หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[iPhone Tips] วิธีการป้องกันปัญหา iPhone X จอเบิร์น ทำอย่างไรได้บ้าง ? พร้อมขั้นตอนการแก้ไขเมื่อพบอาการจอเบิร์นในเบื้องต้น

ปกติแล้ว ผู้ใช้ iPhone ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องของหน้าจอแสดงผลมากนัก เนื่องจาก iPhone ทุกรุ่นที่ผ่านมาเป็นหน้าจอแบบ LCD ซึ่งไม่ค่อยมีปัญหาด้านการใช้งาน แต่สำหรับ iPhone X นั้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบครั้งใหญ่ นอกเหนือจากดีไซน์แล้ว iPhone X ยังเป็น iPhone รุ่นแรกที่เปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบ OLED อีกด้วย ซึ่งปัญหาใหญ่ของหน้าจอแบบ OLED ก็คืออาการที่เรียกว่า burn-in นั่นเอง

 

จอ burn-in คืออะไร ?

จอเบิร์น หรือ burn-in นั้น เกิดจากการที่เปิดหน้าจอค้างไว้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพนิ่งที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดภาพค้างที่หน้าจอแบบลาง ๆ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนเป็นภาพอื่นแล้วก็ตาม ซึ่งปัญหานี้จะเกิดกับจอแบบ OLED ไม่ว่าจะเป็น จอโทรทัศน์, จอคอมพิวเตอร์ รวมถึงสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนมาใช้จอ OLED แม้จะเป็นอาการที่ไม่สามารถแก้ให้หาย แต่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการจอเบิร์นได้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ภาพ screensaver แบบเคลื่อนไหวบนจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

สำหรับผู้ใช้ iPhone X มีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการจอเบิร์นได้อย่างไรบ้าง

1. อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด

ปกติแล้ว Apple จะแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ เพราะนอกจากจะแก้ปัญหาช่องโหว่ต่าง ๆ แล้ว ยังมีฟีเจอร์รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากับการอัปเดตในแต่ละครั้งด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ที่ Settings > General > Software Update

2. หลีกเลี่ยงการเปิดภาพนิ่งและความสว่างหน้าจอสูงสุดเป็นเวลานาน ๆ

อย่างที่กล่าวในตอนต้นว่า จอเบิร์นนั้นเกิดจากการที่เปิดหน้าจอค้างเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งบน iPhone นั้นจะมีบางแอปฯ ที่ต้องเปิดภาพแสดงค้างที่หน้าจอเป็นเวลานาน ทำให้แอปฯ เหล่านี้ไม่เหมาะกับการใช้งานบน iPhone X รวมถึงการเปิดความสว่างของหน้าจอจนสุดก็ไม่เหมาะเช่นกัน ควรปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานจะดีกว่า

3. เปิดโหมด Auto-Brightness

โหมด Auto-Brightness นั้น จะช่วยปรับแสงบนหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้น ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดอาการจอเบิร์นได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงถนอมหน้าจอให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมอีกด้วย

4. ตั้งค่าเวลาล็อกหน้าจอแสดงผลให้เร็วขึ้น

เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอเปิดหน้าจอค้างไว้เป็นเวลานาน ๆ ฉะนั้นควรจะต้องตั้งค่าเวลาล็อกหน้าจอแสดงให้เร็วขึ้น โดยสามารถตั้งค่าได้เร็วสุดที่ 30 วินาที หรือเลือกเวลาให้เหมาะสมกับการใช้งาน ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Display & Brightness > Auto-Lock

 

ในกรณีที่มีอาการจอเบิร์นแล้ว มีวิธีการแก้ไขอย่างไรบ้าง ?

สำหรับผู้ใช้ iPhone X ที่คิดว่าเริ่มมีอาการจอเบิร์นแล้ว ให้ลองแก้ปัญหาในเบื้องต้นก่อน ด้วยการปิดเครื่องชั่วคราวประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยเปิดใช้งานอีกครั้ง ถ้าหากเป็นไม่มากภาพที่ค้างอยู่จะเลือนหายไป แต่ถ้าหากเปิดเครื่องกลับมาแล้ว ภาพยังคงค้างอยู่ ให้ปิดเครื่องและทิ้งไว้นานกว่าเดิม ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือปิดทิ้งไว้ทั้งคืน แล้วให้เปิดเครื่องและใช้งานตามปกติว่า ภาพค้างยังคงปรากฏอยู่หรือไม่

แต่ถ้าหากทำตามวิธีข้างต้นแล้ว ภาพค้างยังคงอยู่ แนะนำให้ส่งศูนย์เพื่อทำการแก้ไขอีกครั้ง

 

 

---------------------------------------
ที่มา : idropnews.com

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 25/01/2018

Apple iOS tips iPhone X IT จอเบิร์น iPhone tips





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy