หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

สื่อนอกวิเคราะห์ iPhone 11 (iPhone XI) ควรจะต้องเพิ่มฟีเจอร์อะไรบ้างถึงจะโดนใจผู้ใช้มากที่สุด

ถ้าหากดูจาก Timeline ที่ผ่าน ๆ มา ปกติแล้ว Apple จะจัดงานอีเวนท์เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งถ้าหากนับจากช่วงเวลานี้ ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์แล้ว แต่นับจากการเปิดตัว iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ในปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ปีที่ดีนักสำหรับ Apple เนื่องจากมีรายงานยอดขายที่ลดลงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาที่แพงขึ้น, ไม่ค่อยมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ และผู้ใช้หันไปเลือกมือถือ Android ที่ราคาถูกกว่าและฟีเจอร์ครบครันกว่านั่นเอง ทำให้ในปีนี้ iPhone 11 (iPhone XI) เป็นรุ่นที่ถูกจับตามองอย่างมากว่า จะเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ยอดขายในครั้งนี้ได้หรือไม่ ล่าสุด ทางสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง cnet.com ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า ถ้าหาก Apple อยากให้ iPhone 11 ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย ควรจะต้องมีฟีเจอร์ใหม่อะไรบ้าง

 

แบตเตอรี่อึดขึ้น

อันที่จริงแล้ว Apple เองก็ปรับปรุงความสามารถของแบตเตอรี่บน iPhone มาโดยตลอดนับตั้งแต่เปิดตัว iPhone X เป็นต้นมา แต่เมื่อเทียบกับเรือธงคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy S10+, Huawei P30 Pro หรือแม้แต่ Samsung Galaxy Note 10+ ก็ยังถือว่าเป็นรองอยู่มาก ซึ่งบน iOS 13 นั้น ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานขึ้น อย่างเช่น Dark Mode ที่ถือว่าเป็นโหมดที่ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอให้กลายเป็นสีทึบ ทำให้จอ OLED ใช้พลังงานน้อยลง นอกจากนี้ ชิป Apple A13 จะถูกพัฒนาให้ประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน

 

หน้าจอแบบ OLED รุ่นอัปเกรดด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ

อันที่จริงแล้ว หน้าจอแบบ OLED บน iPhone X, iPhone XS และ iPhone XS Max ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหน้าจอของรุ่นคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy S10, Samsung Galaxy S10+, Samsung Galaxy Note 10, Samsung Galaxy Note 10+ ที่รองรับ HDR10+ หรือแม้แต่ OnePlus 7 Pro ที่หน้าจอมีอัตรา Refresh Rate สูงถึง 90Hz ก็ยังถือว่า หน้าจอ OLED ที่ใช้กับ iPhone นั้นยังเป็นรองอยู่มาก

โดยที่ผ่านมา ก็มีข่าวลือว่า iPhone 11 นั้น อาจจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอแบบ ProMotion Display แบบเดียวกับที่ใช้บน iPad Pro ซึ่งเป็นหน้าจอที่มีอัตรา Refresh Rate สูงมาก ประกอบกับข่าวลือที่ว่า iPhone รุ่นใหม่จะใช้ชื่อว่า iPhone 11 Pro กับ iPhone 11 Pro Max ส่งผลทำให้ข่าวลือนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้นไปอีก

 

แถมอุปกรณ์สำหรับชาร์จเร็วมาให้ในกล่องผลิตภัณฑ์

จริงอยู่ที่ iPhone รองรับระบบชาร์จเร็วได้มาตั้งแต่สมัยเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ในปี 2017 แต่ถ้าหากต้องการให้ iPhone ชาร์จได้เร็วขึ้น ผู้ใช้จะต้องเพิ่มเงินซื้อทั้งสาย USB-C to Lightning Cable และ Adapter ขนาด 18W เอง เนื่องจากในกล่องผลิตภัณฑ์นั้น ให้อุปกรณ์ชาร์จขนาด 5W มาให้เท่านั้น อีกอย่างก็คือ iPhone นั้น ถือว่าราคาค่อนข้างสูง แต่กลับให้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่สมราคามาให้ ฉะนั้น การเปิดตัวของ iPhone 11 ในปีนี้ ถ้าหากแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้แบบครบเซ็ต คงจะถูกใจผู้ซื้อไม่น้อย

 

กล้องหน้าที่ดีกว่านี้

กล้องด้านหน้า ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่ถูกใช้งานไม่น้อยไปกว่ากล้องด้านหลัง ซึ่งอันที่จริง กล้องหน้าของ iPhone XS, iPhone XS Max รวมถึง iPhone XR นั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเป็นไปได้ก็ควรจะปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้ ทั้งในเรื่องของรายละเอียดและคุณภาพของภาพถ่าย รวมถึงรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าที่ความละเอียดระดับ 4K อีกด้วย

 

อัปเกรดกล้องด้านหลัง

แม้ว่า iPhone ที่เปิดตัวในแต่ละปีจะถือว่าเป็นรุ่นเรือธง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นโดยเฉพาะในเรื่องของกล้องถ่ายรูป ยังถือว่าเป็นรองอยู่ เนื่องจากส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับกล้องด้านหลัง 3 ตัว หรือ 4 ตัวกันแล้ว แต่ในปีนี้น่าจะมีข่าวดีกันบ้าง เพราะจากข่าวลือที่ผ่านมาที่เผยว่า iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max จะอัปเกรดเป็นกล้อง 3 ตัว ส่วน iPhone 11 รุ่นสานต่อของ iPhone XR จะอัปเกรดเป็นกล้องคู่ และถ้าหากเพิ่มฟีเจอร์ Night Mode เข้ามาด้วย ก็คงจะดีไม่น้อย

 

ประสิทธิภาพของชิปเซ็ต Apple A13

แม้ฟีเจอร์ด้านกล้องถ่ายรูปยังตามหลังคู่แข่ง แต่สิ่งที่ Apple ไม่เป็นรองใครนั่นก็คือ ชิปเซ็ต จะเห็นได้จากการทดสอบ Benchmark ต่าง ๆ ของชิปเซ็ต Apple A12 Bionic บน iPhone XS Max ที่ยังสามารถเทียบชั้นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ในปีนี้อย่าง Qualcomm Snapdragon 855 ได้อยู่ ทำให้ชิปเซ็ต Apple A13 ที่จะเปิดตัวบน iPhone 11 นั้น เป็นอะไรที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียว

 

เรียกได้ว่า ฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้นนั้น คงจะมีข้อใดข้อหนึ่งที่ตรงใจผู้อ่านไม่น้อย ซึ่งการเปิดตัวของ iPhone 11 (iPhone XI) ในปีนี้ จะยิ่งใหญ่สมการรอคอยหรือไม่นั้น ติดตามกันได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

 

 

-------------------------------------
ที่มา : cnet.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 21/08/2019

iPhone 11 iPhone 11 Pro





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy