หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] Flash Plus 2 มือถือแอนดรอยด์ระดับกลางน้องใหม่ ด้วยบอดี้แบบโลหะสุดแกร่ง บนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และไฟแฟลชที่กล้องด้านหน้า เคาะราคาเบาๆ เพียง 4,990 บาทเท่านั้น

เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Flash Plus 2 (Alcatel เดิม) สมาร์ทโฟนรุ่นที่ 4 ในซีรี่ส์ Flash โดยรุ่นนี้ เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่เคาะราคาเพียง 4,990 บาทเท่านั้น แต่อัดแน่นด้วยสเปคแบบจัดเต็ม รวมไปถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยหรูและไม่เหมือนใคร โดยกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะสุดแกร่ง พร้อมฝาด้านหลังแบบโลหะขัดเงา อีกทั้งยังสามารถถอดแกะฝาหลังได้

ในส่วนของสเปคนั้น มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์อย่าง Helio P10 ซีรี่ส์ล่าสุดจาก MTK, ตอบโจทย์ความต้องการด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานเดียวกับรุ่นเรือธง ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการสแกน 360 องศา จดจำลายนิ้วมือได้รอบทิศ และฟังก์ชันชาร์จแบตเตอรี่แบบด่วน โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ในเวลา 40 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดอีกด้วย

Flash Plus 2 มือถือสเปคแรง ในราคาหลักพันรุ่นนี้ จะมีของดีอะไรซ่อนไว้บ้าง มาพิสูจน์ไปพร้อมๆ กันกับ รีวิว Flash Plus 2 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

สเปค Flash Plus 2
  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ Rainbow FHD IPS Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)
  • ชิปเซ็ต MTK Helio P10 MT6755M แบบ 64-bit Octa-Core Processor (ประกอบด้วย Quad-Core 1.8 GHz และ Quad-Core 1.0 GHz)
  • หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก ARM Mali-T860 MP2 550MHz
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB หรือ 3 GB
  • หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช
  • กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
  • แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)

>> สเปค Flash Plus 2 อย่างละเอียด คลิกที่นี่

รีวิว Flash Plus 2 : ดีไซน์ และการออกแบบ

Flash Plus 2 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ Rainbow FHD IPS Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi) ซึ่งหน้าจอนั้นใช้เทคโนโลยี OGS ที่ประสานเนื้อจอภาพและกระจก ทำให้การมองภาพได้ชัดใกล้มากยิ่งขึ้นและมีผลกระทบจากแสงภายนอกน้อยกว่า นอกจากนี้ ยังมี Miravision 2.0 ที่ช่วยปกป้องการใช้สายตาระหว่างการใช้งาน ปรับให้มีค่าแสงและความสว่างที่เหมาะสมกับผู้ใช้ และให้ภาพที่มีแสงสวยงามตามสภาวะการใช้งาน

หน้าบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ไฟ LED สำหรับแจ้งเตือนสถานะต่างๆ, ไฟแฟลชสำหรับกล้องด้านหน้า, ลำโพงสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และปุ่ม Recent Apps ซึ่งปุ่ม Home นั้น รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา ปลดล็อกได้ภายในเวลา 0.5 วินาทีเท่านั้น

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มควบคุมการทำงาน และพอร์ตต่างๆ

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นพอร์ต microUSB, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และมุมขวานั้นจะเป็นช่องสำหรับแกะฝาด้านหลัง

Flash Plus 2 มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Real Tone LED Flash ซึ่งฝาหลังนี้ จะเป็นโลหะที่ผ่านกระบวนการทางเทคนิคและการขัดเงาขึ้นลวดลายสวยงาม พร้อมโลโก้ Flash ส่วนด้านล่าง เป็นลำโพงเสียง

โดย Flash Plus 2 สามารถถอดแกะฝาหลังได้ ภายในประกอบด้วยแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3000 mAh (ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้), รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 128 GB และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่อง ประกอบด้วย ตัวเครื่อง Flash Plus 2, Adapter สำหรับชาร์จไฟ และสาย microUSB

รีวิว Flash Plus 2 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

Flash Plus 2 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด โดยในหน้า Lock Screen นั้น ประกอบด้วยเมนูลัด 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ การสั่งงานด้วยเสียง, ปลดล็อก และกล้องถ่ายรูป

การแตะค้างที่หน้า Homescreen นั้น จะสามารถปรับแต่งอินเทอร์เฟสได้ เช่น วอลเปเปอร์ และ Widget รวมถึงเข้าหน้าการตั้งค่าได้จากส่วนนี้เช่นกัน

Notification แถบการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น ข้อความเข้า หรืออีเมลใหม่ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานแบบลัดได้ เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi, เปิด-ปิด Bluetooth, Airplane Mode, ไฟฉาย และอื่นๆ

ปุ่ม Recent Apps จะเป็นการสลับไปใช้แอปพลิเคชันอื่นที่เคยเปิดใช้งานแล้วก่อนหน้า หรือปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการเพื่อเป็นการเพิ่มหน่วยความจำ RAM ให้กับตัวเครื่อง

App Drawer หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวเครื่อง

สำหรับลายนิ้วมือสำหรับสแกนเพื่อปลดล็อกหน้าจอนั้น สามารถเพิ่มได้ถึง 5 ลายนิ้วมือด้วยกัน โดยวิธีการเพิ่มลายนิ้วมือนั้น เพียงแค่ทาบนิ้วลงไป แล้วยกขึ้น และทาบลงไปใหม่จนครบตามขั้นตอน

เมื่อเพิ่มลายนิ้วมือได้สำเร็จแล้ว จะสังเกตเห็นได้ว่า ในหน้า Lock Screen นั้น ไอคอนล็อกหน้าจอ จะเปลี่ยนเป็นรูปลายนิ้วมือแล้ว สามารถสแกนเพื่อปลดล็อกได้เลยทันที ซึ่งจากการทดสอบพบว่า ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถใช้ประโยชน์ของการสแกนลายนิ้วมือ เข้าถึงแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ตั้งค่าลายนิ้วมือที่ 1 สำหรับเข้าสู่แอปฯ Camera 360 และลองทดสอบด้วยการแตะนิ้วมือที่ 1 ที่ปุ่ม Home ก็จะเปิดแอปฯ Camera 360 ทันที ถือว่า สะดวกและรวดเร็วมากทีเดียวครับ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์กับแอปฯ อื่นๆ ได้ เช่น นิ้วชี้ เข้า Facebook, นิ้วก้อย เข้า LINE เป็นต้น

สำหรับบริการต่างๆ ของกูเกิล ถือว่า มีให้เลือกใช้งานกันอย่างครบครันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Maps, YouTube และอื่นๆ

เครื่องคิดเลขบน Flash Plus 2 นั้น นอกจากจะใช้คำนวณแบบปกติแล้ว การปัดไปด้านขวา จะเป็นเครื่องคิดเลขแบบวิทยาศาสตร์

สำหรับคุณสมบัติด้านเสียงนั้น Flash Plus 2 รุ่นนี้ มาพร้อมกับชิปถอดรหัส DAC AKM4375 ประสิทธิภาพแบบ 32-bit คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ซึ่งสามารถเพิ่มความดังได้ในระดับ 5-9 เดซิเบลจากปกติ ทำให้ได้เสียงที่ดังและคมชัด แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวนก็ตาม

นอกจากนี้ ในแอปพลิเคชันเพลงนั้น จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เรียกว่า Mix Production สามารถสร้างจังหวะดนตรีของตนเองได้ เพียงแค่ใช้นิ้วมือแตะที่ตัวแผ่น คล้ายกับการสแครชแผ่นนั่นเอง

ทดสอบการประมวลผลในการเล่นเกมกันบ้าง โดย Flash Plus 2 รุ่นที่ใช้ทำการทดสอบนี้ มาพร้อมกับชิปเซ็ต MTK Helio P10 MT6755M แบบ 64-bit Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก ARM Mali-T860 MP2 และ หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB ซึ่งถือว่า ประมวลผลการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีหน่วงหรือสะดุดแต่อย่างใด

ปิดท้ายด้วยการทดสอบ Benchmark กันบ้าง ซึ่งการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant ทำได้ 16,661 คะแนน ส่วน AnTuTu ทำได้ 42,332 คะแนน

และการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench ทำได้ 784 คะแนนสำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ 3,033 คะแนนสำหรับการทดสอบแบบ Multi-Core ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 5 จุด

รีวิว Flash Plus 2 : ทดสอบกล้องถ่ายรูป

ในส่วนของกล้องถ่ายรูปนั้น Flash Plus 2 รุ่นนี้ถือว่า โดดเด่นไม่แพ้รุ่นอื่นเช่นกัน โดยกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ที่มีค่า CRI มากถึง 80 ที่ช่วยเพิ่มและชดเชยแสงให้เหมาะกับการเซลฟี่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้างถึง 84.4 องศาทำให้ถ่ายภาพกลุ่มคนได้สะดวกมากขึ้น

สำหรับโหมดถ่ายภาพเซลฟี่นั้น สามารถปรับแต่งใบหน้าได้ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ ลบริ้วรอย กับเพิ่มความขาวใส

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหน้า

สำหรับกล้องด้านหลังนั้น มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ที่มีการทำงานแบบ Double-Color RealTone ที่ให้ความใกล้เคียงเทียบเท่าแสงธรรมชาติ ร่วมกับการชดเชยและแก้ไขแสงบางจุดที่อาจจะขาดหายหรืออ่อนเกิน ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ดีขึ้นและสวยขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF ที่ช่วยทำให้โฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

นอกจากนี้ กล้องถ่ายรูปบน Flash Plus 2 ยังมีโหมดเด็ก กับตัวเลือกของเสียงร้อง (ไอคอนตัวโน้ต) ที่มีให้เลือกหลายแบบ เช่น เสียงแมว, เสียงแตรรถ, เสียงแกะ เพื่อดึงดูดให้เด็กสนใจและสามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

บทสรุปการใช้งาน

สำหรับ Flash Plus 2 นั้น ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่คุ้มค่าเกินราคาเลยก็ว่าได้ ด้วยคุณสมบัติที่เทียบเท่ารุ่นระดับไฮเอนด์ ในราคาหลักพันเท่านั้น โดย Flash Plus 2 รุ่นนี้ มาพร้อมกับตัวเครื่องกรอบโลหะ และฝาหลังแบบโลหะที่ผ่านกระบวนการทางเทคนิคและการขัดเงาขึ้นลวดลายสวยงาม บนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ แบบ Rainbow FHD IPS Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมเทคโนโลยี OGS ทำให้การมองภาพได้ชัดใกล้มากยิ่งขึ้น และลดแสงตกกระทบจากภายนอก, ชิปเซ็ต MTK Helio P10 MT6755M แบบ 64-bit Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก ARM Mali-T860 MP2, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช และเลนส์มุมกว้าง 84.4 องศา สำหรับการถ่ายภาพแบบกลุ่ม, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Double-Color RealTone, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charger ที่ไวกว่าการชาร์จทั่วไปถึง 3 เท่า ชาร์จเต็ม 50% ในเวลาเพียง 40 นาที และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) เวอร์ชันล่าสุดอีกด้วย

นอกจากนี้ Flash Plus 2 ยังรองรับระบบการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home ด้วยเทคโนโลยีการจดจำลายนิ้วมือถึง 360 องศา ทำให้สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 0.5 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ ไม่เพียงแต่ไว้ใช้ปลดล็อกหน้าจอ แต่สามารถตั้งค่าให้เข้าถึงแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยได้ ยกตัวอย่างเช่น สแกนนิ้วโป้งขวา เข้า Facebook หรือ สแกนนิ้วชี้ซ้าย เข้า LINE เป็นต้น ทำให้ช่วยลดเวลาในการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ในด้านของคุณภาพเสียงนั้น Flash Plus 2 ใช้ชิปเสียงถอดรหัส DAC AKM4375 ประสิทธิภาพแบบ 32-bit คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ซึ่งสามารถเพิ่มความดังได้ในระดับ 5-9 เดซิเบลจากปกติ ทำให้ได้เสียงที่ดังและคมชัด แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวนก็ตาม

โดย Flash Plus 2 นั้น จะมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ รุ่น RAM 2 GB (รุ่นที่ใช้ทดสอบ) ราคาอยู่ที่ 4,990 บาท และรุ่น RAM 3 GB ราคา 5,990 บาท มี 2 สีให้เลือก ได้แก่ Luna Silver และ Venus Gold โดย Flash Plus 2 จะวางจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ Lazada ในวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2559 นี้ เวลา 12.00 - 14.00 น. เท่านั้น พร้อมโปรโมชันพิเศษจากทรูมูฟ เอช นั่นก็คือ รับค่าโทรในเครือข่ายฟรี 5,400 บาท และใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G ฟรี 9 GB มูลค่า 300 บาท (30 วัน/รอบ) หรืออินเทอร์เน็ต 500 MB/เดือน (15 วัน/รอบ)

จุดเด่นของ Flash Plus 2

  • กรอบตัวเครื่อง และฝาหลังแบบโลหะที่ผ่านกระบวนการทางเทคนิคและการขัดเงาขึ้นลวดลายสวยงาม
  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ Rainbow FHD IPS Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)
  • ชิปเซ็ต MTK Helio P10 MT6755M แบบ 64-bit Octa-Core Processor (ประกอบด้วย Quad-Core 1.8 GHz และ Quad-Core 1.0 GHz)
  • หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก ARM Mali-T860 MP2 550MHz
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB หรือ 3 GB
  • หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช และเลนส์มุมกว้าง 84.4 องศา
  • กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Double-Color RealTone และระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charger ที่ไวกว่าการชาร์จทั่วไปถึง 3 เท่า ชาร์จเต็ม 50% ในเวลาเพียง 40 นาที
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
  • ระบบการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home ด้วยเทคโนโลยีการจดจำลายนิ้วมือถึง 360 องศา ทำให้สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 0.5 วินาที
  • ชิปเสียงถอดรหัส DAC AKM4375 ประสิทธิภาพแบบ 32-bit คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ซึ่งสามารถเพิ่มความดังได้ในระดับ 5-9 เดซิเบลจากปกติ ทำให้ได้เสียงที่ดังและคมชัด แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน
  • รองรับการใช้งาน 4G LTE/3G/Wi-Fi
  • ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
  • มีวิทยุ FM ในตัว
  • ราคาเปิดตัวเพียง 4,990 บาท

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

  • ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้

ข้อควรทราบ: “เครื่อง Flash Plus 2 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง Flash เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 23/05/2016

Flash Plus 2 รีวิว Flash Plus 2





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy