หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

รีวิว (Review) Canon EOS M10 X Rilakkuma กล้องถ่ายภาพแบบ Mirrorless ที่เซลฟี่ได้ขาวสวยเนียนใส และคมชัดทุกรายละเอียด ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS APS-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล, จุดโฟกัส 49 จุด, จอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว พับได้ 180 องศา พร้อมแชร์ภาพลงโซเชียลได้ทันทีด้วย Wi-Fi Direct บนบอดี้ขนาดกะทัดรัด พกติดตัวไปได้ทุกที่! (ตอนที่ 1/2)


 

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบทีมงาน TechmoBlog กับการรีวิว Gadget สุดเด็ดในช่วงนี้กันอีกครั้งนะครับ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้การถ่ายภาพได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในชีวิตประจำวันของแต่ละคนไปแล้ว ซึ่งการที่กล้องถ่ายภาพได้เข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นเป็นเพราะการผนวกรวมเทคโนโลยีกล้องเข้ากับโทรศัพท์มือถือที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวัน ทำให้เกิดเป็นการปฏิวัติวงการถ่ายภาพครั้งใหญ่ที่ไม่ว่าใครๆ ก็เป็นช่างภาพได้โดยไม่ต้องซื้อกล้องตัวใหญ่ๆ หรือกล้องจริงๆ ที่มีราคาแพงกว่าสมาร์ทโฟนหลายเท่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพบางส่วนเริ่มรู้สึกว่าการใช้งานกล้องสมาร์ทโฟนมีข้อจำกัดหลายอย่างในการถ่ายภาพที่ไม่อาจเทียบเท่ากล้องจริงๆ ได้ แต่ถ้าจะให้ซื้อกล้องโปรระดับ DSLR ก็จะมีปัญหาเรื่องการพกพา เพราะกล้อง DSLR มักมีขนาดใหญ่, น้ำหนักมาก อีกทั้งยังมีเรื่องของเลนส์, ชุดอุปกรณ์ดูแลอีกเยอะแยะมากมาย รวมไปถึงผู้ที่ใช้ก็ต้องมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยเช่นกัน และที่สำคัญคือ ราคาที่ค่อนข้างสูงทั้งตัวกล้อง และตัวเลนส์ ดังนั้น ผู้ใช้จึงเริ่มมองหาตลาดกล้องรูปแบบใหม่ที่พกพาง่าย สะดวก และให้ไฟล์ภาพที่ดี ซึ่งตลาดกล้องประเภท Mirrorless ที่มีน้ำหนักเบาเท่ากล้อง Compact แต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่า DSLR จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

หนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Canon ที่ถือเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการกล้องถ่ายภาพก็เริ่มสนใจตลาด Mirrorless ที่เป็นกลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะต้องการภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงกว่าสมาร์ทโฟน และเน้นฟีเจอร์ให้ใช้งานได้หลากหลาย Canon จึงส่งกล้องถ่ายภาพ Mirrorless รุ่นล่าสุดในชื่อ Canon EOS M10 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล EOS M Series ลงสู่ตลาดกล้อง โดยพกพาคุณภาพไฟล์แบบกล้อง DSLR มาเต็มพิกัด แต่ใช้งานง่ายเหมือนกล้อง Compact มาท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น บอดี้ขนาดเล็กกะทัดรัด และมีน้ำหนักเพียง 301 กรัม, เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล, ระบบ Autofocus Hybrid CMOS AF II หรือจอภาพแบบ TFT ขนาด 3 นิ้ว รองรับระบบ Touch Screen และสามารถปรับหมุนได้ 180 องศา เพื่อการถ่ายภาพเซลฟี่โดยเฉพาะ และที่สำคัญ Canon EOS M10 ยังมี Wi-Fi และ NFC ในตัวซึ่งสามารถแชร์ภาพลง Facebook หรือจะส่งภาพเข้าสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้ในทันทีเช่นกัน

และในวันนี้ทีมงาน TechmoBlog มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน Canon EOS M10 พร้อมเลนส์  EF-M 15-45mm 1:3.5-6.3 IS STM และจะพาทุกท่านมารับชมกันว่า กล้อง Mirrorless จาก Canon รุ่นนี้มีดีอย่างไร ทำไมถึงเหมาะกับผู้ใช้ทั้งมือใหม่ และมือเก๋า โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่เป็นหลัก หากทุกท่านพร้อมแล้ว ติดตามชมการรีวิว (Review) Canon EOS M10 พร้อมเลนส์ EF-M 15-45mm 1:3.5-6.3 IS STM ไปพร้อมกันได้เลยครับ
 

 

คุณสมบัติเบื้องต้นของกล้อง Canon EOS M10

- ตัวกล้องมีขนาด 108x66.6x35 มิลลิเมตร น้ำหนัก 301 กรัม (รวมเลนส์ และแบตเตอรี่)
- หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 3.0 นิ้ว พร้อมระบบ Touch Screen และสามารถปรับหมุนได้ 180 องศา
- เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพแบบ JPEG และ RAW
- ระบบโฟกัสภาพแบบ Autofocus Hybrid CMOS AF II และมีจุดโฟกัสทั้งหมด 49 จุด
- ค่าความไวแสง (ISO) 100-12800 สามารถขยายเพิ่มได้ถึง ISO 25600
- ความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter) เร็วที่สุด 1/4000 วินาที ช้าที่สุด 30 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 4.6 ภาพ/วินาที
- ไฟแฟลชแบบ Pop-Up
- รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- ฟิลเตอร์ตกแต่งภาพทั้งหมด 7 แบบ (Grainy B/W, Soft focus, Fish-eye effect, Art bold effect, Water painting effect, Toy camera effect และ Miniature effect)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n ระยะใช้งานประมาณ 15 เมตร (หากเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต) และ NFC
- แบตเตอรี่ LP-E12 ความจุ 875 mAh ใช้ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องประมาณ 255 ภาพ

 

รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์ของ Canon EOS M10

Canon EOS M10 มาพร้อมกับบอดี้ขนาด 108x66.6x35 มิลลิเมตร น้ำหนัก 301 กรัม (รวมเลนส์ และแบตเตอรี่) โดยวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติก และมีดีไซน์ที่ค่อนข้างมน ทำให้ในครั้งแรกอาจจับถือไม่ค่อยถนัดนัก โดยเฉพาะในส่วนด้านขวาที่ใช้จับถือ บริเวณด้านหน้าจะเป็นพื้นผิวเรียบ ไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาเพื่อใช้นิ้วยึดเกาะ จึงอาจจะทำให้ลื่นหลุดมือได้ในบางครั้ง
 

ด้านหน้าของตัวกล้องจะมีโลโก้แบรนด์ Canon, โลโก้ EOS, ปุ่มกดสำหรับการถอดเปลี่ยนเลนส์, ไฟ LED นำโฟกัส และ Mount สำหรับใส่เลนส์


เลนส์คิตของ Canon EOS M10 ที่แถมมาให้ คือ EF-M 15-45mm 1:3.5-6.3 IS STM เส้นผ่านศูนย์กลางหน้าเลนส์ 49 มิลลิเมตร โดยเลนส์ที่ใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless ของ Canon ได้จะมีสองตระกูลคือ EF-M และ EF แต่ก็สามารถนำเลนส์ในตระกูล EF-S มาใช้งานได้เช่นกันด้วยการใช้อะแดปเตอร์แปลงเมาท์ EF-EOS M

*หมายเหตุ - IS คือระบบป้องกันภาพสั่นไหว ส่วน STM คือมอเตอร์โฟกัสที่เปลี่ยนโฟกัสได้ลื่นไหล, ไม่กระตุก และไม่มีเสียงรบกวนจากมอเตอร์เวลาโฟกัสภาพ เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอ


เซ็นเซอร์รับภาพของ Canon EOS M10 เป็นแบบ CMOS ขนาด ASP-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพแบบ JPEG และ RAW พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ Autofocus Hybrid CMOS AF II และมีจุดโฟกัสทั้งหมด 49 จุด


จุดเด่นอีกส่วนหนึ่งของ Canon EOS M10 คือมีปุ่มสั่งการค่อนข้างน้อย ดูแล้วไม่สับสนมากนัก โดยด้านบนจะมี แฟลชแบบ Pop-Up, ไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อ USB, วงแหวนปรับโหมด โดยมีให้เลือก 3 โหมด คือ ถ่ายวิดีโอ, โหมดถ่ายภาพกึ่งอัตโนมัติ และโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ พร้อมปุ่ม เปิด-ปิด กล้อง (วงกลมวงเล็กตรงกลางด้านใน), ปุ่มชัตเตอร์ พร้อมวงแหวนปรับค่าการถ่ายภาพ และปุ่มกดถ่ายวิดีโอ


ด้านซ้ายของตัวกล้องจะมีปุ่มใช้งานแฟลชแบบ Pop-up, ช่องเชื่อมต่อสาย USB กับสาย HDMI สำหรับต่อออกจอโทรทัศน์ หรือจอคอมพิวเตอร์ และช่องใส่ SD Card


ด้านขวาของตัวกล้องมีปุ่มเปิดใช้งาน Wi-Fi Direct และสัญลักษณ์ NFC ที่สามารถส่งไฟล์ภาพจากกล้องเข้าสู่สมาร์ทโฟนได้ทันที


ด้านล่างเป็นช่องใส่แบตเตอรี่แบบ LP-E12 ความจุ 875 mAh ใช้ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องประมาณ 255 ภาพ


ด้านหลังเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 3.0 นิ้ว พร้อมระบบ Touch Screen และสามารถปรับหมุนได้ 180 องศา ส่วนด้านข้างเป็นปุ่มเมนูสำหรับการกดใช้งานต่างๆ ที่ดูแล้วค่อนข้างเรียบง่าย ทำให้ผู้ใช้ที่เป็นมือใหม่จะไม่ค่อยสับสนเท่าใดนัก เพราะการสั่งงานส่วนใหญ่จะใช้การ Touch Screen บนหน้าจอได้ทันที


แฟลช Pop-Up ของ Canon EOS M10 สามารถใช้นิ้วดันไปด้านบนเพื่อ Bounce แสงกับเพดานได้


เรียกได้ว่าบอดี้ของ Canon EOS M10 นั้นมีน้ำหนักที่เบา, ขนาดเล็กกะทัดรัด และสะดวกต่อการพกพาเป็นอย่างมาก รวมถึงกรณีที่ผู้ใช้เป็นสุภาพสตรี และมีมือที่ค่อนข้างเล็ก ก็สามารถจับถือตัวกล้องด้วยมือข้างเดียวได้อย่างง่ายดาย


เปิดกล้องทดสอบการใช้งาน และฟังก์ชันต่างๆ

เมื่อกดปุ่มเปิดกล้องเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้จะยังไม่สามารถถ่ายภาพได้ทันที เพราะตัวเลนส์คิตจะถูกเก็บอยู่ในตำแหน่งล็อก ซึ่งผู้ใช้ต้องทำการดันสลัก และหมุนปลดล็อกเลนส์เสียก่อน จึงจะสามารถถ่ายภาพได้ตามปกติ


เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับเมนูต่างๆ บนหน้าจอ ซึ่งสามารถสัมผัสเพื่อตั้งค่าต่างๆ ได้ทันที หากกดตรง Av จะเป็นการเลือกโหมดถ่ายภาพแบบต่างๆ


โหมดถ่ายภาพของ Canon EOS M10 มีให้เลือกตั้งแต่โหมดการถ่ายภาพระดับโปรทั้ง M, Av, Tv และ P ส่วนถัดลงมาด้านล่างจะเป็นโหมดสำหรับการถ่ายภาพในแบบต่างๆ ที่มีให้เลือกสรรอย่างมากมาย ใครที่ไม่เคยใช้กล้องมาก่อนก็สามารถทำความเข้าใจ และเลือกโหมดตามแนวภาพที่ต้องการจะถ่ายได้ทันที


เรามาดูกันในโหมด ช่วยภาพสร้างสรรค์ (Creative Assist) ที่เป็นจุดเด่นจุดหนึ่งของ Canon EOS M10 กันดีกว่า


สำหรับโหมด ช่วยภาพสร้างสรรค์ (Creative Assist) มีจุดเด่นตรงที่ผู้ใช้สามารถปรับโทนสีของภาพได้จากตัวกล้องทันที เหมาะสำหรับสาวๆ หรือใครก็ตามที่ชอบถ่ายภาพแบบคุมโทน พร้อมทั้งสามารถแชร์รูปลงโซเชียลได้จากตัวกล้องแบบไม่ต้องผ่านมือถืออีกด้วย


หากจะทำการปรับค่า หรือปรับสีต่างๆ ให้กดปุ่ม SET ตรงกลางก็จะปรากฏขึ้นเมนูการปรับตั้งค่าขึ้นมา โดยจะมีให้ปรับ ดังนี้ พื้นหลัง (ชัด-เบลอ), ความสว่าง, ความเปรียบต่าง, ความอิ่มตัวของสี, โทนสี และฟิลเตอร์แบบต่างๆ


เมื่อทำการปรับสี ปรับโทนของภาพเสร็จแล้ว ผู้ใช้สามารถบันทึกโทนสีดังกล่าวเก็บไว้ในตัวกล้องได้ด้วย


การบันทึกโทนสีก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่ม SET และเลื่อนไปที่เมนู จัดเก็บการตั้งค่า (มุมซ้ายบน) ซึ่งเราสามารถบันทึกโทนสีได้สูงสุดถึง 6 โทนสี ด้วยกัน หากสล็อตของโทนสีหมายเลขนั้นๆ มีการบันทึกโทนสีก่อนหน้าอยู่ จะมีการแสดงเมนูขึ้นมาให้เราเลือก คือ เปรียบเทียบ หรือบันทึก ซึ่งเราสามารถเทียบโทนสีที่บันทึกไว้ กับโทนสีใหม่ได้ด้วย


เมื่อถ่ายภาพเรียบร้อยแล้ว หากจะดูภาพที่ถ่ายไว้ให้กดไปที่ ปุ่มไอคอนสามเหลี่ยมตรงบริเวณด้านขวาล่างก็จะปรากฏภาพทั้งหมดที่ถ่ายขึ้นมาให้ชมกัน วิธีการเลื่อนดูภาพสามารถทำได้ทั้งการกดแป้นวงกลมด้านขวา หรือจะใช้นิ้วสไลด์หน้าจอก็ทำได้เช่นกัน


หากต้องการจะตรวจสอบว่าภาพที่ถ่ายมานั้นมีการตั้งค่าอย่างไรก็สามารถกดดูได้ที่ ปุ่ม INFO โดยหน้าจอจะแสดงรายละเอียแบบต่างๆ ขึ้นมาให้ดูทั้งหมด


หากต้องการลบภาพให้กดที่แป้นวงกลมด้านบนที่มีไอคอนรูปถัง จากนั้นก็เลือกลบภาพได้ทันที


ในเมนูการแสดงภาพถ่าย หากกดที่ปุ่ม SET จะมีเมนูย่อยอื่นๆ ปรากฏขึ้นมาอีก เช่น การใส่เอฟเฟกต์ภาพแบบอื่นๆ, การลดขนาดภาพ, การตัดภาพ (Crop) และฟังก์ชันสำคัญ นั่นก็คือ ฟังก์ชัน Wi-Fi สำหรับการอัปโหลดภาพเข้าโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook ได้ทันที


สำหรับการอัปโหลดภาพลง Facebook จากตัวกล้องนั้น ผู้ใช้จะต้องทำการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ และลิงก์ข้อมูลบัญชี Facebook ของตนเองกับตัวกล้องก่อน โดยไปที่เว็บไซต์ https://ps.ciggws.net/iims-front/cig/loginIims.do จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ


เมื่อลงทะเบียนเสร็จสิ้น พร้อมทั้งเชื่อมต่อ Canon EOS M10 กับบัญชี Facebook ของผู้ใช้แล้ว จะปรากฏไอคอน Facebook ขึ้นมาดังภาพ ให้กดเข้าไป


จากนั้นจะเป็นการเลือกภาพที่จะอัปโหลด โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะลดขนาดภาพให้มีความละเอียดต่ำ เพื่อสะดวกต่อการอัปรูปหรือไม่ รวมไปถึงสามารถตั้งแคปชั่นจากตัวกล้องได้ทันที (ไม่มีคีย์บอร์ดภาษาไทย) และเลือกโพสต์ภาพที่เลือกไว้ได้ทันที (จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi หรือ Hot-Spot)


แต่ถ้าหากผู้ใช้ต้องการส่งรูปจากกล้องเข้าสมาร์ทโฟนของตนจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Canon Camera Connect มาก่อน แล้วให้กดที่ปุ่มด้านขวาของตัวกล้องที่เป็นสัญลักษณ์สมาร์ทโฟน โดยสมาร์ทโฟนที่จะใช้งานต้องเปิด Wi-Fi ด้วย จากนั้นจะมีชื่อ Wi-Fi Direct ของกล้องปรากฏขึ้นมา เช่น Canon EOS M10 xxxx ซึ่งตัวเลขด้านหลังจะเป็นรหัสกล้อง


เมื่อเชื่อมต่อกล้องกับสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว ให้เข้ามาในแอปพลิเคชัน แล้วเลือกที่ Images on camera จากนั้นก็เลือกรูปที่ต้องการ และกด Save รูปก็จะถูกส่งเข้าสู่สมาร์ทโฟนทันที (ถูกลดขนาดลงบ้างเล็กน้อย)


นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน Canon Camera Connect ยังสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนให้เป็นชัตเตอร์ของกล้องได้ด้วยเมนู Remote Shooting เหมาะสำหรับการวางสมาร์ทโฟนไว้ และถ่ายรูปเซลฟี่ หรือถ่ายรูปคู่โดยไม่ติดแขนผู้ถ่ายได้อย่างง่ายดาย (สามารถเลือกจุดโฟกัสผ่านมือถือ แต่จะไม่สามารถปรับค่าใดๆ ผ่านมือถือได้)


มาต่อกันที่โหมด Selfie Portrait ที่เป็นจุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของ Canon EOS M10 เลยก็ว่าได้ เพราะในโหมดนี้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพให้มีความขาวเนียนได้ทันที ซึ่งมีให้ปรับสามหมวดด้วยกัน คือ พื้นหลัง (คมชัด-เบลอ), ความสว่าง และผิวเนียน


จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Canon EOS M10 คงหนีไม่พ้นหน้าจอที่สามารถพับกลับขึ้นมาได้ 180 องศา ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องง่ายดายอย่างมาก อีกทั้งเลนส์ EF-M 15-45mm ก็ยังสามารถเก็บภาพโดยรอบมาได้กว้างพอสมควร ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายเซลฟี่เป็นกลุ่มแต่อย่างใด


ภาพถ่ายตัวอย่างจาก Canon EOS M10 ด้วยเลนส์ EF-M 15-45mm 1:3.5-6.3 IS STM ด้วยโหมด Creative Assist และ Selfie Portrait

*หมายเหตุ - ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นไฟล์ดั้งเดิม หรือไฟล์ที่ปรับแต่งภายในตัวกล้อง ไม่ผ่านการปรับแต่งแสง และสีด้วยโปรแกรมภายนอกใดๆ ทั้งสิ้น
 

ตัวอย่างภาพถ่ายในโทนสีต่างๆ จากโหมด Creative Assist

ตัวอย่างภาพถ่ายแบบไม่ใช้โหมด Selfie Portrait

 

สรุปการใช้งานเบื้องต้นของ Canon EOS M10


เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับกล้อง Canon EOS M10 รุ่นใหม่ล่าสุดในขณะนี้ หลังจากที่ทีมงานได้ทดลองใช้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ต้องขอบอกเลยว่า Canon EOS M10 ออกแบบมาให้ผู้ใช้มือใหม่เข้าใจตัวกล้องได้ง่ายมาก เพราะหน้าจอเป็นระบบ Touch Screen ดังนั้นจึงสามารถลดการใช้งานของปุ่มต่างๆ ลงไปได้เยอะ ทำให้ผู้ใช้ที่เป็นสุภาพสตรี หรือผู้ที่ไม่สันทัดด้านเทคโนโลยีก็สามารถใช้งานได้คล่องแคล่วหลังจากถ่ายเล่นเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง ส่วนบอดี้กล้องนั้นก็ดีไซน์มาได้ทันสมัย และสวยงามอยู่ไม่ใช่น้อย แต่อาจจะมีลื่นหลุดจากมือบ้าง เพราะตัวกล้องค่อนข้างเล็ก คนมือใหญ่อาจถือได้ไม่ถนัดนัก

ประสิทธิภาพของเลนส์ EF-M 15-45mm 1:3.5-6.3 IS STM ที่เป็นเลน์คิตติดกล้องมานั้นก็ทำงานได้ดีตามมาตรฐานเลนส์คิตทั่วไป สามารถจับโฟกัสได้ฉับไว และเสียงมอเตอร์ขณะโฟกัสค่อนข้างเงียบ ส่วนระยะที่ให้มา 15-45mm ก็เพียงพอสำหรับการพกพาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หรือการใช้งานโดยทั่วไปแล้ว เพราะระยะ 15mm ก็ถือว่าค่อนข้างกว้างในระดับหนึ่ง สามารถถ่ายเซลฟี่โดยเก็บบรรยากาศโดยรอบมาได้ครบเกือบทุกรายละเอียด และซูมสุดระยะที่ 45mm ก็ถือว่าไกลในระดับหนึ่งเช่นกัน อาจจะไม่ไกลเทียบเท่าเลนส์เฉพาะทางอย่าง Telephoto หรือกว้างสุดเท่าเลนส์ Wide แต่เลนส์คิต EF-M 15-45mm ก็ถือว่าเป็นเลนส์ติดกล้องที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสไตล์ และมุมมองการถ่ายภาพของผู้ใช้ ส่วนค่ารูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/3.5 และ F ไหลไปจนถึง F/6.3 ที่ระยะ 45mm

ด้านคุณภาพของไฟล์ภาพที่ถ่ายมานั้นก็เรียกได้ว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานโดยทั่วไปมากๆ แล้ว เพราะความละเอียดระดับ 18 ล้านพิกเซลก็สามารถนำภาพที่ถ่ายไปอัดขยายให้เป็นรูปใหญ่ได้ แต่ถ้าหากเป็นการถ่ายภาพเพื่อลงโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ก็ถือได้ว่าความละเอียด 18 ล้านพิกเซลนี้สามารถใช้งานได้เต็มความสามารถ และเกินความต้องการแน่นอน ส่วนอีกฟังก์ชันหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับโลกออนไลน์ยุคปัจจุบัน นั่นก็คือ Wi-Fi Direct จากตัวกล้อง ที่นอกจากจะส่งรูปในกล้องเข้าสู่สมาร์ทโฟนได้แล้ว หากตัวกล้องมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็สามารถอัปโหลดรูปจากกล้องลง Facebook ได้ทันที โดยไม่ต้องส่งเข้ามือถือตัวเองก่อน ซึ่งรูปต่างๆ เหล่านั้นก็สามารถปรับแต่งโทนสี หรือรายละเอียดต่างๆ ภายในตัวกล้องได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชันที่โดนใจผู้ใช้มากเลยทีเดียว

สำหรับ Canon EOS M10 กล้อง Mirrorless ยอดฮิตในขณะนี้มีเวอร์ชันใหม่ออกวางจำหน่าย คือ Canon EOS M10 Rilakkuma Box Set ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่มาพร้อมกล้อง Canon EOS M10 และตุ๊กตา Rilakkuma รุ่น Limited Edition ลิขสิทธิ์แท้จาก San-X ประเทศญี่ปุ่น และทาง Canon ยังจัดแคมเปญหนึ่งอย่างเพื่อให้สอดรับกับแพ็กเกจ Rilakkuma ของ Canon EOS M10 ที่เป็นกล้องพกพาง่าย ถ่ายสะดวก พร้อมตุ๊กตาหมีสุดน่ารัก โดยแคมเปญดังกล่าว คือ Toytravel (Nui-Dori) ที่เป็นศิลปะการถ่ายภาพของเล่น โดยการให้ของเล่นเลียนแบบชีวิตจริงของมนุษย์ ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมสนุกกับแคมเปญดังกล่าวได้ที่ Canon-Asia และรับชมวิดีโอการถ่ายภาพ Rilakkuma ในรูปแบบ Toytravel สุดน่ารักได้ที่ CANON EOS M10 x Rilakkuma™ - เพื่อนซี๊คนโปรดของคุณ 
 


Canon EOS M10 x Rilakkuma รุ่น Limited Edition วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน - 31 ธันวาคม 2559 นี้ เท่านั้น (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) โดยจะมีแพ็กเกจเลนส์ 3 แบบ 3 ราคา ให้เลือก ดังนี้

EOS M10 พร้อมเลนส์ 15-45mm ราคา 17,210 บาท 
EOS M10 พร้อมเลนส์ 15-45mm และ EF-M 22 ราคา 21,200 บาท 
EOS M10 พร้อมเลนส์ 15-45mm และ EF-M 55-200 ราคา 26,450 บาท

ก่อนจะจากกันไปต้องขอย้ำท่านผู้อ่านอีกสักครั้งหนึ่งว่า บทความรีวิวฉบับนี้เป็นเพียงตอนที่ 1 ที่เราพาทุกท่านมาเจาะลึกกับการใช้งานเบื้องต้น, โหมดการถ่ายภาพเซลฟี่ และจุดเด่นอย่างโหมด Creative Assist ที่สามารถปรับแต่งโทนสี และรายละเอียดของภาพได้เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วประสิทธิภาพของ Canon EOS M10 ยังมีมากกว่าที่เห็นในบทความนี้อีกมากเพราะตัวกล้องมีโหมดโปรมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น M, Av,Tv และ P ซึ่งในรีวิว Canon EOS M10 ตอนที่ 2 เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโหมดโปรทั้งหมดนี้กันว่า Canon EOS M10 กล้อง Mirrorless รุ่นเล็กตัวนี้ จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากล้องใหญ่รุ่นพี่ DSLR ของค่ายเดียวกันได้หรือไม่ รวมไปถึงภาพถ่ายแบบต่างๆ เช่น ภาพกลางคืน, ภาพถ่ายในที่แสงน้อย, Landscape, ชัดลึก-ชัดตื้น หรือ Toytravel ฯลฯ รับรองว่าทุกท่านจะได้รับชมกันอีกไม่นานเกินรออย่างแน่นอน สำหรับวันนี้ทีมงาน TechmoBlog ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ


จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

- ไม่มี Hot Shoe จึงไม่สามารถต่อแฟลชเสริม หรือช่องมองภาพ (Viewfinder) เพิ่มเติมได้
- ไม่มีช่องเชื่อมต่อไมโครโฟน และหูฟัง
- ไม่มีชัตเตอร์ Bulb
- ไม่มีช่องเชื่อมต่อสายลั่นชัตเตอร์

 

อ่านต่อ (ตอนที่ 2/2) รีวิว (Review) Canon EOS M10 X Rilakkuma กล้องถ่ายภาพแบบ Mirrorless ที่เซลฟี่ได้ขาวสวยเนียนใส และคมชัดทุกรายละเอียด พร้อมเจาะลึกโหมดโปรบนกล้องรุ่นเล็ก ที่ใช้งานได้ไม่แพ้รุ่นใหญ่!

Update : 28/01/2018

Canon EOS M10





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy