WWDC 2017 : สรุปงานเปิดตัว iOS 11, macOS High Sierra, iMac Pro และ HomePod พร้อมไฮไลท์เด่นภายในงานตั้งแต่ต้นจนจบ มีอะไรน่าสนใจบ้าง

เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับงาน WWDC 2017 หรือ Worldwide Developers Conference ซึ่งเป็นงานรวมนักพัฒนาจากทั่วทุกมุมโลก ที่ Apple จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ถือว่า จัดเต็มและเต็มอิ่ม สำหรับทั้งนักพัฒนา และผู้ใช้ทั่วไปเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีการเปิดตัว iOS 11 และ macOS High Sierra แล้ว ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นก็คือ iPad Pro 10.5, iMac Pro และ HomePod ลำโพงอัจฉริยะ รวมไปถึงการอัปเกรดอุปกรณ์รุ่นใหม่ นั่นก็คือ MacBook และ iMac มาดูกันดีกว่าว่า ในงาน WWDC 2017 เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

เริ่มต้นงาน WWDC 2017 เมื่อ Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิล ได้ออกมาพูดถึงจำนวนคนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน WWDC ปีนี้ มีมากถึง 16 ล้านคน แต่สุ่มเลือกเหลือเพียง 5,300 คน

นักพัฒนาที่อายุน้อยที่สุด มีอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น โดยเริ่มเรียนรู้การเขียนโค้ดเมื่ออายุ 6 ขวบ และตอนนี้มีแอปฯ บน Store ทั้งหมด 5 แอปฯ ด้วยกัน ส่วนนักพัฒนาที่อายุมากที่สุด เป็นชาวญี่ปุ่น อายุ 82 ปี เพิ่งปล่อยแอปฯ ตัวแรกไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

เริ่มกันที่แพลทฟอร์มแรกกับ tvOS ล่าสุด แอปเปิล จับมือกับ Amazon เปิดตัว Amazon Prime บริการ Streaming แบบออนไลน์

ถัดมาเป็น watchOS 4 มีการอัปเดตหน้าปัดใหม่ เป็นตัวการ์ตูนจาก Toy Story, Siri Face เป็นหน้าฟีดกิจกรรมต่าง ๆ แบ่งแยกเป็นรายการเพื่อให้ดูง่ายขึ้น, เพิ่มระบบ sync ข้อมูลบน Apple Watch กับเครื่องออกกำลังกายยี่ห้อต่าง ๆ และปรับปรุงแอปฯ Apple Music บน Apple Watch รองรับการใช้งานร่วมกับหูฟังไร้สาย AirPods

โดย watchOS 4 เวอร์ชัน Beta สำหรับนักพัฒนา เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้

มาถึง macOS กันบ้าง กับการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ในชื่อ macOS High Sierra ซึ่งปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลัก ๆ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามาใหม่ 4 อย่างด้วยกัน ได้แก่

• Apple File System (APFS) มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย และความเสถียรของข้อมูลที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการวางรากฐานสำหรับนวัตกรรมด้านการจัดเก็บข้อมูลในอนาคต นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องข้อมูลเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับหรือระบบล่ม และรักษาความปลอดภัยให้กับไฟล์ด้วยการเข้ารหัส
• การรองรับมาตรฐาน HEVC (High-Efficiency Video Coding) (H.265) ช่วยยกระดับคุณภาพการสตรีมและเล่นไฟล์วิดีโอ 4K ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และยังทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงถึง 40% เมื่อเทียบกับมาตรฐาน H.264 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
• Metal 2 มาพร้อม API ที่ดียิ่งขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าเดิม ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มความเร็วให้กับแอปฯ ของตัวเองได้ และยังรองรับระบบ Machine Learning ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ใช้ในการรู้จำเสียงพูด การประมวลผลภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ
• Virtual Reality ครั้งแรกบน macOS High Sierra กับการรองรับการสร้างคอนเทนต์ VR โดยอาศัยประสิทธิภาพความแรงของ Metal 2 และฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Mac  ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเกม รวมทั้งคอนเทนต์ 3D และ VR ที่สวยงามสมจริงบน Mac ได้

โดย macOS High Sierra เปิดให้นักพัฒนาดาวน์โหลดไปทดสอบแล้ววันนี้ และจะเปิดแบบ Public Beta ปลายเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนจะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ดาวน์โหลดภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ รองรับบน MacBook Air, MacBok Pro, Mac mini, Mac Pro, MacBook และ iMac

เปิดตัว iMac 2017 รุ่นอัปเกรด โดยมีคุณสมบัติดังนี้

• ใช้ชิปเซ็ต Kaby Lake ความเร็ว 4.2 GHz  พร้อม Turbo Boost ความเร็วสูงสุด 4.5 GHz 
• รองรับหน่วยความจำมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า 
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่องเป็นแบบ Fusion Drive
• มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 3
• ด้านกราฟิก มาพร้อมกับ Radeon Pro 500 ที่มี vRAM สูงสุดถึง 8 GB โดยรุ่น 21.5 นิ้วจะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้น 3 เท่า ส่วนรุ่น 27 นิ้วจะเร็วขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์
• จอภาพที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ให้ความสว่าง 500 nits สว่างกว่ารุ่นก่อนหน้า 43% และรองรับ 1 พันล้านสี

สำหรับราคาของ iMac รุ่นอัปเกรด เริ่มต้นที่ 40,900 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Apple Online Store นอกจากนี้ ยังได้อัปเกรด MacBook Air รุ่นหน้าจอ 13 นิ้ว ใช้ชิปเซ็ตความเร็ว 1.8 GHz

เปิดตัว iMac Pro ผลิตภัณฑ์ที่ทรงพลังที่สุดในซีรี่ส์ Mac มีคุณสมบัติดังนี้

• ตัวเครื่องสีเทา Space Gray
• จอภาพแบบ Retina ความละเอียดระดับ 5K ขนาด 27 นิ้ว
• ซีพียู Intel Xeon สูงสุด 18-Core
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Radeon Pro Vega GPU และหน่วยความจำแบนด์วิดท์ (HBM2) แบบ On-package สูงถึง 16 GB
• รองรับ SSD ความจุสูงสุด 4 TB และหน่วยความจำ ECC ขนาดสูงสุด 128 GB
• Thunderbolt 3 มีมาให้ถึง 4 พอร์ต สามารถต่อ RAID Array ประสิทธิภาพสูงได้ถึง 2 เครื่องและต่อจอภาพ 5K ได้ 2 จอพร้อมกัน
• มาพร้อมกับ 10Gb Ethernet เชื่อมต่อบนเครือข่ายเร็วขึ้นถึง 10 เท่า

iMac Pro มีกำหนดการวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม

ไฮไลท์สำคัญของงาน กับการเปิดตัว iOS 11 ด้วยการอัปเกรดซอฟท์แวร์ครั้งใหญ่ที่สุดบน iPad พร้อมกับรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AR สรุปรายละเอียดสำคัญบน iOS 11 ดังนี้

▶▶ อ่านบทความเปิดตัว iOS 11 อย่างเป็นทางการจาก Apple ที่นี่

• App Store ออกแบบใหม่ ค้นหาแอปฯ และเกมง่ายขึ้นกว่าเดิม
• Control Center ออกแบบใหม่ เข้าถึงทุกการควบคุมได้ในหน้าเดียว
• Apple Maps เพิ่มแผนที่ภายในอาคารสำหรับสนามบิน และศูนย์การค้าหลักทั่วโลก
• เพิ่ม Do Not Disturb โหมดห้ามรบกวนขณะขับรถ
• เสียงพูดของ Siri ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และรองรับการใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม
• แพลทฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างประสบการณ์ AR กับ iPhone และ iPad
• Apple Music ออกแบบใหม่ ค้นหาเพลงง่ายขึ้น สร้างโปรไฟล์ให้เพื่อนติดตามได้
• AirPlay 2 มาพร้อมกับเสียงแบบ Multi-room สามารถควบคุมลำโพงด้วยการใช้ Control Center หรือผ่านแอปฯ Home ได้
• สำหรับ iPad มาพร้อมกับ Dock แบบใหม่ ช่วยทำให้เข้าถึงแอปฯ และเอกสารที่ใช้บ่อยได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

โดย iOS 11 เปิดให้นักพัฒนาดาวน์โหลดเวอร์ชัน beta แล้ววันนี้ และจะปล่อยเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

เปิดตัว App Store โฉมใหม่ ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดตั้งแต่ต้น ทำให้ค้นหาแอปฯ และเกมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปและเพิ่มเข้ามาบน App Store โฉมใหม่ ได้แก่

• Today เป็นแท็บเริ่มต้นของ App Store ที่จะรวมทั้งแอปฯ, เกม และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ บนโลกของแอปฯ โดยทีมบรรณาธิการของ App Store จากทั่วโลกจะแบ่งปันเรื่องราวเบื้องหลังของเกมและแอปฯ ต่าง ๆ 
• แอปฯ เกม ได้รับการออกแบบใหม่ โดยเพิ่มพื้นที่สำหรับหมวดเกมโดยเฉพาะ เพราะเกม ถือว่าเป็นหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะประกอบไปด้วยเกมใหม่ ๆ พร้อมอัปเดตต่าง ๆ ที่ผู้เล่นไม่ควรพลาด
• Updated สามารถดูได้ทันทีว่า แอปฯ ใช้ที่อยู่ มีอะไรอัปเดตบ้าง
• การค้นหาปรับปรุงใหม่ เพิ่มเรื่องราวของบรรณาธิการที่อยู่ใน Today พร้อมกับเพิ่มการค้นหาตามชื่อ, หมวดหมู่, นักพัฒนา หรือหัวข้อได้
• หน้าข้อมูลแอปฯ จะเพิ่มเนื้อหาสำคัญและดึงดูดใจไว้ด้านหน้า และตรงกลาง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการดาวน์โหลดของลูกค้า

ARKit เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่รองรับเทคโนโลยี AR ได้ และสมจริงมากขึ้น

เปิดตัว iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ที่มาพร้อมกับจอภาพที่ล้ำสมัยที่สุดด้วยเทคโนโลยี ProMotion และชิปเซ็ตทรงประสิทธิภาพอย่าง A10X Fusion โดย iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว ลดขนาดขอบจอลง 40% แม้จะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น แต่ตัวเครื่องอยู่ในขนาดที่กะทัดรัด และน้ำหนักเบาไม่เกิน 500 กรัม

▶▶ อ่านคุณสมบัติทั้งหมดเกี่ยวกับ iPad Pro รุ่นใหม่ ที่นี่

ปิดท้ายงาน WWDC 2017 กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ HomePod ลำโพงอัจฉริยะภายในบ้าน โดยเป็นลำโพงแบบไร้สาย ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Music ตัวเครื่องเป็นลำโพงวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ ให้เสียงเบสที่ทุ้มลึก พร้อมระบบควบคุมทิศทางเสียง ขนาดกะทัดรัด สูงไม่เกิน 7 นิ้ว ส่วนคุณสมบัติของ HomePod มีดังนี้

• ลำโพงวูฟเฟอร์แบบหันหน้าขึ้น ที่ทำงานร่วมกับชิป A8 ทำให้ได้เสียงเบสที่ทรงพลังและเพี้ยนน้อยที่สุด
• ลำโพงทวีตเตอร์แบบพิเศษ ความถี่สูง 7 ตัว มีแอมพลิไฟเออร์ในตัว ควบคุมทิศทางคลื่นเสียงได้ทุกรูปแบบ
• เทคโนโลยีการตรวจจับสภาพแวดล้อมภายในห้อง ทำให้ HomePod สามารถระบุตำแหน่งได้ว่า วางอยู่มุมไหนของห้อง พร้อมกับปรับเสียงให้สมบูรณ์แบบที่สุด
• ไมโครโฟน 6 ตัวพร้อมระบบตัดเสียงสะท้อน ช่วยให้ Siri รับคำสั่งได้อย่างถูกต้อง

▶▶ ​อ่านคุณสมบัติทั้งหมดเกี่ยวกับ HomePod ได้ที่นี่

---------------------------------------
เรียบเรียงข้อมูลโดย : techmoblog.com

Update : 06/06/2017

iOS 11 WWDC 2017