หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

Google เผย อนาคต AI จะไม่เข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ แต่จะมาช่วยมนุษย์ทำงานให้ได้ดีขึ้นมากกว่า

ถึงแม้ว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ AI ถูกพัฒนาจนก้าวล้ำไปอย่างมากจนปัจจุบัน จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันบางส่วนแล้ว เช่น ตรวจจับใบหน้าของน้องแมวบนรูปภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือใช้งานในบริการแปลภาษาจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อ AI กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความฉลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้ผู้คนบางส่วนอดสงสัยไม่ได้ว่า ในอนาคตเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมดหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าคงยังไม่ใช่ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เพราะหนึ่งในกูรูผู้คร่ำหวอดในวงการ ได้ออกมาเปิดเผยว่า จริงๆ แล้ว มนุษย์และ AI ต่างยังคงต้องพึ่งพากันอยู่ และที่สำคัญมนุษย์ต่างหากเป็นผู้ควบคุมระบบทั้งหมด

Mustafa Suleyman ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท DeepMind ก่อนที่จะถูก Google ขอเข้าซื้อในเวลาต่อมา ได้ทำการเปิดเผยว่า เขายังไม่เห็นว่าความก้าวหน้าของ AI กำลังมีผลกระทบต่อกลุ่มแรงงานแต่อย่างไร แต่จริงๆ แล้ว การเติบโตของ AI ต่างหากเป็นสิ่งที่ผู้คนควรจับตามองเป็นอย่างยิ่ง โดยเขาคาดการณ์ว่า มนุษยชาติยังคงห่างไกลจากผลกระทบของการที่ AI จะเข้ามาแทนที่ในตลาดแรงงานในสเกลขนาดใหญ่เป็นเวลานานอีกหลายทศวรรษ ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้อย่างเหมาะสมที่สุดด้วยการนำไปช่วยมนุษย์ด้านการทำงานมากกว่าจะเข้าไปทำงานแทนมนุษย์แบบสมบูรณ์

ก่อนที่ Suleyman จะผันตัวเข้าร่วมสร้าง DeepMind เมื่อปี 2010 ตัวเขาเองเคยได้ทำงานเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อนให้แก่องค์กรอย่าง สหประชาชาติ (United Nations) มาก่อน ซึ่งในขณะนั้นเองเหล่านักวิจัยด้านนโยบายต่างพ่ายแพ้ต่อจำนวนข้อมูลมากที่พวกเขาต้องลงมือจัดการเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อน จึงน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไม DeepMind จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยมนุษย์แก้ไขปัญหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น โดยหนึ่งในวิธีการที่ DeepMind เข้าไปช่วยเหลือได้นั้นคือการทำงานผ่านเทคนิคที่ชื่อว่า Deep Learning

Deep Learning เป็นอีกแขนงของเทคโนโลยี AI ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลให้แก่ระบบเครือข่ายเส้นประสาท (neural network) ทำให้ระบบซอฟท์แวร์ดังกล่าวสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองในด้านการจดจำแพทเทินของข้อมูลและนำมาประมวลผลอีกรอบหนึ่ง นอกจากนี้ การมาถึงของระบบคลาวน์ทำให้เหล่านักวิจัยสามารถพัฒนาระบบ deep learning ให้ก้าวล้ำยิ่งได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลตามที่ผู้ใช้งานต้องการรวมไปถึงการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว 

ที่ Google ได้เริ่มนำ deep learning ไปประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีบางส่วนของบริษัทแล้ว เช่น การลดจำนวนพลังงานที่ต้องใช้สำหรับทำให้เซิฟเวอร์เย็นลงเมื่อเกิดความร้อนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Suleyman ยังเปิดเผยด้วยว่า Google ได้พัฒนาเทคนิคบางอย่างเพื่อปรับใช้ระบบดังกล่าวให้เป็นไปในทิศทางที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นการลบล้างความกลัวที่ว่า สักวันหนึ่ง AI จะถูกปล่อยให้ทำงานตามใจชอบเหมือนดั่งที่หลายฝ่ายเชื่อกัน อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเทคนิคที่ว่านี้มีรูปแบบเป็นอย่างไร

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ Google ให้มนุษย์มีส่วนร่วมกับกระบวนการอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจได้ว่า AI จะไม่ทำอะไรที่มนุษย์ไม่ต้องการ เพราะท้ายที่สุดแล้ว "มนุษย์ยังคงเป็นผู้ควบคุมระบบในระดับสูงสุดอยู่ดี"

 

---------------------------------------
ที่มา : FORTUNE

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

 

Update : 25/10/2016

google AI DeepMind





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy