ไขคำตอบ เทคโนโลยี Fast Charging ยิ่งชาร์จไว แบตยิ่งเสื่อมเร็ว จริงหรือ ?

สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วกันเสียส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้เร็วขึ้นนั่นเอง ซึ่ง OPPO Ace 2 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ดีที่สุดบนสมาร์ทโฟนในตอนนี้ โดยรองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุดถึง 65W และแบบไร้สายสูงสุด 40W เลยทีเดียว

จริงอยู่ที่เทคโนโลยีชาร์จเร็วช่วยทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มเร็วขึ้น แต่ถ้ามองแบบระยะยาวถือว่า ไม่ดีต่อแบตเตอรี่เท่าใดนัก โดยเรื่องนี้ ทาง OPPO ได้ยืนยันกับ Andrei F. จากสื่อ AnandTech เองว่า ระบบชาร์จเร็วส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ในระยะยาว ซึ่งระบุว่า ในระยะเวลาที่เท่ากันนั้น ระบบชาร์จเร็วขนาด 40W จะทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เหลือเพียง 70% เทียบกับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W ที่ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เหลือถึง 90% นั่นหมายความว่า ระบบชาร์จไวทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว โดยในปัจจุบัน มือถือ OPPO ส่วนรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 30W หรือสูงกว่านั้นแล้ว

และนี่น่าจะเป็นเหตุผลว่า ทำไมหลาย ๆ แบรนด์อย่าง Apple, Samsung รวมถึง OnePlus ถึงไม่เลือกเพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าวให้กับสมาร์ทโฟนของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น iPhone 11 Pro รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุดเพียง 18W ในขณะที่ Samsung Galaxy S20 Ultra แม้จะรองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุดที่ 45W แต่ในกล่องผลิตภัณฑ์นั้น แถม Adapter ขนาด 25W มาให้ เช่นเดียวกับ OnePlus ที่รองรับสูงสุด 30W

สำหรับคนที่ไม่เน้นเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อย อาจจะใช้งานสูงสุด 4 ปีถึงจะเปลี่ยน ระบบชาร์จเร็วจึงเป็นฟีเจอร์ที่ไม่แนะนำให้ใช้งาน เว้นเสียแต่ว่าคน ๆ นั้นจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนใหม่ทุกปี ก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบเท่าใดนัก แต่ทั้งนี้แนะนำว่า ให้ใช้งานตามความสะดวกของผู้ใช้จะดีกว่า

-------------------------------------
ที่มา : androidcommunity.com
เรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 13/05/2020

เทคโนโลยี Fast Charging