ ทนฝุ่น แถมความสว่างหน้าจอยังเพิ่มขึ้นถึง 600 nits พร้อมแบตเตอรี่ 10,090 mAh ให้ใช้งานได้ยาวนานมากกว่าและ รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W ตอบโจทย์การใช้งานนอกสถานที่ตลอดทั้งวัน

 

ครบ จบ ทุกการใช้งานในเครื่องเดียวกับ Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ ที่มาพร้อม Application คู่ใจทั้ง Goodnotes ใช้ฟรีตลอด 1 ปี, YouTube Premium ฟรี 4 เดือน, Clip Studio Paint วาดรูป ฟรี 6 เดือน, Adobe Lightroom และ Adobe Express - ฟรี 2 เดือน และ ArcSite ใช้ฟรี 1 เดือนแรก และลด 30% เมื่อซื้อ Subscription ครั้งถัดไป (สิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้งานใหม่และต้องดาวน์โหลดผ่าน Galaxy Store) และ LumaFushion แอปพลิเคชันตัดต่อ ลด 50% เมื่อซื้อครั้งแรก* สิทธิพิเศษถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 เท่านั้น

 

  

 

วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ผ่านช่องทางออนไลน์ บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ สำหรับ Tablet S9 FE+ มีด้วยกันสองสี สี Gray และ สี Mint สำหรับ Tablet S9 FE มีทั้งหมดสามสี Gray , สี Lavender และสี Mint


โดยราคาที่วางจำหน่ายมีดังนี้ Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi (6/128GB): 16,990 บาท, Galaxy Tab S9 FE 5G (6/128GB): 19,990 บาท, Galaxy Tab S9 FE+ Wi-Fi (8/128GB): 23,900 บาท และ Galaxy Tab S9 FE+ 5G (8/128GB): 27,900 บาท

 

พบกับอีกหนึ่งสิ่งที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ในการตามหาข้าวของให้ง่ายและสมาร์ท Galaxy SmartTag2 กับดีไซน์ใหม่ที่พร้อมใช้ในทุกบริบทการใช้งาน และอัปเกรดประสิทธิภาพให้เก่งรอบด้านมากกว่าที่เคย

 

 

“เราเสาะหาวิธีการที่จะทำให้ชีวิตของผู้คนสะดวกสบายขึ้นผ่านนวัตกรรมชั้นนำของ Samsung Galaxy อย่างต่อเนื่อง” แจยอน จุง รองประธานบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SmartThing ของซัมซุงกล่าว “ด้วย Galaxy SmartTag2 เราต้องการสร้างความมั่นใจว่าผู้ใช้ Samsung Galaxy จะสามารถหาสิ่งของของตนได้พบด้วยวิธีการที่ง่ายและสะดวก และด้วยแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ยาวนานขึ้น Galaxy SmartTag2 ก็จะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกสบายใจไร้กังวลได้มากขึ้น นานขึ้น และในหลากหลายสถานการณ์มากยิ่งขึ้น”

 

คุณสมบัติที่ใครๆ ก็ใช้ได้ ช่วยให้การค้นหาสิ่งของที่สูญหายกลายเป็นเรื่องง่ายและสมาร์ทกว่าที่เคย[1]

ด้วยโหมดการใช้งานใหม่ของ Galaxy SmartTag2 โหมดของหาย (Lost Mode)[2] ให้ผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลติดต่อเอาไว้ได้ในรูปแบบข้อความ หากใครพบสิ่งของที่ติด Galaxy SmartTag2 ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนของตนเองสแกนที่แท็กนั้น และจะเห็นข้อความของเจ้าของพร้อมด้วยข้อมูลติดต่อ ด้วยฟีเจอร์นี้การติด Galaxy SmartTag2 ไว้กับปลอกคอสัตว์เลี้ยงจึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีข้อมูลติดต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยเสมอในแทบทุกสถานที่ที่สัตว์เลี้ยงตัวนั้นตะลอนไป และโหมดของหายสามารถทำงานได้กับอุปกรณ์มือถือเครื่องใดก็ได้ที่มีระบบอ่าน NFC และมีเว็บเบราเซอร์ Galaxy SmartTag2 ยังมอบคุณสมบัติการตามหาด้วยเข็มทิศ (Compass View) โดยการแสดงลูกศรเพื่อชี้บอกทิศทางและระยะทางจากผู้ใช้ไปยัง Galaxy SmartTag2 ที่ตามหา สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟน Galaxy เครื่องใดก็ได้ที่รองรับเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ (UWB) เช่น Galaxy S23 Ultra[3]

 

แอป SmartThings Find ยังได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยเช่นกัน โดยที่ Galaxy SmartTag ที่ลงทะเบียนใหม่จะสร้างทางลัด (Shortcut) ไปยังแอปนี้ไว้บนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ จึงช่วยให้เปิด SmartThings Find ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในปัจจุบันแอปนี้ยังสามารถดูแผนที่ในแบบเต็มหน้าจอได้ และมีอินเทอร์เฟที่ใช้งานได้ง่าย ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ราบรื่นไร้รอยต่อได้มากยิ่งขึ้น และเมื่อเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟน Galaxy เครื่องใหม่ SmartTag2 ก็สามารถซิงค์กับสมาร์ทโฟน Galaxy ได้โดยอัตโนมัติด้วย Samsung Account

 

โหมดใหม่ช่วยยืดเวลาให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 700 วัน

 

Galaxy SmartTag2 ใช้งานได้นานยิ่งกว่าเดิมด้วยโหมดประหยัดพลังงานแบบใหม่ ซึ่งมาควบคู่กับโหมดการใช้งานปกติที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่ต้องพึ่งพา SmartTag ในการติดตามหาสิ่งของอย่างต่อเนื่อง โหมดประหยัดพลังงานสามารช่วยคงระดับพลังงานแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานในขณะที่ยังมั่นใจได้ว่าจะไม่คลาดสายตาไปจากสิ่งของนั้นๆโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของ Galaxy SmartTag2 สามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 700 วัน ซึ่งนานกว่า Galaxy SmartTag รุ่นก่อนๆ กว่า 2 เท่า และแม้ในโหมดการใช้งานปกติ แบตเตอรี่ก็สามารถให้พลังงานได้นานถึง 500 วัน หรือยาวนานขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ การสลับใช้งานไปมาระหว่างสองโหมดจะช่วยให้คอยติดตามสิ่งของมีค่าต่างๆ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตั้งแต่กุญแจรถยนต์ไปจนถึงรถจักรยาน

 

ดีไซน์สวยทันสมัย มอบความสะดวกในทุกการพกพาไปได้ทุกที่ยิ่งกว่าที่เคย

 

ขนาดใหม่ที่เล็กกระทัดรัดและดีไซน์รูปวงแหวนของ Galaxy SmartTag2 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงความง่ายในการใช้งาน ห่วงโลหะขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความทนทาน และการใช้โลหะที่ขอบด้านในวงแหวนเพื่อให้ความสะดวกในการใช้งาน สามารถรองรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ตัวหนีบหรือพวงกุญแจ และยังสามารถใช้ยึดติดกับกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเดินทางได้อีกด้วย

 

ความทนทานของ Galaxy SmartTag2 ยังได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67[4] ให้สามารถติดตามสิ่งของได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม เช่น ในการเดินทางกลางแจ้ง เจ้าของสัตว์เลี้ยงก็หมดกังวลได้ในเรื่องความทนทานของอุปกรณ์จากกิจกรรมในชีวิตประจำวันของสัตว์เลี้ยง มากไปกว่านั้น Galaxy SmartTag2 ยังรองรับโหมดใหม่ในการพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น เพื่อให้ผู้ใช้เก็บบันทึกข้อมูลการเดินเล่นกับเจ้าเพื่อนขนปุกปุยได้อย่างง่ายดาย

 

เพื่อความสบายใจที่ให้ได้มากกว่า

 

Galaxy SmartTag2 ยังคงเก็บฟีเจอร์ยอดนิยมหลายๆ อย่างของ Galaxy SmartTag1 และ Galaxy SmartTag+ เอาไว้ ทั้งการใช้ความสามารถของบลูทูธพลังงานต่ำ (Bluetooth Low Energy – BLE) และ UWB เพื่อใช้งานเทคโนโลยีการค้นหาแบบเสมือนจริง (Augmented Reality Find หรือ AR Find) ในการนำทางผู้ใช้งานไปยังสิ่งของด้วยกล้องในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy โดย Galaxy SmartTag2 สามารถทำงานได้ในระยะใกล้ ผ่านบลูทูธสูงสุดถึง 120 เมตร และ ค้นหาตำแหน่งของ Galaxy SmartTag2 ในระยะไกล ผ่าน SmartThings Find Network นอกจากนี้  Galaxy SmartTag2  ยังสามารถใช้ ควบคุมเครื่องใช้อัจฉริยะในบ้านได้ผ่านแอป SmartThings

 

ซัมซุงยึดมั่นในเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Samsung Galaxy อยู่เสมอ โดยที่ผู้อื่นจะทราบตำแหน่งของอุปกรณ์นี้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ SmartThings Find ยังเข้ารหัสข้อมูลผู้ใช้และรองรับ Samsung Knox เพื่อให้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้น ยิ่งไปกว่านั้นการปิดโหมดของหายจะเป็นการซ่อนข้อมูลการติดต่อของเจ้าของในทันที พร้อมกับลบข้อความที่เจ้าของอาจมีทิ้งค้างเอาไว้ออกจากตัวอุปกรณ์นั้นด้วย

 

สำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy บริการ SmartThings Find ยังสามารถมอบความปลอดภัยให้ได้ผ่านฟีเจอร์ “Unknown Tag Alert” ซึ่งฟีเจอร์นี้จะแจ้งเตือนหากมีการติดตามโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนหาก SmartThings Find ตรวจพบว่ามี SmartTag ที่ไม่รู้จักกำลังติดตามพวกเขาอยู่ ซึ่งช่วยปกป้องผู้ใช้และป้องกันไม่ให้เกิดการใช้การติดตามตำแหน่งอย่างไม่เหมาะสม

 

Galaxy SmartTag2 ทำงานร่วมกับ SmartThings Station ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SmartThings Find โดยเป็นเครื่องสแกนหาอุปกรณ์ประจำบ้านได้ตลอดเวลา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามสิ่งของมีค่าที่ติด SmartTag ไว้  SmartThings Station จะแจ้งตำแหน่งของสิ่งของที่ติดแท็กไว้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของส่วนตัว เช่น รีโมททีวี กระเป๋าสตางค์ กุญแจ ตลอดจนอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา และหูฟัง ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงก็จะได้รับการแจ้งเตือนด้วยเช่นกันเมื่อปลอกคอที่ติดแท็กเอาไว้เคลื่อนที่ห่างออกจาก SmartThings Station มากเกินไป ซึ่งมีส่วนช่วยพวกเขาในการคุมเจ้าเพื่อนขนปุกปุยให้อยู่ในระยะใกล้ๆ บ้าน

 

 

Galaxy SmartTag2 มีด้วยกันสองสี คือ สี Black และ สี White เริ่มจำหน่ายในวันที่ 4 ตุลาคมเป็นต้นไป ในราคา 990 บาท และมี Promotion ซื้อ 2 ชิ้นในราคา 1,490 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2566

 

[1] การใช้ Galaxy SmartTag2 ต้องลงชื่อเข้าใช้งาน Samsung Account และลงทะเบียนใช้งาน SmartThings Find. ต้องจับคู่ Galaxy SmartTag2 กับสมาร์ทโฟน Galaxy ที่รองรับเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ (UWB) และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 หรือเวอร์ชั่นที่สูงกว่าจึงจะใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้เต็มระบบ. ความแม่นยำอาจลดลงหากมีสิ่งกีดขวางระหว่างผู้ใช้กับแท็ก เช่น เมื่อแท็กอยู่ในลิ้นชัก อยู่หลังกำแพง หรืออยู่ในรถยนต์

[2] ข้อมูลติดต่อและข้อความที่แสดงบนโหมดของหายจะต้องได้รับการลงทะเบียนไว้ก่อนหน้าแล้วบนแอป SmartThings

[3] ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันที่รองรับ UWB ได้แก่ Galaxy Note20 Ultra, Galaxy S21+, Galaxy S21 Ultra, Galaxy S22+, Galaxy S22 Ultra, Galaxy S23+, Galaxy S23 Ultra, Galaxy Z Fold2, Z Fold3, Z Fold4, Z Fold5

[4] Galaxy SmartTag2 ได้รับมาตรฐาน IP67. อ้างอิงผลการทดสอบในสภาวะแวดล้อมของห้องปฏิบัติการ โดยแช่อยู่ในน้ำจืดในระดับความลึกสูงสุด 1 เมตรเป็นระยะเวลาสูงสุด 30 นาที. ไม่แนะนำให้ใช้กับกิจกรรมชายหาด สระว่ายน้ำ หรือน้ำที่มีลักษณะเป็นฟองสบู่. การป้องกันน้ำและฝุ่นของอุปกรณ์เป็นคุณสมบัติที่มิได้คงอยู่อย่างถาวรและอาจจะเสื่อมประสิทธิภาพลงเมื่อเวลาล่วงเลยไป

 

Update : 04/10/2023

Samsung Samsung Galaxy Tab S9 FE Samsung Galaxy SmartTag2





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy