หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

ทำไม Virtual Reality (VR) เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงสุดล้ำแห่งยุค จึงอาจไปไม่รุ่งในปัจจุบัน ?

หากพูดถึงหนึ่งในเทคโนโลยีสุดล้ำแห่งยุคนี้ Virtual Reality (VR) หรือเทคโนโลยีแห่งโลกเสมือนจริง คงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนรู้จักและให้ความสนใจกันอย่างแน่นอน เนื่องจาก VR เปรียบเสมือนประตูให้เราก้าวสู่โลกแห่งใหม่อันไร้ขีดจำกัดด้านจินตนาการ ซึ่งความก้าวล้ำของ VR นี้แม้แต่ Mark Zuckerberg ซีอีโอแห่ง Facebook ก็ดูเหมือนว่าจะมีความตื่นเต้นไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกัน

โดยหลังจากได้เข้าซื้อกิจการ Oculus VR เมื่อปี 2014 เป็นมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาได้คาดการณ์อนาคตของ VR เอาไว้ว่า "พวกเรามายืนอยู่ในจุดที่สามารถเริ่มตั้งเป้าไปที่แพลตฟอร์ม VR ซึ่งมันจะกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ สร้างความบันเทิง และเปิดประสบการณ์ของผู้ใช้งาน อีกทั้ง VR จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนนับล้านคน"

อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านพ้นไปเกือบ 3 ปี ซีอีโอแห่ง Facebook รายนี้กลับลำยอมรับว่า Virtual Reality ไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับที่ตัวเขาเคยคิดเอาไว้เท่าไหร่นัก โดยเรื่องที่ Mark Zuckerberg ได้กล่าวเอาไว้นั้นค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควร เพราะหากเราย้อนกลับไปดูเมื่อช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีเบาะแสหลายอย่างได้บ่งชี้เอาไว้ว่า VR กลายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเหมือนกับที่ทุกคนเคยคิดเอาไว้เท่าไหร่นัก อีกทั้ง อาจมีแนวโน้มเหมือนกับ Smartwatch หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวมาเข้าแข่งขันบนแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จเมื่อถูกเผยโฉมสู่โลกแห่งความเป็นจริง 

Oculus Rift

โดยเมื่อครั้งตอนเปิดตัว Oculus Rift และ HTC Vive เกมหรือแอปพลิเคชันที่โดดเด่นยังไม่ค่อยปรากฏออกมาให้เห็นเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ ปัญหาด้านราคาของอุปกรณ์ดังกล่าวยังเป็นหนึ่งในกำแพงที่ขวางกั้นการเข้าถึงของผู้ใช้งานด้วย โดยตัวแว่น VR มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 21,000 บาท และตัวเลขยังสามารถพุ่งสูงได้อีกหากคุณต้องการรีโมทควบคุม รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ อีกทั้ง ผู้ใช้งานยังต้องมีคอมพิวเตอร์ที่แรงพอสมควรเพื่อให้ประสบการณ์ใช้งาน VR เป็นไปอย่างลื่นไหล ซึ่งรวมๆ แล้วต้องจ่ายค่า PC เพิ่มอีกประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17,000 บาทเลยทีเดียว

PlayStation VR

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ของ VR กับวงการ PC อาจดูเหมือนติดขัดไปบ้าง แต่ Sony ยักษ์ใหญ่แห่งฝั่งคอนโซล ได้ตบเท้าเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นแห่งโลก VR เช่นเดียวกัน และดูเหมือนว่าอาจเป็นผู้กอบกู้เทคโนโลยีดังกล่าว ด้วยการเปิดตัว PlayStation VR ประตูสู่โลกเสมือนจริงชิ้นใหม่ที่สามารถทำงานร่วมกับเครื่องเล่น PlayStation 4 ที่วางจำหน่ายหลายล้านเครื่องทั่วโลก ทำให้สังเวียนนี้ Sony ดูจะได้เปรียบพอสมควร อย่างไรก็ดี PlayStation VR กลับประสบปัญหาเดียวกับที่ HTC Vive และ Oculus Rift เคยพบเจอ นั่นก็คือ ยังไม่มีเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงคอนเทนท์อื่นๆ ให้เล่นมากนักบนแพลตฟอร์มดังกล่าว

นอกเหนือจากสถานการณ์ของฝั่ง PC และคอนโซลแล้ว วงการสมาร์ทโฟนก็กำลังประสบปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ทาง Google ได้ลดราคาแว่น Daydream View ลงจากเดิมเหลือเพียง 49 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,700 บาท) จากเดิมที่เคยตั้งราคาไว้ 79 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,700 บาท) หลังวางจำหน่ายครั้งแรกได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น สำหรับสาเหตุที่ทำให้ Google ต้องออกมาแก้เกมด้วยวิธีการดังกล่าวนั้น ตามรายงานจาก The Information ระบุว่า ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ Search Engine รายนี้รู้สึก "ผิดหวัง" กับตัวเลขผู้ใช้งานของอุปกรณ์

ยอดขายโดยประมาณของอุปกรณ์ VR เมื่อช่วงสิ้นปี 2016

นอกจากนี้ ตัวเลขด้านยอดขายของอุปกรณ์ VR ก็น่าเป็นห่วงเช่นเดียวกัน ตามรายงานของ SuperData บริษัทวิจัยด้านการตลาดได้เปิดเผยให้เห็นว่า PlayStation VR ทำยอดขายได้น้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว 

เมื่อปีที่แล้ว ผู้ใช้งานอาจมีความรู้สึกว่า เรากำลังจะก้าวไปสู่ยุคสมัยใหม่เหมือนกับที่ Mark Zuckerberg เคยพูดเอาไว้เมื่อปี 2014 เนื่องจากเริ่มผู้ผลิตรายใหญ่เริ่มป้อนอุปกรณ์ VR ลงเข้าแข่งขันบนท้องตลาดอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าะจะเป็น Oculus, Sony และ HTC แต่ในปัจจุบัน เรื่องราวของ VR กลับเปลี่ยนไป ซึ่งถึงแม้ว่าในขณะนี้มันอาจจะเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ที่ค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกม แต่ทว่า VR ก็เป็นเพียงก้าวแรกเพื่อเดินเข้าไปสู่แพลตฟอร์มชนิดใหม่เท่านั้น เช่น Augmented Reality (เทคโนโลยีผสานโลกความจริงให้เข้ากับโลกเสมือนจริง) หรือการสร้างภาพแบบดิจิทัลให้เกิดขึ้นจริงบนโลกนี้ด้วยโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์สวมใส่ (เช่น Microsoft HoloLens)

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าในขณะนี้อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และอนาคตของ VR จะยังไม่แน่ชัดว่าจะถูกพัฒนาให้เป็นไปในทิศทางใดต่อไป จะล้ำหน้าขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ หรืออาจมีการนำไปใช้งานร่วมกับนวัตกรรมชนิดอื่นกันแน่ แต่ว่าในช่วงเวลาที่ VR ยังคงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ต้องแข่งขันบนท้องตลาดนั้น เราคงต้องจับตาดูความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแห่งโลกเสมือนจริงกันต่อไปครับ

--------------------------------------- 
ที่มา : Business Insider

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

 

Update : 23/01/2017

VR Virtual Reality





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy