Facebook เตรียมปรับให้วิดีโอบนแอปมือถือเล่นเองพร้อมเสียงโดยอัตโนมัติ คาดตั้งเป้าพลิกโฉมเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ YouTube

เมื่อวานนี้ ทาง Facebook ได้ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหลายอย่างที่เกี่ยวกับการเล่นวิดีโอบนแอปพลิเคชัน Facebook หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ดูจะมีผลกระทบกับผู้ใช้มากที่สุดคือการตั้งค่าพื้นฐานแบบใหม่ที่จะเล่นวิดีโอพร้อมเสียงโดยอัตโนมัติ หรือถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็คือ หากสมาร์ทโฟนของเราเปิดเสียงอยู่ และเราไม่ได้เข้าไปแก้ไขการตั้งค่าใดๆ ในแอปพลิเคชัน Facebook คลิปวิดีโอทุกคลิปที่ปรากฏบนหน้าฟีดของเราจะเล่นเองโดยอัตโนมัติเมื่อเราเลื่อนฟีดมาเจอและจะมีเสียงมาด้วยเสมอ โดยเสียงจะเบาลงเรื่อยๆ เมื่อเราเลื่อนหน้าฟีดผ่านไป จากแต่เดิมที่การตั้งค่าพื้นฐานเป็นการปิดเสียงวิดีโออยู่แล้ว

Facebook ได้บอกกับเว็บไซต์ The Verge ว่า เสียงจากวิดีโอจะไม่ไปขัดจังหวะเพลงของ Apple Music หรือเพลงที่มาจากแอปพลิเคชันอื่นๆ และยังย้ำว่า ทาง Facebook จะพยายามไม่ให้เรื่องนี้ก่อความหงุดหงิดรำคาญกับผู้ใช้ การเปลี่ยนแปลงแบบมัดมือชกครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามตามมาหลายอย่าง เช่น ถ้าหากผู้ใช้ที่ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนกำลังอยู่ในห้องประชุมหรือห้องเรียนแล้วบังเอิญเลื่อนฟีดลงมาเจอวิดีโอจะทำอย่างไร ซึ่งทาง Facebook ก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้ตรงๆ แต่บอกเพียงว่าสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้โดยเข้าไปปิด toggle “Videos in News Feed Start With Sound” ในส่วนการตั้งค่า (แต่ทางที่ดีคือพยายามตั้งโหมดเงียบหรือโหมดสั่นไว้ก่อนดีกว่า)

เหตุผลที่ต้องเล่นเสียงไปพร้อมกับวิดีโอด้วยนั้น เนื่องจาก Facebook เชื่อว่าเสียงจะทำให้ผู้ใช้ยอมดูวิดีโอนานขึ้น หากลองมองย้อนกลับไปสักสองสามปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า Facebook ได้พยายามเปลี่ยนโซเชียลเน็ตเวิร์คให้กลายเป็นแหล่งรวมสื่อวิดีโอทั้งแบบคลิปทั่วไปและแบบ Live สด หากมองให้ลึกลงไปอีก เป็นไปได้ว่า Facebook ต้องการที่จะพลิกโฉมแอปพลิเคชันของตัวเองให้เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอเช่นเดียวกับ YouTube และอาจต้องการให้ผู้ใช้รับรู้ว่า Facebook ไม่ใช่โซเชียลมีเดียที่มีแต่ข้อความ รูปภาพ หรือลิงค์อีกต่อไป

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของ Facebook ในครั้งนี้น่าจะสวนทางกับความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ซึ่งก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่า Facebook จะกล่อมผู้ใช้ให้มองตัวเองเป็น YouTube ได้อย่างที่หวังหรือไม่ครับ

---------------------------------------
ที่มา : TheVerge, Facebook Newsroom
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 15/02/2017