Cadenza ว่าที่สมาร์ทโฟนที่สุดแห่งความแรง จัดเต็มชิป Snapdragon 830 ถึง 2 ตัว RAM 12 GB กล้องหลัง 60 ล้าน ความละเอียด 6K จ่อเผยโฉมปี 2017

ปัจจุบันนี้สมาร์ทโฟนต่างก็แข่งขันกันด้วยความแรงของสเปค แต่ละแบรนด์ต่างก็อัดแน่นพลังในการประมวลผลและสมรรถนะอื่นๆ ลงไปในเรือธงของตัวเองกันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าการแข่งขันด้านสเปคเครื่องกำลังจะพัฒนาไปอีกขึ้นหนึ่งแล้ว กับ Cadenza ว่าที่สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Turing Robotics Industries (TRI) ที่มาพร้อมกับสเปคเครื่องที่สูงจนน่าตกใจ ด้วยชิปประมวลระดับท็อปผล 2 ตัว และ RAM ถึง 12 GB พร้อมเทคโนโลยีล่าสุดอีกมากมาย ที่รวมกันแล้วอาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่าคอมพิวเตอร์ PC บางเครื่องเสียอีก

TRI ได้วางแผนจะเปิดตัว Cadenza ในปี 2017 นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 830 SoC ถึง 2 ตัวด้วยกัน ซึ่งชิปรุ่นนี้มีแผนจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2017 ส่วนสาเหตุที่ Cadenza ต้องใช้ชิประดับท็อปถึง 2 ตัวนั้น ก็เพื่อให้ตัวเครื่องรองรับ RAM ที่มีมากถึง 12 GB ได้ ซึ่ง Snapdragon 830 1 ตัว สามารถรองรับ RAM ได้แค่ 8 GB เท่านั้น

สำหรับสเปคด้านอื่นๆ ก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน โดยมากับกล้องคู่ด้านหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และด้านหลังความละเอียด 60 ล้านพิกเซล คมชัดระดับ 6K รูรับแสง F1.2 และมีความจุภายใน 1 TB สามารถเพิ่มเติมได้อีกจาก microSD 2 ช่อง เพื่อรองรับการจัดเก็บภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูง นอกจากนี้ ยังคาดว่า Cadenza จะมีแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งพลังงานถึง 3 ทางด้วยกัน คือแบตเตอรี่ graphene superconductor ความจุ 2400 mAh, แบตเตอรี่ Li-Ion 1600 mAh และแบตเตอรี่ไฮโดรเจน รวมแล้วให้พลังงานถึง 100 wh (20000 mAh ที่ output 5V) เลยทีเดียว

นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ด้านซอฟต์แวร์ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Swordfish OS ที่สามารถเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) ได้, สามารถประมวลผลข่ายงานประสาท (neural network), ประมวลผลภาษาตามธรรมชาติ และมีเทคโนโลยี differential privacy (ระบบประมวลข้อมูลเชิงสถิติขั้นสูงเพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้โดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัว)

Cadenza มีสเปคเครื่องที่ดูค่อนข้างเกินจินตนาการไปสักหน่อย จึงเกิดคำถามว่า TRI จะผลิตสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตรุ่นนี้ออกมาจริงๆ หรือไม่ และผู้ใช้ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทรงประสิทธิภาพขนาดนี้จริงหรือ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป

--------------------------------------- 
ที่มา : PhoneArena
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 02/09/2016

Cadenza TRI