หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

ซื้อโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่ ทำไมต้องเลือกโน้ตบุ๊คซีพียู 11th Gen Intel® Core™ คุ้มค่าอย่างไร ?

ในยุคที่เน้นการทำงานที่บ้านหรือ Work From Home แบบนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่ทำงานในออฟฟิศ ก็คือ โน้ตบุ๊ค นั่นเอง ซึ่งการซื้อโน้ตบุ๊คสายทำงานไว้ใช้งานสักเครื่อง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ ซีพียู, ประสิทธิภาพในการใช้งาน และ ความสะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่

เมื่อพูดถึงโน้ตบุ๊คสายทำงาน หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงโน้ตบุ๊คตัวเครื่องใหญ่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องแลกมาด้วยตัวเครื่องที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งปัจจุบันความคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อทาง Intel ได้เปิดตัวชิปประมวลผลตัวใหม่อย่าง 11th Gen Intel® Core™ Processor ที่เข้ามาเปลี่ยนนิยามของคำว่า โน้ตบุ๊คสายทำงาน ให้กลายเป็นโน้ตบุ๊คบาง น้ำหนักเบา และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ไม่เสียบสายชาร์จ

มาดูกันดีกว่าว่า ซีพียู 11th Gen Intel® Core™ Processor มีดีอย่างไรสำหรับโน้ตบุ๊คสายทำงาน และการซื้อโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่ ทำไมต้องเลือกโน้ตบุ๊คที่ใช้ชิปประมวลผล 11th Gen Intel® Core™ Processor

 

11th Gen Intel® Core™ ไม่ได้มีดีแค่เรื่องประสิทธิภาพ

ซีพียู 11th Gen Intel® Core™ ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 10 นาโนเมตรแบบ SuperFin รวมถึงมีการออกแบบซีพียูแบบ System-on-Chip (SoC) ซึ่งรวมทั้งหมดไว้ในซีพียู อย่างเช่น GPU, AI, USB Controller และ Network Controller ทำให้โน้ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู 11th Gen Intel® Core™ มีความบาง และน้ำหนักเบา แต่โดดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพ ซึ่งรองรับความเร็วในการประมวลผลสูงสุดถึง 4.8 GHz เลยทีเดียว

โดยปกติแล้ว โน้ตบุ๊ครุ่นก่อน ๆ ถ้าหากไม่ได้เสียบสายชาร์จ จะมีการปรับระบบให้ทำงานได้ช้าลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ แต่ถ้าหากเป็นโน้ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู 11th Gen Intel® Core™ แม้ไม่ได้เสียบสายชาร์จ แต่ประสิทธิภาพในการทำงานของโน้ตบุ๊คก็ยังคงแรงเทียบเท่ากับตอนชาร์จไฟ เนื่องจากตัวซีพียูถูกออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำ จึงเหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่โดยไม่จำเป็นต้องพก Adapter ชาร์จแบตเตอรี่

 

ชิปกราฟิก Intel Iris Xe ถูกใจสาย Content Creator

เมื่อพูดถึงการ์ดจอแบบออนบอร์ด ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเหมาะสำหรับการใช้งานด้านงานเอกสารเท่านั้น แต่สำหรับโน้ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู 11th Gen Intel® Core™ รุ่น Core i5/i7 จะมาพร้อมกับชิปประมวลผลกราฟิกที่มีชื่อว่า Intel Iris Xe Graphics แม้ว่าจะไม่ใช่การ์ดจอแยก แต่ประสิทธิภาพของการ์ดจอแบบออนชิปของ Intel Iris Xe Graphics รุ่นนี้ เทียบเท่ากับการ์ดจอแยกเลยก็ว่าได้ โดยรองรับการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 8K ทำให้การตัดต่อหรือการเรนเดอร์เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะมีเทคโนโลยี  Intel® Quicksync Video ทำให้การ Import ไฟล์ทำได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเป็นการเล่นเกมออนไลน์ ก็ทำได้อย่างสบาย ๆ เช่นกัน

 

รองรับ AI ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งาน

ซีพียู 11th Gen Intel® Core™ รองรับเทคโนโลยี Intel® Deep Learning Boost ซึ่งมี AI ช่วยประมวลผลในตัว รองรับซอฟท์แวร์และโปรแกรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น โปรแกรม Microsoft Office หรือโปรแกรมในตระกูล Adobe ต่าง ๆ ซึ่ง AI จะเข้ามาเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้และเก็บข้อมูลต่าง ๆ เสมือนกับช่วยแบ่งเบางานของซีพียู ทำให้ซีพียูประมวลผลได้เร็วขึ้น และลดการใช้พลังงานอีกด้วย

 

รองรับการเชื่อมต่อไร้สายบนมาตรฐาน Wi-Fi 6 (Gig+)

สำหรับสายทำงาน การถ่ายโอนไฟล์ต่าง ๆ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งโน้ตบุ๊คที่ใช้ชีพียู 11th Gen Intel® Core™ นั้น รองรับการเชื่อมต่อไร้สายบนมาตรฐาน Wi-Fi 6 (Gig+) ซึ่งเร็วกว่า Wi-Fi เดิมถึง 3 เท่า รวมถึงยังรองรับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Thunderbolt 4 ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเร็วกว่า USB แบบเดิม ๆ ถึง 8 เท่า ตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบันที่ต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ อย่างเช่น ไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 4K เป็นต้น

 

ลองมาทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของโน้ตบุ๊คที่ใช้ชีพียู 11th Gen Intel® Core™ กันบ้าง ซึ่งโน้ตบุ๊คที่จะนำมาทดสอบกันในวันนี้ก็คือ HUAWEI MateBook 14 (2021) โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล 11th Gen Intel Core i5-1135G7 ความเร็ว 2.40 - 4.20 GHz, ชิปกราฟิกแบบออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics, หน่วยความจำ RAM ขนาด 16 GB แบบ Dual Channel และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ขนาด 512 GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home

 

HUAWEI MateBook 14 (2021) ใช้การ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง Intel Iris Xe Graphics รองรับการใช้งานกราฟิกทั้งแบบ 2 มิติและ 3 มิติ ตอบโจทย์การทำงานทั่วไป รวมถึงการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลระดับสูง อย่างเช่น การเรนเดอร์ และเกม 3 มิติ

 

ข้อดีของโน้ตบุ๊คที่ใช้ชิปประมวลผล 11th Gen Intel® Core ก็คือ ประสิทธิภาพในการประมวลผลจะไม่ drop ลงแม้จะใช้งานแบบไม่เสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ โดยจากการทดสอบเปรียบเทียบด้วยโปรแกรม CINEBENCH ทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอและซีพียูในการเรนเดอร์กราฟิก จะเห็นว่า ในขณะที่ไม่เสียบสายชาร์จ (ใช้แบตเตอรี่) กับเสียบสายชาร์จ คะแนนทดสอบที่ได้แทบจะไม่แตกต่างกัน ตอบโจทย์การทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูงได้อย่างสบาย ๆ

 

นอกจากเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานแล้ว HUAWEI MateBook 14 (2021) รุ่นนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับสายทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้งานมือถือ HUAWEI อยู่แล้ว ก็จะมีฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า HUAWEI Share ที่สามารถถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้สะดวก หรือจะแชร์หน้าจอจากมือถือไปยังโน้ตบุ๊ค ซึ่งฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะมือถือ HUAWEI ที่มี NFC และใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI เวอร์ชันใหม่

 

หน้าจอแสดงผลของ HUAWEI MateBook 14 (2021) มีขนาดอยู่ที่ 14 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล บนอัตราส่วน 3:2 โดยเป็นหน้าจอแบบสัมผัส ขอบบางเฉียบ ทำให้กล้อง Webcam ที่ควรติดตั้งอยู่ตรงขอบจอ ย้ายไปอยู่บนแป้นคีย์บอร์ดระหว่างปุ่มฟังก์ชัน F6 และ F7 ซึ่งเป็นกล้องแบบ Pop Up เปิดใช้งานด้วยการกด และกดปิดเมื่อไม่ใช้งาน

 

ทีมงานได้ลองทดสอบใช้งานด้านการเล่นเกมออนไลน์ เพื่อทำการพิสูจน์ว่า การ์ดจอแบบออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics จะรองรับการใช้งานได้ดีแค่ไหน ซึ่งเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ปรับการตั้งค่าในระดับสูงสุด พบว่า สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ได้เฟรมเรทอยู่ที่ราว ๆ 35-40 แต่ถ้าหากต้องการให้ลื่นกว่านี้ก็ปรับการตั้งค่าให้อยู่ในระดับกลาง ๆ แม้จะเล่นเกมแบบไม่เสียบสายชาร์จก็ยังเล่นได้อย่างลื่นไหล ส่วนฟังก์ชันการระบายความร้อนก็ทำได้ดี ตัวเครื่องไม่ร้อนจัด และไม่มีเสียงพัดลมดังรบกวน

ส่วนการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นใช้งานที่เน้นงานเอกสารเป็นหลัก หรือจะเป็นงานพวกคอนเทนต์ต่าง ๆ, การเรนเดอร์ภาพ หรือไฟล์วิดีโอ ด้วยสเปกที่มีอยู่บน HUAWEI MateBook 14 (2021) ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งหน้าจอยังเป็นแบบทัชสกรีน สามารถใช้การสัมผัสหน้าจอแทนการใช้เมาส์ในช่วงการพรีเซนต์งานได้ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีน้ำหนักที่เบา แบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างยาวนาน สามารถพกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องพก Adapter ชาร์จไฟ และยังคงใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้จะใช้พลังงานแบตเตอรี่ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะชิปประมวลผล 11th Gen Intel® Core™ Processor ที่อยู่ในตัวเครื่องนั่นเอง

 

สำหรับราคาของ HUAWEI MateBook 14 (2021) รุ่น RAM 16GB + SSD 512GB อยู่ที่ 32,900 บาท สามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศ หรือคลิกที่ https://bit.ly/2YhltfP

 

*บทความนี้เป็น Advertorial
#SponsoredByIntel 

 

 

-------------------------------------
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com

Update : 14/12/2021

11th Gen Intel Core





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy